27 มกราคม–2 กุมภาพันธ์: “งานของเราจะออกไป”

หลักคำสอนและพันธสัญญา 3–5

ในช่วงไม่กี่ปีแรกของการเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้า โจเซฟ สมิธยังไม่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับ “งานอัศจรรย์” ที่ทรงเรียกให้ท่านทำ แต่สิ่งหนึ่งที่ประสบการณ์ช่วงแรกของโจเซฟสอนท่านคือการจะทำงานของพระผู้เป็นเจ้านั้น ดวงตาของท่านต้อง “เห็นแก่รัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเดียว” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 4:1, 5) ตัวอย่างเช่น หากพระเจ้าทรงแนะนําให้โจเซฟทําบางสิ่งที่ไม่แน่ใจว่าต้องการทํา ท่านต้องทําตามคําแนะนําของพระเจ้า และถึงแม้โจเซฟได้รับ “การเปิดเผยหลายประการ, และมีพลังที่จะทำงานยิ่งใหญ่หลายอย่าง” หากท่านรู้สึกว่าสิ่งที่ต้องการนั้นสำคัญกว่าพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ท่าน “ต้องตก” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 3:4) แต่โจเซฟเรียนรู้อีกเรื่องที่สำคัญพอกันเกี่ยวกับการทำงานของพระผู้เป็นเจ้า นั่นคือ “พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตา” และถ้าโจเซฟกลับใจอย่างแท้จริง ท่าน “ยังได้รับเลือกอยู่” (ข้อ 10) ท้ายที่สุดแล้ว งานของพระผู้เป็นเจ้าคืองานแห่งการไถ่ และงานนั้น “จะล้มเหลวไม่ได้” (ข้อ 1)

แนวคิดสำหรับการเรียนรู้ที่บ้านและที่โบสถ์

หลักคำสอนและพันธสัญญา 3:1–16

ฉันสามารถวางใจพระผู้เป็นเจ้า

ในการปฏิบัติศาสนกิจช่วงแรกของโจเซฟ สมิธ เพื่อนดีๆ หายาก—โดยเฉพาะเพื่อนอย่างมาร์ติน แฮร์ริสชายที่น่านับถือและมั่งคั่งผู้เสียสละอย่างยิ่งใหญ่เพื่อสนับสนุนงานของโจเซฟ ดังนั้นเมื่อมาร์ตินขออนุญาตแสดงต้นฉบับ 116 หน้าแรกของคำแปลพระคัมภีร์มอรมอนให้ภรรยาดู โจเซฟจึงต้องการทำตามคำขอของเขา ถึงแม้พระเจ้าทรงเตือนไม่ให้ทำก็ตาม น่าเศร้าที่ต้นฉบับหายขณะอยู่ในครอบครองของมาร์ติน และพระเจ้าทรงตำหนิโจเซฟกับมาร์ตินอย่างรุนแรง (ดู วิสุทธิชน, 1:51–53)

ขณะที่ท่านอ่าน หลักคําสอนและพันธสัญญา 3:1–15 ให้ไตร่ตรองว่าพระเจ้าทรงต้องการให้ท่านเรียนรู้อะไรจากประสบการณ์ของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับ:

• งานของพระผู้เป็นเจ้า? (ดู ข้อ 1–3, 16)

• ผลของการเกรงกลัวมนุษย์แทนที่จะวางใจพระผู้เป็นเจ้า? (ดู ข้อ 4–8)

• พรที่มาจากการยังคงซื่อสัตย์? (ดู ข้อ 8)

• วิธีที่พระเจ้าทรงแก้ไขและให้กําลังใจโจเซฟ? (ดู ข้อ 9–16)

ในข่าวสารเรื่อง “ท่านหันหน้าไปทางใด” เอ็ลเดอร์ลินน์ จี. รอบบินส์ยกแบบอย่างมากมายในพระคัมภีร์ของคนที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าและคนที่ยอมต่อแรงกดดันจากผู้อื่น (เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 9–11) ท่านอาจอ่านแบบอย่างเหล่านี้ในพระคัมภีร์ที่เอ็ลเดอร์รอบบินส์กล่าวถึง ท่านเรียนรู้อะไรจากเรื่องราวเหล่านี้? ท่านเคยมีประสบการณ์อะไรบ้างที่ท่านวางใจพระเจ้าเมื่อเผชิญกับแรงกดดันให้ทำสิ่งที่ต่างจากเดิม? อะไรคือผลของการกระทำของท่าน?

ดู เดล จี. เรนลันด์, “กรอบการเปิดเผยส่วนตัว,” เลียโฮนา, พ.ย. 2022, 16–19; “บัญญัติพระผู้เป็นเจ้า,” เพลงสวด, บทเพลงที่ 52

หลักคำสอนและพันธสัญญา 4

ฉันสามารถรับใช้พระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดใจ พลัง ความนึกคิด และพละกำลังของฉัน

ภาค 4 มักประยุกต์ใช้กับผู้สอนศาสนาเต็มเวลา แต่น่าสนใจตรงที่การเปิดเผยนี้ประทานแก่โจเซฟ สมิธ ซีเนียร์ผู้ไม่ได้รับเรียกให้ทำงานเผยแผ่แต่ยังมี “ความปรารถนาจะรับใช้พระผู้เป็นเจ้า” (ข้อ 3)

วิธีอ่านภาคนี้วิธีหนึ่งคือให้สมมติว่าภาคนี้เป็นคำบรรยายลักษณะงานสำหรับคนที่ต้องการช่วยงานของพระเจ้า พระเจ้าทรงมองหาอะไร? พระองค์ประทานรางวัลอะไรบ้าง?

ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการรับใช้พระเจ้าจากการเปิดเผยนี้?

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเรียกการรวบรวมอิสราเอลว่า “ความท้าทาย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อุดมการณ์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และงาน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด บนแผ่นดินโลก” (“ความหวังอิสราเอล” [การให้ข้อคิดทางวิญญาณสําหรับเยาวชนทั่วโลก, 3 มิถุนายน 2018], คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ) ท่านพบอะไรในคำปราศรัยของประธานเนลสันที่เป็นแรงบันดาลใจให้ท่านมีส่วนร่วมในงานนี้?

ทุกคนที่ปรารถนาจะรับใช้พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับเรียกให้ทํางาน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 5

โดยผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ ฉันสามารถได้รับพยานเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน

ในเดือนมีนาคมปี 1829 ลูซีภรรยาของมาร์ติน แฮร์ริสยื่นคําร้องต่อศาลว่าโจเซฟ สมิธกําลังหลอกผู้คนโดยอวดอ้างว่าแปลแผ่นจารึกทองคํา (ดู วิสุทธิชน, 1:56–58) มาร์ตินจึงขอหลักฐานเพิ่มเติมจากโจเซฟว่าแผ่นจารึกทองคำมีอยู่จริง หลักคำสอนและพันธสัญญา 5 เป็นการเปิดเผยเพื่อตอบคำขอของมาร์ติน ท่านเรียนรู้อะไรจากภาคนี้เกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้:

• สิ่งที่พระเจ้าตรัสว่าจะเกิดขึ้นหากแสดงแผ่นจารึกทองคําให้โลกเห็น (ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 5:7) ท่านคิดว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?

• บทบาทของพยานในงานของพระเจ้า (ดู ข้อ 11–15; ดู 2 โครินธ์ 13:1 ด้วย)

• วิธีได้รับประจักษ์พยานของพระคัมภีร์มอรมอนด้วยตัวท่านเอง (ดู ข้อ 16, 24; ดู โมโรไน 10:3–5 ด้วย)

หลักคำสอนและพันธสัญญา 5:1–10

พระเยซูคริสต์ประทานพระวจนะของพระองค์ผ่านโจเซฟ สมิธ

หลักคำสอนและพันธสัญญา 5:1–10 สอนอะไรท่านเกี่ยวกับบทบาทของโจเซฟ สมิธในยุคสมัยของเรา—และในชีวิตท่าน? (ดู 2 นีไฟ 3:6–24 ด้วย)

ดูแนวคิดเพิ่มเติมได้จากนิตยสาร เลียโฮนา และ เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน ฉบับเดือนนี้

แนวคิดสำหรับการสอนเด็ก

หลักคำสอนและพันธสัญญา 3:5–10; 5:21–22

ฉันสามารถเลือกสิ่งถูกต้องเมื่อผู้อื่นพยายามชักจูงให้ฉันทำผิด

• เพื่อเริ่มการสนทนาเกี่ยวกับการเรียนรู้ที่จะวางใจพระบิดาบนสวรรค์ ท่านอาจต้องการทบทวนเรื่องราวของต้นฉบับที่หายไป (ดู เรื่องราวในหลักคําสอนและพันธสัญญา หน้า 18–21) จากนั้นท่านอาจแสดงบทบาทสมมติกับเด็กในสถานการณ์ที่พวกเขาอาจถูกล่อลวงให้ทำสิ่งที่พวกเขารู้ว่าไม่ถูกต้อง มีคำหรือวลีอะไรบ้างใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 3:5–8; 5:21–22 ที่สามารถช่วยพวกเขาระหว่างสถานการณ์เหล่านี้?

  Chapter 4: Martin Harris and the Lost Pages: 1827–1828

หลักคำสอนและพันธสัญญา 4

พระเจ้าทรงเชื้อเชิญให้ฉันช่วยงานของพระองค์

• แต่ละข้อใน หลักคําสอนและพันธสัญญา 4 ประกอบด้วยความจริงอันล้ำค่าที่สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับการรับใช้พระผู้เป็นเจ้า ต่อไปนี้เป็นแนวคิดบางประการที่จะช่วยให้พวกเขาค้นพบความจริงเหล่านี้:

  • ท่านอาจอ่าน หลักคําสอนและพันธสัญญา 4:1 ด้วยกันและให้ดูภาพที่แสดงให้เห็นงาน “อัศจรรย์” ยุคสุดท้ายของพระผู้เป็นเจ้า (เช่น ผู้สอนศาสนา พระวิหาร และพระคัมภีร์มอรมอน)

  • เด็กอาจคิดท่าทางหรือวาดภาพบรรยายวลี “รับใช้พระองค์ด้วยสุดใจ, พลัง, ความนึกคิด และพละกำลังของเจ้า” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 4:2)

  • ท่านอาจดูเครื่องมือที่ใช้ทํางานในทุ่งด้วยกัน เครื่องมือเหล่านี้ช่วยเราอย่างไร? เด็กอาจหาสิ่งต่างๆ ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 4:5–6 ที่จะเป็นเหมือนเครื่องมือทำงานของพระผู้เป็นเจ้า

  • เด็กโตอาจค้นคว้า หลักคำสอนและพันธสัญญา 4 และเขียนสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับความหมายของการรับใช้พระผู้เป็นเจ้า

  • ท่านอาจร้องเพลงด้วยกันหนึ่งเพลงเกี่ยวกับงานเผยแผ่ศาสนา เช่น “ฉันอยากเป็นผู้สอนศาสนาเดี๋ยวนี้” (หนังสือเพลงสำหรับเด็ก หน้า 90)

ฉันสามารถช่วยงานของพระผู้เป็นเจ้าได้โดยการรับใช้ผู้อื่น

ปรับกิจกรรมให้เหมาะกับเด็กพิการ การปรับกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ จะทําให้ทุกคนมีโอกาสเรียนรู้ ตัวอย่างเช่น ถ้ากิจกรรมแนะนำให้ดูภาพ ท่านจะร้องเพลงแทนการดูภาพเพื่อให้เด็กพิการทางสายตาได้มีส่วนร่วม

หลักคำสอนและพันธสัญญา 5:1–7, 11, 16, 23–24

ฉันสามารถเป็นพยานว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง

• เพื่อสอนเด็กเกี่ยวกับพยาน ท่านอาจขอให้พวกเขาจินตนาการว่าเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าพวกเขาเห็นแมวตัวหนึ่งเดินด้วยขาหน้า พวกเขาจะเชื่อหรือไม่? จะเป็นอย่างไรถ้าเพื่อนอีกคนพูดแบบเดียวกัน? สนทนากันว่า “พยาน” คืออะไรและเหตุใดพยานจึงสําคัญ จากนั้นท่านอาจจะช่วยเด็กค้นคว้า หลักคําสอนและพันธสัญญา 5:1–3, 7, 11 เพื่อหาคําตอบของคําถามทํานองนี้:

  • มาร์ติน แฮร์ริสต้องการรู้อะไร?

  • โจเซฟ สมิธจะแสดงแผ่นจารึกทองคําให้ใครดู?

  • เหตุใดการเห็นแผ่นจารึกจึงไม่ทำให้บางคนเชื่อว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง?

  • เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเป็นพยานถึงพระคัมภีร์มอรมอน? (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 5:16; โมโรไน 10:3–5)

ดูแนวคิดเพิ่มเติมจากนิตยสาร เพื่อนเด็ก ฉบับเดือนนี้

หนักใจเรื่องงานแปล 116 หน้า โดย ควานี โปวี วินเดอร์