ร่างกายของท่าน: ของประทานอันงดงามที่พึงหวงแหน
ร่างกายท่านเป็นงานสร้างที่งดงามของพระผู้เป็นเจ้า
ยิ่งอยู่นาน ข้าพเจ้ายิ่งมีความรู้ ความรู้นั้นช่วยให้ข้าพเจ้าเข้าใจว่าของประทานแห่งร่างกายคือปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติ พระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักเราประทานร่างกายให้เราแต่ละคนไม่เหมือนกัน พระองค์ทรงสร้างร่างกายให้เป็นที่พักชั่วคราวของวิญญาณเรา เพื่อช่วยเหลือเราแต่ละคนในการพยายามทำให้จุดประสงค์ของการสร้างเราเกิดสัมฤทธิผลเต็มที่ ร่างกายเราช่วยให้เราแต่ละคนประสบแผนอันสำคัญยิ่งแห่งความรอดที่พระองค์ทรงออกแบบไว้ให้บุตรธิดาที่ล้ำค่าทุกคนของพระองค์ พระองค์ทรงต้องการให้เราเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นและกลับไปอยู่กับพระองค์ในท้ายที่สุด พรประเสริฐเช่นนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้หากเราไม่ได้รับร่างกายในสภาพแห่งการทดลองนี้ก่อน
พระผู้เป็นเจ้าพระบิดาของวิญญาณเรา1 ทรงมีพระวรกายเป็นเนื้อหนังและกระดูกที่สมบูรณ์แบบและมีรัศมีภาพ2 เราอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ก่อนเราเกิด3 เมื่อทรงสร้างเราทางกาย พระองค์ทรงสร้างเราตามรูปลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้า แต่ละคนมีร่างกายของตน4
เราเป็นจุดประสงค์ส่วนหนึ่งของพระองค์ “งานของเราและรัศมีภาพของเรา” พระองค์ตรัส คือ “การทำให้เกิดความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ของมนุษย์”5
เราเป็นสัตภาวะคู่
จิตวิญญาณแต่ละดวงประกอบด้วยร่างกายและวิญญาณ6 ทั้งสองส่วนมาจากพระผู้เป็นเจ้า ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับร่างกายและวิญญาณจะหล่อหลอมความคิดและการกระทำของเราให้ดีขึ้น
ก่อนการดำรงอยู่ในชีวิตมรรตัยที่นี่ บุตรธิดาทางวิญญาณแต่ละคนอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า วิญญาณดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ ดำรงอยู่ในสภาพไร้บาปในโลกก่อนเกิด7 และจะดำรงอยู่หลังจากร่างกายตาย8 วิญญาณทำให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวและมีบุคลิกภาพ9 “วิญญาณทั้งปวงเป็นสสาร, แต่ละเอียดหรือบริสุทธิ์กว่า”10
การพัฒนาวิญญาณมีผลนิรันดร์ คุณลักษณะที่เราจะถูกตัดสินในวันหน้าคือคุณลักษณะของวิญญาณ11 รวมถึงคุณลักษณะของคุณธรรม ความสุจริต ความเห็นใจ ความรัก และอื่นๆ12 วิญญาณของท่านที่อยู่ในร่างกายสามารถพัฒนาและแสดงคุณลักษณะเหล่านี้ในหลายๆ ด้านซึ่งสำคัญยิ่งต่อความก้าวหน้านิรันดร์ของท่าน13
วิญญาณและร่างกายเมื่อรวมกันจะกลายเป็นจิตวิญญาณอันสูงค่าที่มีชีวิต “วิญญาณกับร่างกายรวมกันเป็นจิตวิญญาณของมนุษย์”14 ทั้งสองมีความสำคัญมาก ร่างกายของท่านเป็นงานสร้างที่งดงามของพระผู้เป็นเจ้า ร่างกายเป็นวิหารของพระองค์เช่นเดียวกับของท่านและต้องปฏิบัติต่อร่างกายด้วยความเคาพ พระคัมภีร์ประกาศว่า
“ท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าร่างกายของพวกท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้สถิตในท่าน ผู้ซึ่งพวกท่านได้รับจากพระเจ้า และท่านทั้งหลายไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง?
“เพราะว่าพระเจ้าทรงซื้อท่านไว้แล้วด้วยราคาสูง ฉะนั้น จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของพวกท่านเถิด”15
ร่างกายของท่านเป็นงานสร้างที่งดงามของพระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าของประทานตามธรรมชาติของร่างกายเป็นอะไรก็ตาม ร่างกายเป็นที่พักชั่วคราวของเนื้อหนัง—วิหารสำหรับวิญญาณท่าน การศึกษาร่างกายของท่านยืนยันว่าพระเจ้าทรงออกแบบร่างกาย
ร่างกายท่านเป็นของประทานอันงดงาม
เรามักจะมองข้ามหรือไม่เห็นคุณค่าความมหัศจรรย์ของร่างกายเรา ใครไม่เคยรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเพราะร่างกายหรือรูปลักษณ์ภายนอกบ้าง หลายคนประสงค์ให้ร่างกายตนเป็นอย่างที่ตนชอบมากกว่า คนที่มีผมตรงตามธรรมชาติก็อยากมีผมหยิก คนที่เกิดมาผมหยิกก็อยากมีผมตรง
ลองไตร่ตรองความงดงามของสิ่งที่ท่านเห็นเมื่อท่านส่องกระจก ลองมองข้ามกระบนผิวหน้า ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง หรือจุดด่างดำ และมองให้เห็นตัวจริงของท่าน—ลูกของพระผู้เป็นเจ้าที่พระองค์ทรงสร้างตามรูปลักษณ์ของพระองค์
เมื่อท่านร้องเพลง “ฉันลูกพระผู้เป็นเจ้า”16 ให้นึกถึงของประทานแห่งร่างกายที่ทรงมอบให้ท่าน คุณลักษณะอันน่าพิศวงมากมายของร่างกายท่านยืนยัน “ลักษณะของพระเจ้า” ในท่าน17
อวัยวะต่างๆ ของร่างกายท่านเป็นของประทานอันน่าพิศวงจากพระผู้เป็นเจ้า ดวงตาแต่ละข้างมีเลนส์โฟกัสอัตโนมัติ เส้นประสาทและกล้ามเนื้อควบคุมดวงตาทั้งสองข้างเพื่อทำให้เกิดภาพสามมิติภาพเดียว ดวงตาเชื่อมโยงกับสมองซึ่งบันทึกภาพที่เห็น
หัวใจเป็นปั๊มมหัศจรรย์18 มีลิ้นบางๆ สี่ลิ้นควบคุมทิศทางการไหลเวียนโลหิต ลิ้นเหล่านี้เปิดปิดวันละมากกว่า 100,000 ครั้ง—ปีละ 36 ล้านครั้ง แต่หากไม่มีโรคภัย ลิ้นสามารถทนความเครียดเช่นนั้นได้แทบไม่จำกัด
ลองนึกถึงระบบคุ้มกันของร่างกาย ร่างกายรับรู้ความเจ็บปวดเพื่อป้องกันอันตราย ร่างกายสร้างภูมิต้านทานเพื่อตอบสนองการติดเชื้อ ผิวหนังมีไว้ป้องกัน เตือนให้ระวังการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากร้อนหรือเย็นเกินไป
ร่างกายผลัดเซลล์ที่หมดอายุ สามารถเยียวยาบาดแผล รอยฟกช้ำ และกระดูกหัก ความสามารถของร่างกายในการให้กำเนิดเป็นของประทานอันศักดิ์สิทธิ์อีกประการหนึ่งจากพระผู้เป็นเจ้า
ร่างกายปรับระดับส่วนประกอบนับไม่ถ้วนอย่างสม่ำเสมอ เช่น เกลือ น้ำ น้ำตาล โปรตีน ออกซิเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ ร่างกายควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้อย่างน่าทึ่งโดยที่เราไม่รู้ตัว
พึงจำไว้ว่าการบรรลุจุดหมายอันสูงส่งไม่จำเป็นต้องมีร่างกายที่สมบูรณ์แบบ อันที่จริงวิญญาณที่ล้ำเลิศบางวิญญาณอยู่ในเรือนร่างที่อ่อนแอ คนที่ประสบความท้าทายทางกายมักมีพลังยิ่งใหญ่ทางวิญญาณ—เพราะพวกเขาได้รับความท้าทาย บุคคลเช่นนั้นมีสิทธิ์ได้รับพรทุกประการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเตรียมไว้ให้บุตรธิดาที่ซื่อสัตย์และเชื่อฟังของพระองค์19
ชีวิตมรรตัยจบลงที่ความตาย สุดท้ายแล้วเวลาจะมาถึงเมื่อ “วิญญาณและร่างกายจะรวมกันอีกในรูปแบบอันสมบูรณ์; ทั้งแขนขาและข้อต่อจะกลับคืนสู่โครงร่างอันถูกต้อง”20 ต่อจากนั้นเพราะพระเยซูคริสต์และการชดใช้ของพระองค์ เราจะได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์21 ใครก็ตามที่ศึกษาการทำงานของร่างกายมนุษย์จะ “เห็นพระผู้เป็นเจ้าทรงเคลื่อนไหวในพระบารมีและเดชานุภาพของพระองค์”22
วิญญาณของเราควรควบคุมร่างกายของเรา
ถึงแม้ร่างกายของท่านจะน่าทึ่งแต่จุดประสงค์สำคัญที่สุดดังกล่าวไว้ข้างต้นมีความสำคัญกว่านั้น—นั่นคือร่างกายเป็นที่อยู่ของวิญญาณนิรันดร์
วิญญาณของท่านได้รับร่างกายและกลายเป็นจิตวิญญาณที่มีชีวิต ต้องประสบความเป็นมรรตัยรวมถึงการทดลองและการทดสอบที่เกี่ยวข้อง การทดสอบส่วนหนึ่งคือเพื่อดูว่าวิญญาณที่อยู่ในร่างกายควบคุมความอยากของร่างกายท่านได้หรือไม่
เมื่อเราเข้าใจธรรมชาติและจุดประสงค์ของเราบนแผ่นดินโลกและร่างกายของเราเป็นวิหารทางกายของพระผู้เป็นเจ้า เราจะตระหนักว่าการปล่อยให้สิ่งใดเข้ามาทำให้ร่างกายมีมลทินคือการดูหมิ่นร่างกาย เราไม่เคารพร่างกายเลยถ้าปล่อยให้สายตาอันมีค่าของเราหรืออวัยวะรับการสัมผัสหรือการได้ยินของเราใส่ความทรงจำที่ไม่สะอาดหรือไม่คู่ควรเข้าไปในสมองของเรา เราจะหวงแหนความบริสุทธิ์ทางเพศของเราและหลีกเลี่ยง “ความอยากมากมายที่โง่เขลาและอันตรายซึ่งฉุดคนเราให้ลงไปสู่ความพินาศและความย่อยยับ”23 เราจะ “หลีกหนีจากสิ่งเหล่านี้ และจงใฝ่หาความชอบธรรม ทางพระเจ้า ความเชื่อ ความรัก ความทรหดอดทน และความสุภาพอ่อนน้อม”24—คุณสมบัติที่ปรับปรุงจิตวิญญาณทั้งดวง
พระเจ้าทรงห้ามใช้สารต่างๆ เช่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และยาอันตราย เราได้รับคำเตือนคล้ายกันเกี่ยวกับความชั่วร้ายของสื่อลามกและความคิดที่ไม่สะอาด ความอยากที่มีต่ออิทธิพลอันเสื่อมโทรมเหล่านี้จะทำให้เราเสพติด สุดท้ายการเสพติดทางกายหรือทางจิตทำให้ ทั้ง ร่างกายและวิญญาณตกเป็นทาส การกลับใจจากโซ่ตรวนเช่นนั้นควรทำให้สำเร็จในชีวิตนี้ขณะที่เรายังมีร่างกายช่วยเราพัฒนาการควบคุมตนเอง
พระผู้สร้างทรงใส่ความอยากไว้ในร่างกายเราเพื่อขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์และทำให้แผนอันสำคัญยิ่งแห่งความสุขของพระองค์เกิดสัมฤทธิผล ด้วยเหตุนี้เราจึงมีความอยากอาหาร น้ำ และความรัก
ซาตานรู้ถึงพลังความอยากของเรา เขาจึงล่อลวงเราให้กินสิ่งที่เราไม่ควรกิน ดื่มสิ่งที่เราไม่ควรดื่ม และดูหมิ่นการแสดงความความรักที่ละเอียดอ่อนที่สุดโดยใช้ความรักนั้นนอกพันธะของการแต่งงาน
เมื่อเรารู้ธรรมชาติอันสูงส่งของเราจริงๆ เราจะต้องการควบคุมความอยากเช่นนั้น และเราจะโฟกัสตาให้อยู่กับภาพ โฟกัสหูให้อยู่กับเสียง และโฟกัสสมองให้อยู่กับความคิดที่เป็นความภูมิใจแก่การสร้างร่างกายเราให้เป็นวิหารของพระผู้เป็นเจ้า ในการสวดอ้อนวอนแต่ละวันขอให้เรายอมรับด้วยความสำนึกคุณว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้างของเราและขอบพระทัยพระองค์สำหรับความงดงามของร่างกายเรา เราจะดูแลร่างกายและหวงแหนเสมือนเป็นของประทานส่วนตัวจากพระผู้เป็นเจ้า
ทำตามพระผู้ช่วยให้รอด
เพื่อให้บรรลุจุดหมายสูงสุดของเรา เราต้องเลียนแบบพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์ทรงประกาศว่า “เจ้าควรเป็นคนอย่างไรเล่า? … แม้ดังที่เราเป็น”25 ความหวังสูงสุดของเราคือเติบโตในวิญญาณและบรรลุ “ขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์”26
จำไว้ว่า ไม่มีช่วงใดของชีวิตผ่านไปโดยไม่มีการล่อลวง การทดลอง หรือความทรมาน ไม่ว่าจะทางวิญญาณหรือทางร่างกาย แต่เมื่อท่านพัฒนาการควบคุมตนเองร่วมกับการสวดอ้อนวอน ความปรารถนาของเนื้อหนังจะอยู่ใต้การควบคุมทางวิญญาณของท่าน และเมื่อทำได้สำเร็จ ท่านจะมีพลังทำตามพระประสงค์ของพระบิดาบนสวรรค์ของท่าน พึงระลึกว่า พระเยซูตรัสดังนี้ “อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์”27
เมื่อการทดลองเพิ่มขึ้นและจะเพิ่มขึ้นแน่นอน จงจำคำสัญญาอันน่ายินดีของพระผู้ช่วยให้รอดที่ว่า “คนที่ชนะเราจะให้เขานั่งกับเราบนพระที่นั่งของเรา เหมือนอย่างที่เรามีชัยชนะแล้วและได้นั่งกับพระบิดาของเราบนพระที่นั่งของพระองค์”28
ขอให้เราสำนึกคุณตลอดไปต่อพรอันเหลือเชื่อของร่างกายที่งดงามซึ่งเป็นงานสร้างสูงสุดของพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักเรา ที่สำคัญเท่ากับร่างกายเราคือร่างกายไม่สิ้นสุดในตัวมันเอง แม้ร่างกายของเราจะสำคัญถึงเพียงนี้ แต่ร่างกายไม่ใช่จุดหมายด้วยตัวของมันเอง ร่างกายเป็นส่วนจำเป็นในแผนอันสำคัญยิ่งแห่งความสุขของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อความก้าวหน้านิรันดร์ของเรา ถ้าเราให้เกียรติร่างกายตามที่พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญญัติไว้ เราจะคงอยู่บน “ทางคับแคบและแคบนี้ซึ่งนำไปสู่ชีวิตนิรันดร์”29
พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างที่ยิ่งใหญ่ของเรา ข้าพเจ้าประกาศในฐานะพยานพิเศษของพระองค์ว่าพระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ “ทรงเป็นชีวิตและแสงสว่างของโลก”30
เราเป็นบุตรและธิดาของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของเรา เราเป็นลูกของพระองค์ มรดกอันสูงส่งของเราคือความงดงามของมนุษยชาติ มรดกของเราศักดิ์สิทธิ์ ศักยภาพของเราไร้ขีดจำกัด ขอให้เราให้เกียรติของประทานของพระองค์และมรดกนั้นเสมอในทุกสิ่งที่เราทำและพูด