ใครก็ได้ยกเว้นเขา!
เมื่อดิฉันได้ยินเกี่ยวกับโปรแกรมคริสต์มาส “แสงส่องโลก” และวันบำเพ็ญประโยชน์ทั่วโลกของศาสนจักร ดิฉันคิดว่า “ช่างเป็นความคิดที่ดี ฉันจะทำ”
สองสามวันก่อนวันบำเพ็ญประโยชน์ทั่วโลกในวันที่ 1 ธันวาคม ดิฉันฉุกคิดถึงคนที่ดิฉันต้องช่วย โดยฉับพลันนั้น ดิฉันคิดว่า “ใครก็ได้ยกเว้นเขา!” บุคคลคนนี้ทำร้ายดิฉันอย่างรุนแรงมาหลายปี แต่ยิ่งชื่อของเขากวนใจดิฉันมากเท่าใด ดิฉันยิ่งรู้ว่าความคิดนี้มาจากพระวิญญาณ
ดิฉันบอกสามีถึงสิ่งที่ดิฉันคิดและเขาบอกว่าการรับใช้ชายคนนี้จะดีสำหรับฉัน แต่ดิฉันยังรู้สึกกังวลมากเกี่ยวกับความคิดที่ว่าจะช่วยเขา ดิฉันรู้ว่าดิฉันทำสิ่งนี้เองไม่ได้ ดิฉันจึงสวดอ้อนวอนทูลขอความเข้มแข็งและขอให้บางคนไปกับดิฉัน ในที่สุด ดิฉันโทรหาซิสเตอร์ผู้สอนศาสนาและพวกเธอยินดีไปกับดิฉัน
เมื่อถึงวันที่ 1 ธันวาคมดิฉันกังวลมากจนรู้สึกว่าตัวสั่นขณะขับรถ เราสวดอ้อนวอนด้วยกันเมื่อเราไปถึงอพาร์ตเมนต์ ดิฉันสูดลมหายใจลึกๆ สองสามครั้งและเคาะประตู ชายคนนั้นเปิดประตู แต่ดูเหมือนเขาจะจำดิฉันไม่ได้ ดิฉันถามว่าเขารู้ไหมว่าดิฉันเป็นใคร เขาคิดว่าดิฉันเป็นซิสเตอร์ผู้สอนศาสนาคนหนึ่ง เมื่อดิฉันบอกเขาว่าดิฉันเป็นใคร เขาประหลาดใจแต่ก็ดีใจที่ดิฉันมาเยี่ยมเขา ช่วงเวลาอึดอัดใจเกิดขึ้นเมื่อดิฉันบอกเขาว่านี่เป็นวันบำเพ็ญประโยชน์ทั่วโลกและเราต้องการช่วยอะไรเขาก็ได้ที่เราทำได้
ดิฉันแบ่งงานให้ผู้สอนศาสนา เราเข้าไปทำความสะอาดอพาร์ตเมนต์ของเขา สองชั่วโมงผ่านไป เราทำเสร็จและออกมา ดิฉันมารู้สึกตัวว่าดิฉันหัวเราะและมีความสุขขณะขับรถกลับบ้าน ดิฉันตระหนักว่า พระบิดาบนสวรรค์ทรงนำเอาความรวดร้าว เจ็บปวด ขมขื่น และความเศร้าเสียใจทั้งหมดออกไป ไม่มีอะไรหลงเหลือ! และดิฉันเป็นอิสระจากความเจ็บปวดทั้งหมดที่ดิฉันแบกไว้หลายปี พระบิดาบนสวรรค์ประทานพรดิฉันด้วยความเข้มแข็งเพื่อให้อภัยบุคคลนี้ในที่สุด เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ดิฉันรู้สึกโล่งอก
ดิฉันสำนึกคุณอย่างมากที่ดิฉันทำตามการกระตุ้นเตือนให้ช่วยชายคนนี้ พระบิดาบนสวรรค์ที่รักของดิฉันรู้ว่าดิฉันจำเป็นต้องมีประสบการณ์นี้เพื่อดิฉันจะเติบโตและเป็นคนที่พระองค์ทรงต้องการให้ดิฉันเป็นมากขึ้น