เสียงวิสุทธิชนยุคสุดท้าย

เราอุ้มเจ้ามาตลอด

โดย เรนี ค็อกซ์, ยูทาห์ สหรัฐอเมริกา

ความรู้สึกอันทรงพลังที่เกิดกับดิฉันแรงกล้าจนทำให้ต้องทรุดลงคุกเข่า

ดิฉันอายุแค่ 3 ขวบและไม่อยากออกจากโรงพยาบาลที่คุณพ่อคุณแม่ของดิฉันกำลังพักฟื้นหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์

ภาพถ่ายเอื้อเฟื้อโดยผู้เขียน; ภาพถ่ายมุมต่างๆ จาก Getty Images

ดิฉันมีความยากลำบากเป็นเวลาหลายปีจากความบอบช้ำและความวิตกกังวลที่เกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์ตั้งแต่สามขวบซึ่งทั้งคุณพ่อคุณแม่และดิฉันมีส่วนเกี่ยวข้อง น้องชายที่ยังอยู่ในครรภ์ไม่รอดชีวิต

วันครบรอบ 25 ปีของอุบัติเหตุ ดิฉันยังคิดย้อนหลังเรื่องนี้อยู่ หลายเดือนต่อมา ดิฉันยังคงต่อสู้ดิ้นรนกับมันอยู่เมื่อเพื่อนแนะนำให้หันไปหาพระบิดาบนสวรรค์ ดิฉันหัวเราะแล้วถามว่า “พระองค์จะทรงทำอะไรให้ฉันเหรอ?”

ดิฉันยังต่อสู้ดิ้นรนต่อไป ผ่านไปปีหรือสองปี ดิฉันรู้สึกเบื่อหน่ายความเจ็บปวดจนกลายเป็นความโกรธ ดิฉันรับคำแนะนำของเพื่อนและเริ่มหันไปหาพระผู้เป็นเจ้า

“ถ้าพระองค์ทรงอยู่ที่นั่นจริง ขอทรงส่งใครมาสักคน—ใครก็ได้” ดิฉันสวดอ้อนวอน “ดิฉันต้องมีใครสักคน!”

วันเวลาผ่านไปขณะดิฉันยืนอยู่ที่ทางเข้าบ้าน รอคอยอย่างไร้จุดหมาย

“ดูสิคะ พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีใครสนใจหรอก!” ดิฉันพูด “ไม่มีใครมาเลย!”

น้ำตาไหลอาบแก้ม ดิฉันเดินกลับเข้าบ้านช้าๆ แล้วปิดประตู ดิฉันเดินขึ้นบันไดด้วยความรู้สึกพ่ายแพ้ แต่เมื่อขึ้นถึงบันไดขั้นบนสุด ความรู้สึกทรงพลังอย่างหนึ่งก็เกิดขึ้นกับดิฉัน ความรู้สึกนั้นแรงกล้าจนทำให้ดิฉันทรุดลงคุกเข่า

จากนั้นความคิดนี้ก็เข้ามาในใจ: “เรนี เราอุ้มเจ้ามาตลอด”

พระบิดาบนสวรรค์ทรงส่งความคิดอันทรงพลังนี้มาให้ดิฉันในวิธีที่อ่อนโยนขณะดิฉันต้องการที่สุด ดิฉันตระหนักว่าพระองค์ ทรง รักดิฉัน และ ทรง รู้จักดิฉันจริงๆ ทรงรักดิฉันมากจนประทานสิทธิ์เสรีทางศีลธรรมแก่ดิฉัน พระองค์จะไม่ทรงบังคับดิฉันหรือใครอื่นให้ทำตามพระองค์ แต่พระองค์และพระบุตรของพระองค์ทรงเชิญให้เรามาหาพระองค์ทั้งสอง (ดู มัทธิว 11:28–30)

นับตั้งแต่วันนั้น ดิฉันรู้ว่าสามารถพึ่งพาพระองค์ได้ ทุกวันนี้ชีวิตดิฉันดีขึ้นเพราะดิฉันมุ่งมั่นที่จะทำตามและฟังพระองค์ทุกวัน ขณะที่พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงยอมให้ดิฉันรับรู้ความเจ็บปวด พระองค์ทรงนำสันติสุข การปลอบโยน ความเข้มแข็ง และความกล้าหาญมาให้ดิฉันด้วยเพื่อให้ดิฉันสามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องยากลำบาก ความรู้สึกเจ็บปวดช่วยให้ดิฉันเข้าใจและช่วยเหลือคนอื่นที่ยากลำบากได้

เราอาจไม่มีวันรู้ทุกสิ่งที่คนอื่นๆ ต้องพบผ่าน แต่เราสามารถแสดงความรักต่อผู้คนรอบข้างได้ ดิฉันสำนึกคุณที่รู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงรักดิฉันและทรงฟังเมื่อดิฉันเรียกหาพระองค์