ฮีลามัน 7–10

ศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้า

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงของความขัดแย้ง เราจะหันไปหาคำแนะนำและความจริงได้อย่างไร? วิธีหนึ่งที่พระเจ้าทรงต้องการแนะนำและช่วยเราในความเป็นมรรตัยคือ การเรียกศาสดาพยากรณ์ บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจบทบาทสำคัญของศาสดาพยากรณ์ในแผนของพระบิดาบนสวรรค์

รักคนที่ท่านสอน มุ่งมั่นแสดงความรักต่อนักเรียน สนใจชีวิตพวกเขาอย่างจริงใจ ตั้งใจฟังคำถามและความคิดเห็นของพวกเขา ให้พวกเขามีส่วนร่วมในบทเรียน และทักทายอย่างอบอุ่นเมื่อท่านพบพวกเขา แสดงความมั่นใจว่านักเรียนจะเรียนรู้และดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ได้

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนพูดคุยกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวว่าศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ส่งผลต่อชีวิตพวกเขาอย่างไร

กิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นไปได้

เหตุใดพระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกศาสดาพยากรณ์?

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนฝึกตอบสนองต่อสถานการณ์ต่อไปนี้เพื่อเริ่มชั้นเรียน ท่านอาจแสดงเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกได้ อนุญาตให้นักเรียนหลายคนแบ่งปันว่าพวกเขาจะตอบอย่างไร ให้แน่ใจว่านักเรียนรู้ว่าจะกล่าวถึงสถานการณ์สมมตินี้อีกครั้งเมื่อจบบทเรียน

ลองนึกภาพว่าเพื่อนคนหนึ่งของท่านที่ไม่ได้เป็นสมาชิกศาสนจักรประหลาดใจที่เรียนรู้ว่าท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงเรียกศาสดาพยากรณ์ในยุคสมัยของเรา เพื่อนของท่านสงสัยว่าเหตุใดศาสดาพยากรณ์จึงจำเป็นในช่วงเวลาของเรา

• ท่านอาจตอบเพื่อนของท่านได้อย่างไรบ้าง?

นึกถึงความรู้สึกของท่านเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้าและความตั้งใจในการฟังและปฏิบัติตาม ขณะที่ท่านศึกษาในวันนี้ ท่านจะมีโอกาสระบุความจริงสำคัญเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์

เขียนหัวข้อต่อไปนี้ลงในหน้ากระดาษเปล่าในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน: ความจริงเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้า ตลอดบทเรียน เขียนความจริงที่ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์ใต้หัวข้อนี้

หรือท่านอาจเขียนหัวข้อนี้บนกระดาน และเพิ่มข้อคิดของนักเรียนลงไปตลอดทั้งบทเรียน

เนื้อหาส่วนใหญ่ที่จะศึกษาในช่วงสัปดาห์นี้ (ฮีลามัน 7–12) และสัปดาห์หน้า (ฮีลามัน 13–16) จะมุ่งเน้นไปที่ศาสดาพยากรณ์ อาจแนะนำให้นักเรียนเตรียมที่ในสมุดบันทึกการศึกษาไว้ให้เพียงพอเพื่อเพิ่มรายการลงไปตลอดสองสามสัปดาห์หน้า

ศาสดาพยากรณ์นีไฟ

นีไฟสวดอ้อนวอนบนหอสูงในสวน โดย เจอร์รีย์ ธอมพ์สัน

วันนี้ท่านจะเรียนรู้เกี่ยวกับนีไฟ บุตรชายของฮีลามัน หลังจากถูกชาวนีไฟปฏิเสธในแผ่นดินทางเหนือ นีไฟจึงกลับไปบ้านในเซราเฮ็มลา ผู้คนที่นั่นเป็นคนชั่วร้ายมากด้วย นีไฟจึงไปที่หอสูงในสวนและร้องทูลต่อพระผู้เป็นเจ้า (ดู ฮีลามัน 7:1–11) ด้วยความโศกเศร้าเนื่องจากความชั่วร้าย

อ่าน ฮีลามัน 7:12–22 โดยมองหาว่านีไฟพูดอะไรหลังจากตระหนักว่ามีผู้คนมารวมตัวกันเพื่อฟังคำร้องทูลของเขา

• มีความจริงใดที่ท่านอาจระบุได้เกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้าตามที่นีไฟกล่าวไว้ในข้อเหล่านี้?

ความจริงอย่างหนึ่งที่อาจระบุได้คือ ศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าต่างเชื้อเชิญให้ผู้คนกลับใจ เขียนความจริงนี้ลงในรายการในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน

• ความจริงนี้สอนอะไรท่านเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าที่พระองค์จะทรงเรียกศาสดาพยากรณ์ให้ป่าวร้องการกลับใจ?

ผู้คนจำนวนมากโกรธข่าวสารของนีไฟ เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจว่าเขากำลังพูดความจริง นีไฟเล่าเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นขณะสั่งสอนพวกเขา

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านสรุปต่อไปนี้ของ ฮีลามัน 8:25–28; 9:1–36. หรืออาจเชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านข้อเหล่านี้ก่อนเข้าชั้นเรียนและเตรียมสรุปเรื่องราวนี้เป็นคำพูดของตนเอง หรือท่านอาจแบ่งปันวีดิทัศน์ตอน “The Murder of the Chief Judge” ตั้งแต่รหัสเวลา 1:25 ถึง 4:01 ที่ ChurchofJesusChrist.org

นีไฟเป็นคนแรกที่บอกผู้คนว่าหัวหน้าผู้พิพากษาของพวกเขาถูกซีเอโซรัมสังหาร (ดู ฮีลามัน 8:27–28) ผู้คนรู้สึกว่า “นีไฟต้องตกลงกับใครสักคนให้สังหารผู้พิพากษา” (ฮีลามัน 9:16) จากนั้นนีไฟจึงบอกให้ผู้คนไปหาซีแอนทัม ซึ่งเป็นน้องชายของซีเอโซรัมและถามคำถามบางอย่างกับเขา นีไฟบอกผู้คนว่าซีแอนทัมจะตอบกลับอย่างไร (ดู ฮีลามัน 9:26–36) สิ่งนี้นำไปสู่การสารภาพของซีแอนทัมที่ว่าเขาเป็นฆาตกรและนีไฟเป็นผู้บริสุทธิ์ (ดู ฮีลามัน 9:37)

อ่าน ฮีลามัน 9:37–41 โดยมองหาว่าผู้คนมีปฏิกิริยาอย่างไรหลังจากเห็นเหตุการณ์เหล่านี้

• อะไรคือความจริงที่ท่านเรียนรู้จากประสบการณ์ของนีไฟที่ท่านอาจเพิ่มลงในรายการ?

ความจริงอย่างหนึ่งที่อาจระบุได้คือ ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์จะเกิดสัมฤทธิผล

• ท่านคิดว่าเหตุใดจึงสำคัญที่จะต้องรู้ความจริงเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์?

• มีตัวอย่างอะไรอีกบ้างที่ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์เกิดสัมฤทธิผล?

ท่านอาจแบ่งปันตัวอย่างส่วนตัวที่แสดงให้เห็นว่าถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์เติมเต็มชีวิตของท่านอย่างไร ตัวอย่างเช่น ท่านอาจได้รับพรที่สัญญาไว้จากการทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์

ความจริงอื่นๆ เกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์

นอกเหนือจากความจริงที่ระบุไว้แล้ว ยังมีความจริงอีกมากมายเกี่ยวกับบทบาทและวัตถุประสงค์ของศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้าที่นีไฟแสดงให้เห็นและการปฏิสัมพันธ์ของท่านกับผู้คน ฝึกทักษะการระบุความจริงต่อขณะศึกษาข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้ เพิ่มสิ่งที่ท่านค้นพบลงในรายการ

อาจแสดงข้ออ้างอิงต่อไปนี้และมอบหมายให้นักเรียนจับคู่หรือแบ่งกลุ่มเล็กๆ เพื่อศึกษาแต่ละข้อความ หรืออาจมอบหมายข้อพระคัมภีร์ต่างๆ ให้นักเรียนศึกษาแล้วมาสอนกันเองก็ได้

ฮีลามัน 7:29: คำประกาศของนีไฟต่อผู้คนที่มารวมตัวกันหลังจากได้ยินท่านสวดอ้อนวอน

ฮีลามัน 8:1–4: ปฏิกิริยาที่ผู้วินิจฉัยมีต่อถ้อยคำของนีไฟ

ฮีลามัน 8:22–23: การตอบสนองของนีไฟต่อผู้คนที่สบประมาทท่านและคำพูดของท่าน

ฮีลามัน 10:5–7: การสนทนาของพระเจ้ากับนีไฟหลังจากท่านสอนผู้คนเสร็จแล้ว

• ท่านพบความจริงอะไรเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์จากข้อเหล่านี้?

เพิ่มคำตอบของนักเรียนในรายการบนกระดาน พวกเขาอาจระบุความจริงดังต่อไปนี้

ต่อไปนี้เป็นความจริงบางอย่างที่ท่านอาจระบุไว้:

ข่าวสารของศาสดาพยากรณ์ไม่ใช่ข่าวสารของท่านเอง แต่เป็นข่าวสารที่มาจากพระเจ้า (ฮีลามัน 7:29)

ศาสดาพยากรณ์ไม่เป็นที่นิยมแก่คนชั่วร้าย (ฮีลามัน 8:1–4)

ศาสดาพยากรณ์เป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ (ฮีลามัน 8:22–23)

พระเจ้าประทานอำนาจการผนึกแก่ศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ (ฮีลามัน 10:5–7)

นักเรียนจะมีโอกาสเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความจริงแต่ละข้อในบทเรียนต่อไป ความจริงสองข้อแรกที่ระบุจะได้รับการศึกษาเชิงลึกมากขึ้นใน ฮีลามัน 13–16 ความจริงข้อที่สามและสี่ที่ระบุจะได้รับการศึกษาที่ลึกซึ้งมากขึ้นในบทเรียนช่วงปลายสัปดาห์นี้

ความสำคัญของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่

แสดงคำแนะนำต่อไปนี้และให้นักเรียนมีเวลาพอที่จะสร้างคำตอบต่อสถานการณ์สมมติตั้งแต่เริ่มต้นบทเรียน

เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมให้นักเรียนสร้างคำตอบ อาจเป็นประโยชน์ที่จะขอให้นักเรียนระบุความท้าทายที่วัยรุ่นต้องเผชิญบ่อยที่สุดในปัจจุบัน ท่านอาจแสดงคำตอบของพวกเขาถัดจากความจริงที่ระบุเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์บนกระดาน จากนั้นอาจให้นักเรียนแบ่งปันว่าความจริงบางอย่างที่ระบุในวันนี้จะช่วยรับมือกับความท้าทายที่คิดไว้ได้อย่างไร

ให้นึกถึงเหตุการณ์สมมติก่อนหน้านี้ในบทเรียนเกี่ยวกับเพื่อนของท่านที่สงสัยว่าเหตุใดศาสดาพยากรณ์จึงมีความจำเป็นในยุคสมัยของเรา

เขียนคำตอบถึงเพื่อนของท่านโดยอธิบายว่าเหตุใดจึงสำคัญที่พระเจ้าทรงเรียกศาสดาพยากรณ์ในยุคของเรา คำตอบของท่านควรมีความยาวอย่างน้อยหนึ่งย่อหน้า

คำถามต่อไปนี้จะช่วยให้ท่านตอบได้:

• ความจริงหนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้นที่ท่านระบุจะช่วยเราจากความท้าทายที่ต้องเผชิญได้อย่างไร?

• ประสบการณ์ใดที่ช่วยให้ท่านตระหนักถึงพรของการมีศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่บนแผ่นดินโลก?

เชื้อเชิญนักเรียนมาแบ่งปันคำตอบของพวกเขากับคู่ อาจเชื้อเชิญอาสาสมัครคนเดิมที่แสดงสถานการณ์ในตอนต้นของชั้นเรียนให้มาที่หน้าห้องและแสดงอีกบทบาทในสถานการณ์นั้น

เป็นพยานถึงความจริงที่ท่านสนทนาและกระตุ้นให้นักเรียนปฏิบัติตามความประทับใจทางวิญญาณที่มีระหว่างบทเรียน

ข้อคิดเห็นและข้อมูลภูมิหลัง

จะเป็นอย่างไรถ้าเราไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ศาสดาพยากรณ์พูด?

ประธานฮาโรลด์ บี. ลี (1899–1973) สอนว่า

ประธานฮาโรลด์ บี. ลี

ท่านอาจจะไม่ชอบสิ่งที่มาจากเจ้าหน้าที่ของศาสนจักร ซึ่งอาจขัดแย้งกับความคิดเห็นทางการเมืองของท่าน ความคิดเห็นทางสังคมของท่าน และขัดกับชีวิตทางสังคมของท่าน … ความปลอดภัยของท่านและของเราขึ้นอยู่กับว่าเราจะปฏิบัติตามผู้ที่พระเจ้าทรงวางไว้เป็นประธานในศาสนจักรของพระองค์หรือไม่ … ให้เรามาจับตาดูประธานศาสนจักรของเรา (ฮาโรลด์ บี. ลี, ใน Conference Report, Oct. 1970, 152–53.)

ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์แห่งฝ่ายประธานสูงสุดสอนว่า:

ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์

บางครั้งเราจะได้รับคำแนะนำที่เราไม่เข้าใจหรือดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับเรา แม้หลังจากสวดอ้อนวอนและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว อย่าละทิ้งคำแนะนำนั้น แต่ยึดไว้ให้มั่น หากคนที่ท่านไว้ใจยื่นสิ่งที่ดูเหมือนไม่เป็นอะไรมากไปกว่าทรายพร้อมกับคำสัญญาว่าข้างในมีทองคำ ท่านอาจถือมันไว้ในมือสักพักอย่างชาญฉลาดแล้วเขย่าเบาๆ ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าทำเช่นนั้นโดยได้รับคำแนะนำจากศาสดาพยากรณ์ หลังจากนั้นไม่นานเกล็ดทองคำก็เริ่มปรากฏขึ้นและข้าพเจ้ารู้สึกสำนึกคุณ (Henry B. Eyring, “Finding Safety in Counsel,” Ensign, May 1997, 26)

เหตุใดศาสดาพยากรณ์จึงสั่งสอนความจริงที่บางครั้งไม่เป็นที่นิยม?

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า:

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

บางครั้งเราถูกกล่าวหาว่าไม่ใส่ใจเมื่อเราสอนข้อกำหนดของพระบิดาสำหรับความสูงส่งในอาณาจักรซีเลสเชียล แต่จะเป็นการไม่ใส่ใจมากกว่าหรือที่เราจะไม่บอกความจริง—ไม่สอนสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผย?

การที่เราประกาศความจริงของพระองค์เป็นเพราะเราใส่ใจบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าอย่างลึกซึ้ง เราอาจไม่ได้บอกสิ่งที่ผู้คนอยากฟังเสมอไป ศาสดาพยากรณ์ไม่ค่อยเป็นที่นิยม แต่เราจะสอนความจริงเสมอ! (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “The Love and Laws of God” [การให้ข้อคิดทางวิญญาณที่มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์, 17 ก.ย. 2019], speeches.byu.edu)

กิจกรรมเสริมการเรียนรู้

หลักพื้นฐานสิบสี่ข้อในการทำตามศาสดาพยากรณ์

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจความจริงเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์มากขึ้น ท่านอาจแสดงรายการ “Fourteen Fundamentals in Following the Prophet” ที่แบ่งปันโดยประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน (1899–1994) นักเรียนอาจสนทนาว่าเหตุใดหลักธรรมที่ระบุในบทเรียนและจากประธานเบ็นสันจึงมีความสำคัญที่จะต้องรู้และจดจำ บางคนอาจประสบปัญหากับหลักธรรมข้อใด? มีหลักธรรมใดบ้างที่อาจเกี่ยวข้องให้วัยรุ่นต้องจดจำเป็นพิเศษ? เพราะเหตุใด?

ฮีลามัน 7:17–19 ศาสดาพยากรณ์กระตุ้นผู้คนให้กลับใจ

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน ฮีลามัน 7:16 โดยมองหาสิ่งที่ท่านประทับใจจากคำพูดของนีไฟขณะอธิบายถึงความปรารถนาของซาตานที่มีต่อผู้คน ท่านอาจให้นักเรียนสร้างสองคอลัมน์ในสมุดบันทึกการศึกษา แล้วอ่าน ฮีลามัน 7:17–22, 26–28 นักเรียนอาจแสดงรายการบาปของผู้คนลงในหนึ่งคอลัมน์ ส่วนอีกคอลัมน์ พวกเขาอาจแสดงรายการผลที่ตามมาหากพวกเขาไม่กลับใจ

คำถามต่อไปนี้อาจช่วยให้ท่านพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่นักเรียนพบ: สิ่งนี้สอนอะไรท่านเกี่ยวกับความสำคัญของการเข้าใจคำเชิญให้กลับใจของศาสดาพยากรณ์? ความเข้าใจนี้อาจช่วยให้ท่านเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์มากขึ้นได้อย่างไร?

ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์จะเกิดสัมฤทธิผล

หากนักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการใช้เวลามากขึ้นในการทำความเข้าใจและรู้สึกถึงความจริงที่ว่าคำพูดของศาสดาพยากรณ์จะเกิดสัมฤทธิผล ท่านอาจเชื้อเชิญให้พวกเขาอ่านพระคัมภีร์ที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งนี้ เช่น อิสยาห์ 7:14; หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:37; และ หลักคำสอนและพันธสัญญา 87:1–3 พิจารณาการสนทนาถึงคำถามเหล่านี้: ในยุคปัจจุบันมีตัวอย่างใดบ้างที่แสดงให้เห็นถึงความจริงนี้? การรู้และเชื่อในความจริงนี้ส่งผลต่อความรู้สึกที่ท่านมีต่อศาสดาพยากรณ์อย่างไร? สิ่งนั้นจะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ของท่านกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์อย่างไร?