2022
ศาสนพิธีพระวิหาร: เตรียมกลับไปยังที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า
กรกฎาคม 2022


“ศาสนพิธีพระวิหาร: เตรียมกลับไปยังที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า,” เลียโฮนา, ก.ค. 2022.

ศาสนพิธีพระวิหาร: เตรียมกลับไปยังที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า

ข้าพเจ้าเชิญให้ท่านพากเพียรเรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของพันธสัญญาพระวิหาร ศาสนพิธีพระวิหาร และการนมัสการในพระวิหารและซาบซึ้งกับสิ่งดังกล่าวในขณะที่ท่านเพียรพยายามมาหาพระผู้ช่วยให้รอด

โอเพ่นเฮ้าส์พระวิหารเมซา แอริโซนา

ภาพถ่ายโอเพ่นเฮ้าส์พระวิหารเมซา แอริโซนา โดย เลสลี นิลส์สัน

งานของพระผู้เป็นเจ้าและรัศมีภาพของพระองค์ “คือการทำให้เกิดความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ของมนุษย์” (โมเสส 1:39)—เพื่อเตรียมเราให้ดำเนินชีวิต “ในลักษณะที่สูงส่งกว่าเดิมและศักดิ์สิทธิ์กว่าเดิม”1 เพื่อให้เราสามารถกลับไปยังที่ประทับของพระองค์ได้

ในพระเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุดและเป็นนิรันดร์ของพระองค์ และโดยผ่านศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกของพระองค์ พระเจ้าทรงเชิญบุตรธิดาของพระองค์อย่างต่อเนื่องให้เตรียมรับการเสด็จมาและกลายเป็นผู้คนของไซอัน—พร้อมที่จะถูกยกขึ้นไปพบพระองค์ (ดู แอลมา 12:24; 34:32; หลักคำสอนและพันธสัญญา 45:45; 65:5; 88:96–97) และสิ่งที่เป็นศูนย์กลางของการเตรียมนั้นอยู่ตลอดเวลาคือการเรียนรู้หลักคำสอนของพระเยซูคริสต์ การใช้ศรัทธาในพระองค์ การกลับใจ และการรับพันธสัญญาและศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์

ในพันธสัญญาเดิมมีแบบอย่างพระดำรัสเชิญของพระผู้เป็นเจ้าให้บุตรธิดาของพระองค์เตรียมดำเนินชีวิตตามกฎที่สูงกว่าและรับพันธสัญญาและศาสนพิธีแห่งความรอดที่สอนเราในปัจจุบัน

ในอพยพ พระผู้เป็นเจ้าทรงกระตุ้นอิสราเอลให้เปลี่ยนเป็น “ของล้ำค่า” และชำระตนเองให้บริสุทธิ์ในการเตรียมพบพระองค์ (ดู อพยพ 19:4–6, 10–11, 17) พระยาห์เวห์ประทาน “แผ่นศิลาที่มีธรรมบัญญัติและคำบัญชา” แก่อิสราเอล (อพยพ 24:12) และพวกเขาทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า โดยกล่าวว่า “ทุกอย่างที่พระยาห์เวห์ตรัสนั้น พวกข้าพเจ้าจะทำตาม” (อพยพ 19:8; ดู 24:3 ด้วย) พระเจ้าทรงสัญญาว่าถ้าพวกเขาปฏิบัติตามพันธสัญญา พระองค์จะทรงอยู่​ท่าม‍กลาง​พวก‍เขา (อพยพ 29:45–46) แต่เมื่อ “พระรัศมีของพระยาห์เวห์” ปรากฏแก่ตาชาวอิสราเอล (อพยพ 24:16) บนภูเขาซีนาย พวกเขากลัว ยืนอยู่แต่ไกล และในที่สุดกบฏต่อพระผู้เป็นเจ้า (ดู อพยพ 20:18–21; 32:1–6)

แบบอย่างที่สองในพันธสัญญาเดิมคือเรื่องการสร้างพระนิเวศน์แด่พระยาห์เวห์ของกษัตริย์ซาโลมอน (ดู 1 พงศ์กษัตริย์ 6:11–13) หีบพันธสัญญาและภาชนะศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ถูกจัดวางไว้ใน “อภิสุทธิสถาน” (1 พงศ์กษัตริย์ 8:6) และ “พระสิริของพระยาห์เวห์ … เต็มพระนิเวศของพระยาห์เวห์” (1 พงศ์กษัตริย์ 8:11) ซาโลมอนสวดอุทิศและทูลขอให้ประสาทพรทางโลกและทางวิญญาณแก่อิสราเอลที่กลับใจและสวดอ้อนวอนเสมอ พระเจ้าทรงได้ยินการสวดอ้อนวอนของพวกเขาและทรงสัญญาจะประทานพรที่ยิ่งใหญ่แก่อิสราเอลถ้าพวกเขาเชื่อฟัง แม้กระนั้น อิสราเอลก็ยังละทิ้งพระเจ้าและนมัสการพระเจ้าปลอม (ดู 1 พงศ์กษัตริย์ 9–11)

ศาสดาพยากรณ์ท่านอื่นๆ ในพันธสัญญาเดิมมุมานะที่จะสอนและชำระอิสราเอลให้บริสุทธิ์เพื่อที่ “พวกเขาจะได้เห็นพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า; แต่พวกเขาทำใจแข็งกระด้างและทนพระสิริของพระองค์ไม่ได้” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:23–24).

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ลูกหลานอิสราเอลไม่เชื่อ กลัว หรือไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลง ปรารถนาแต่ทางที่ง่ายกว่า ให้ใจของพวกเขาขึ้นอยู่กับสิ่งของทางโลก หรือเจตนาที่จะกบฏต่อพระเจ้าและศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ ทุกครั้งที่อิสราเอลหันไปจากพระผู้เป็นเจ้าและละทิ้งพันธสัญญากับศาสนพิธีของพวกเขา พระเจ้าทรงมี “ความกริ้วของพระองค์ดาลเดือดกับพวกเขา” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:24) และพวกเขาไม่อาจรับความสมบูรณ์แห่งรัศมีภาพของพระองค์

จุดประสงค์อันสูงส่งของการรวบรวม

พระวิริยะอุตสาหะของพระเจ้าในการรวบรวมผู้คนของพระองค์และในการอวยพรพวกเขาผ่านพันธสัญญาและศาสนพิธีพระวิหารเล่าไว้ในพันธสัญญาใหม่และพระคัมภีร์มอรมอนด้วย พระผู้ช่วยให้รอดทรงคร่ำครวญว่า “กี่ครั้งกี่หนแล้วเล่าที่เราอาจรวมเจ้าไว้ด้วยกัน ดังแม่ไก่รวมลูกเจี๊ยบของมันไว้ใต้ปีก, แต่เจ้าหายอมไม่!” (มัทธิว 23:37; ดู 3 นีไฟ 10:4–6 ด้วย)

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธอธิบายว่า “จุดประสงค์ของการรวม … ผู้คนของพระผู้เป็นเจ้าในทุกยุคทุกสมัยของโลกคืออะไร? … จุดประสงค์หลักคือเพื่อสร้างพระนิเวศน์แด่พระเจ้าซึ่งที่นั่นพระองค์ทรงสามารถเปิดเผยแก่ผู้คนของพระองค์ถึงศาสนพิธีแห่งพระนิเวศน์ของพระองค์และรัศมีภาพแห่งอาณาจักรของพระองค์ และทรงสอนผู้คนถึงหนทางสู่ความรอด … ที่พวกเขาอาจ … ได้รับการเปิดเผยจากสวรรค์ และดีพร้อมในสิ่งต่างๆ ของอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า—แต่พวกเขาจะไม่”2

พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะรวบรวมบุตรธิดาของพระองค์ในสมัยการประทานนี้และทรงเปิดเผยว่า “สิ่งซึ่งถูกซ่อนเก็บไว้นับแต่ก่อนการวางรากฐานของโลก, … สิ่งทั้งปวงที่เกี่ยวกับนิเวศน์แห่งนี้, และฐานะปุโรหิตของนิเวศน์นั้น” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 124:41–42) พระองค์ทรงกระตุ้นให้เราทุกคนเตรียมกลับไปยังที่ประทับของพระองค์—ซึ่งทำให้เป็นไปได้โดยการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระองค์: “ดูเถิด, เป็นความประสงค์ของเรา, ที่คนทั้งปวงเหล่านั้นผู้เรียกหานามของเรา, และนมัสการเราตามกิตติคุณอันเป็นนิจของเรา, จะรวบรวมกัน, และยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 101:22)

เหตุใดศาสนพิธีพระวิหารจึงสำคัญ?

พระวิหารเป็นสถานนมัสการที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ทุกสิ่งที่เรียนรู้และสิ่งทั้งปวงที่ทำในพระวิหารยุคสุดท้ายเน้นถึงแผนอันสำคัญยิ่งแห่งความสุขของพระบิดาบนสวรรค์ ความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์ และบทบาทของพระองค์ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พันธสัญญาที่ได้รับและศาสนพิธีที่ประกอบในพระวิหารจำเป็นต่อการชำระใจเราให้บริสุทธิ์และเพื่อความสูงส่งขั้นสูงสุดของบุตรธิดาพระผู้เป็นเจ้า

“และฐานะปุโรหิตดังกล่าวที่เหนือกว่าดูแลพระกิตติคุณและถือกุญแจแห่งความลี้ลับของอาณาจักร, แม้กุญแจแห่งความรู้เรื่องพระผู้เป็นเจ้า

“ฉะนั้น, ในศาสนพิธีของฐานะปุโรหิตนี้, พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าจึงแสดงให้ประจักษ์

“และปราศจากศาสนพิธีของฐานะปุโรหิตนี้, และสิทธิอำนาจของฐานะปุโรหิต, พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าไม่แสดงให้ประจักษ์แก่มนุษย์ในเนื้อหนัง” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:19–21)

ศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่รับอย่างมีค่าควรและระลึกถึงตลอดเวลาจะเปิดช่องทางสวรรค์ให้พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าหลั่งไหลเข้ามาในชีวิตเราได้ โดยรับศาสนพิธีฐานะปุโรหิตและทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ เรารับแอกติดและกับพระผู้ช่วยให้รอด (ดู มัทธิว 11:28–30)3 และจะได้รับพรด้วยความเข้มแข็งเกินกว่าที่เรามีเพื่อเอาชนะการล่อลวงและเรื่องท้าทายของมรรตัยขณะเราเตรียมกลับไปสู่ที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า

พรของพันธสัญญาและศาสนพิธีพระวิหาร

ภาพเหมือนของพระเยซูคริสต์

ส่วนหนึ่งจากภาพ พระคริสต์กับเด็ก โดย คาร์ล ไฮน์ริค บลอค

พรที่สำคัญสองข้อซึ่งได้รับจากพันธสัญญาและศาสนพิธีพระวิหารคือการเพิ่มปีติและพลังอำนาจ

พระผู้ไถ่ทรงเป็นบ่อเกิดสูงสุดเพียงหนึ่งเดียวของปีติอันยั่งยืน ปีติแท้มาจากการใช้ศรัทธาในพระเจ้าพระเยซูคริสต์ การรับพันธสัญญาและศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์อย่างมีค่าควรและให้เกียรติอย่างซื่อสัตย์ การมุ่งมั่นเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระผู้ช่วยให้รอดและจุดประสงค์ของพระองค์อย่างลึกซึ้ง

แอลมาสอนบุตรชายของท่านว่าความบริสุทธิ์มากขึ้นและปีติในชีวิตเราเป็นไปได้ขณะเราได้รับการชำระล้างให้สะอาดบริสุทธิ์โดยการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ โดยการมีศรัทธาในพระผู้ไถ่ของเรา การกลับใจ และการรักษาพันธสัญญาเท่านั้น ที่เราจะสามารถรับความสุขอันยั่งยืนที่เราทุกคนปรารถนาจะได้รับและรักษาไว้4

โปรดสังเกตสัญญาแห่งปีติจากประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน: “เราเชื้อเชิญให้บุตรธิดาทั้งปวงของพระผู้เป็นเจ้าทั้งสองด้านของม่านมาหาพระผู้ช่วยให้รอด รับพรของพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ มีปีติที่ยั่งยืน และคู่ควรแก่การรับชีวิตนิรันดร์”5

ในยุคของเราที่พลังแห่งความมืดรุกประจัญ “ข่มขวัญสันติให้ลี้ลับตา”6 เราแต่ละคนสามารถรับพลังอำนาจแห่งการปกป้องได้ในและผ่านพันธสัญญาและศาสนพิธีพระวิหาร (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 38:32; 43:16; 76:39–42; 105:11–12, 33; 138:12–15). นีไฟเห็นในนิมิตและ “เห็นเดชานุภาพของพระเมษโปดกของพระผู้เป็นเจ้า, ว่าลงมาบน … ผู้คนแห่งพันธสัญญาของพระเจ้า, … และพวกเขามีอาวุธคือความชอบธรรมและเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าในรัศมีภาพอันยิ่งใหญ่” (1 นีไฟ 14:14)

ในการสวดอุทิศพระวิหารเคิร์ทแลนด์ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธทูลวิงวอนพระบิดาว่า “ให้ผู้รับใช้ทั้งหลายของพระองค์ออกไปจากพระนิเวศน์แห่งนี้พร้อมเดชานุภาพของพระองค์เป็นอาวุธ” และ “เพื่อว่าไม่มีการมั่วสุมในความชั่วร้ายใดจะ … ลุกขึ้นและชนะผู้คนของพระองค์ซึ่งบนผู้คนเหล่านั้นพระนามของพระองค์จะสถิตอยู่ด้วยในพระนิเวศน์แห่งนี้” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 109:22, 26)

พระวิหารเคิร์ทแลนด์

แสงแห่งรัศมีภาพ—พระวิหารเคิร์ทแลนด์, โดย เกล็น เอส. ฮอพคินสัน, ไม่อนุญาตให้ทำสำเนา

เราแต่ละคนควรมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้และเข้าใจให้ดีขึ้นเกี่ยวกับพลังอำนาจที่ปกป้องเราของพันธสัญญาและศาสนพิธีที่มีให้ในพระนิเวศน์ของพระเจ้า—เพื่อที่เราในฐานะสานุศิษย์จะ “ยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์, และ … ไม่หวั่นไหว” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 45:32) และ “ต่อสู้ในวันชั่วร้ายนั้น” (เอเฟซัส 6:13)

คำเชิญและประจักษ์พยาน

ข้าพเจ้าเชิญให้ท่านพากเพียรเรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญนิรันดร์ของพันธสัญญาพระวิหาร ศาสนพิธีพระวิหาร และการนมัสการในพระวิหารและซาบซึ้งกับสิ่งดังกล่าวในขณะที่ท่านเพียรพยายามมาหาพระผู้ช่วยให้รอดและรับพรที่เป็นไปได้ผ่านการชดใช้ของพระองค์ และข้าพเจ้าเป็นพยานอย่างเปี่ยมด้วยปีติว่าพระผู้เป็นเจ้า พระบิดาและพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์และพระประสงค์สำคัญที่สุดของทั้งสองพระองค์คือให้เรากลับไปยังที่ประทับและรับส่วนแห่งพระรัศมีภาพของทั้งสองพระองค์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 97:16; 101:38)