จงตามเรามา

เอสเธอร์

5 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอสเธอร์

พระราชินีเอสเธอร์เข้าเฝ้ากษัตริย์

พระราชินีเอสเธอร์เข้าเฝ้ากษัตริย์ โดย โรเบิร์ต ที. บาร์เรตต์ ไม่อนุญาตให้ทำสำเนา

1. เอสเธอร์เป็นเด็กกำพร้า

เอสเธอร์เป็นชาวยิว และเมื่อบิดามารดาตาย โมรเดคัย ญาติของเธอซึ่งเป็นชาวยิวเช่นกันเลี้ยงดูเธอมา (ดู เอสเธอร์ 2:7)

2. เอสเธอร์อาศัยอยู่ในเปอร์เซีย

เอสเธอร์อยู่ในเมืองสุสา ประเทศเปอร์เซีย (ปัจจุบันคืออิหร่าน) นานกว่า 100 ปีหลังจากชาวยิวถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลยในบาบิโลน

3. เอสเธอร์ต้องเก็บเรื่องที่เธอเป็นชาวยิวไว้เป็นความลับ

ตามคำขอของโมรเดคัย เอสเธอร์ไม่เปิดเผยแก่ผู้ใดว่าเธอเป็นชาวยิว เธอเก็บอัตลักษณ์ของตนเองไว้เป็นความลับ แม้หลังจากได้เป็นราชินีแล้ว (ดู เอสเธอร์ 2:10, 20)

4. เอสเธอร์เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยผู้คนของเธอให้รอดตาย

ในช่วงเวลาของเอสเธอร์ กษัตริย์มักตกอยู่ในอันตรายของการถูกลอบปลงพระชนม์ ดังนั้น เพื่อปกป้องกษัตริย์ จึงตั้งกฎมณเฑียรบาลว่าผู้ใดจะเข้าใกล้กษัตริย์ไม่ได้หากไม่มีรับสั่งเชิญให้เข้าเฝ้า นั่นคือเหตุผลที่เอสเธอร์ต้องเสี่ยงชีวิตเมื่อต้องการเข้าเฝ้ากษัตริย์เพื่อทูลเชิญเสด็จไปงานเลี้ยงที่เธอจะมีโอกาสเปิดเผยแผนชั่วของฮามานที่จะสังหารชาวยิว (ดู เอสเธอร์ 5; 7)

5. เอสเธอร์มีศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า

เอสเธอร์ขอให้ชาวยิวทุกคนในสุสาอดอาหารเป็นเวลาสามวันก่อนที่เธอจะเข้าเฝ้ากษัตริย์ (ดู เอสเธอร์ 4:16) ด้วยความกล้าหาญของเอสเธอร์และพรของพระเจ้า ชาวยิวจึงรอดชีวิต