เซมินารี
บทเรียนที่ 190—การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี: สร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับครอบครัวและเพื่อน


“บทเรียนที่ 190—การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี: สร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับครอบครัวและเพื่อน” หลักคําสอนและพันธสัญญา คู่มือครูเซมินารี (2025)

“การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี” หลักคําสอนและพันธสัญญา คู่มือครูเซมินารี

บทเรียนที่ 190—สุขภาพกายและอารมณ์

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

สร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับครอบครัวและเพื่อน

กลุ่มเพื่อน

พระบิดาบนสวรรค์ทรงต้องการให้เรารักพระองค์และคนรอบข้าง เมื่อเราพัฒนาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัวและเพื่อน เราจะได้รับพรด้วยการปลอบโยน ความเข้มแข็ง และความช่วยเหลือที่จําเป็นทั้งในช่วงเวลาที่สงบและท้าทาย บทเรียนนี้จะช่วยให้นักเรียนแสวงหาความช่วยเหลือจากพระเจ้าในการสร้างความสัมพันธ์และความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมของพวกเขา

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทําได้

อะไรสําคัญที่สุด?

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนสิ่งที่พวกเขารู้สึกว่าสําคัญที่สุดในชีวิตไว้บนกระดาน

แสดงคํากล่าวต่อไปนี้และเชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งให้อ่านออกเสียง

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ แห่งฝ่ายประธานสูงสุดในขณะนั้นสอนเกี่ยวกับสิ่งสําคัญที่สุด:

2:3

Of Things That Matter Most

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ

ขณะที่เราหันไปหาพระบิดาบนสวรรค์ของเราและแสวงหาพระปรีชาญาณของพระองค์ถึงสิ่งสําคัญที่สุด เราเรียนรู้ซํ้าแล้วซํ้าเล่าถึงความสําคัญของสัมพันธภาพหลักสี่ข้อ: กับพระผู้เป็นเจ้าของเรา กับครอบครัวเรา กับเพื่อนมนุษย์ของเรา และกับตนเอง (ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “เกี่ยวกับสิ่งสำคัญที่สุดเลียโฮนา, พ.ย. 2010, 27)

  • ท่านเรียนรู้อะไรจากคํากล่าวของประธานอุคท์ดอร์ฟ?

เชื้อเชิญให้นักเรียนวงกลมวลีที่พวกเขาเขียนไว้บนกระดานที่แสดงความสัมพันธ์ของเรากับพระผู้เป็นเจ้าและผู้อื่นเป็นสิ่งสําคัญที่สุดในชีวิต หากจําเป็น ให้เพิ่ม “ความสัมพันธ์ของเรากับพระผู้เป็นเจ้าและผู้อื่น” ลงในรายการบนกระดาน

อธิบายว่าบทเรียนนี้จะเน้นความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่น เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงความสัมพันธ์ปัจจุบันบางอย่างของพวกเขาและความสัมพันธ์เหล่านี้นําพวกเขาเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น ให้พลังและความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการในชีวิตพวกเขาหรือไม่ พวกเขาสามารถไตร่ตรองเช่นกันว่าพระเจ้าอาจทรงต้องการให้พวกเขากระชับความสัมพันธ์ที่มีอยู่หรือพัฒนาความสัมพันธ์ใหม่ๆ อย่างไร

ความสัมพันธ์ของเรา

ไอคอนเอกสารแจกแจกเอกสาร “ตัวอย่างของความสัมพันธ์ที่มีความหมายในประวัติศาสนจักรและหลักคําสอนและพันธสัญญา” และเชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาหลักฐานของความจริงต่อไปนี้: วิธีหนึ่งที่พระผู้เป็นเจ้าจะประทานพรชีวิตเราและเสริมสร้างศรัทธาของเราคือผ่านความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้อื่น (ท่านอาจต้องการเขียนความจริงนี้ไว้บนกระดาน)

คิดหาวิธีช่วยนักเรียนใช้เอกสารแจก วิธีหนึ่งคือจัดพวกเขาเป็นกลุ่มๆ ละสามคนและมอบหมายให้สมาชิกกลุ่มแต่ละคนศึกษาตัวอย่างหนึ่งข้อในเอกสารแจก เมื่อนักเรียนศึกษาตัวอย่างเสร็จแล้ว กระตุ้นให้พวกเขาผลัดกันแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้กับกลุ่มว่าพระผู้เป็นเจ้าจะประทานพรผ่านความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่นได้อย่างไร

ตัวอย่างของความสัมพันธ์ที่มีความหมายในประวัติศาสนจักรและหลักคําสอนและพันธสัญญา

ตัวอย่างที่ 1

หลังจากไปเยือนเนินเขาคาโมราห์ในเดือนกันยายน ปี 1823 โจเซฟ สมิธแบ่งปันรายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์ของท่านและการเยือนของเทพโมโรไนกับครอบครัวของท่าน และโจเซฟแบ่งปันประสบการณ์และนิมิตของท่านกับคนใกล้ชิดที่สุด เมื่อนึกถึงการมาเยือนอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ลูซี แม็ค สมิธมารดาของศาสดาพยากรณ์บันทึกไว้ดังนี้:

ลูซี แมค สมิธ

ทุกเย็นเราให้ลูกๆ มารวมกัน ดิฉันคิดว่าเราได้เห็นแง่มุมพิเศษที่สุดของครอบครัวที่เคยอยู่บนแผ่นดินโลก ทุกคนนั่งเป็นวงกลม บิดา มารดา บุตรชาย และบุตรสาวที่ฟังคําสอนทางศาสนาของเด็กชายผู้หนึ่งด้วยความกระตือรือร้นจนแทบหยุดหายใจ …

… เป็นการรวมตัวและความสุขที่หอมหวานที่สุดแผ่ซ่านไปทั่วบ้านเรา ไม่มีขวดโหลหรือความไม่ปรองดองรบกวนสันติสุข และความสงบสุขอยู่ท่ามกลางเรา (ลูซี แม็ค สมิธ, ใน คําสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 486)

  • อะไรสะดุดใจท่านเกี่ยวกับครอบครัวสมิธจากเรื่องราวนี้?

  • ความรักที่โจเซฟรู้สึกที่บ้านอาจช่วยให้ท่านทําการเรียกสําคัญของท่านให้เกิดสัมฤทธิผลอย่างไร?

  • ท่านเรียนรู้อะไรจากตัวอย่างนี้เกี่ยวกับวิธีที่พระผู้เป็นเจ้าประทานพรท่านหรือวิธีที่ท่านจะช่วยให้ผู้อื่นได้รับพรผ่านความสัมพันธ์ที่มีความหมาย?

ตัวอย่างที่ 2

ขณะอยู่ในนอวู อิลลินอยส์ โจเซฟ สมิธใคร่ครวญประโยชน์ของความสัมพันธ์ที่มีความหมายดังนี้:

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

ข้าพเจ้าจะถือว่าเป็นพรประเสริญที่สุดประการหนึ่ง ถ้าข้าพเจ้าจะต้องทนทุกข์ในโลกนี้ ได้จับฉลากที่ซึ่งข้าพเจ้าจะได้พบพี่น้องและมิตรสหายรอบตัวข้าพเจ้า (คําสอน: โจเซฟ สมิธ, 466)

  • ครอบครัวและเพื่อนจะช่วยเราได้อย่างไรเมื่อเรากําลังประสบความท้าทายที่ยากลําบาก?

  • ครอบครัวและเพื่อนสามารถเป็นพรแก่ชีวิตเราด้วยวิธีใดได้อีกบ้าง?

ตัวอย่างที่ 3

อ่าน หลักคําสอนและพันธสัญญา 108:7 โดยมองหาคําแนะนําที่พระเจ้าประทานแก่ไลมัน เชอร์มันแห่งสาวกเจ็ดสิบ

  • เหตุใดบางครั้งการเชื่อฟังคําแนะนําจึงเป็นเรื่องยาก?

  • ท่านรู้สึกเข้มแข็งขึ้นหรือเบิกบานใจจากการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเมื่อใด?

เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้กับชั้นเรียนและวิธีที่พระผู้เป็นเจ้าจะประทานพรเราผ่านความสัมพันธ์ของเรา

  • ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับคุณค่าของการพัฒนาความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้อื่นในชีวิตท่าน?

  • การสร้างและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นส่งผลต่อความสัมพันธ์ของเรากับพระผู้เป็นเจ้าตลอดจนสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมของเราอย่างไร?

การสร้างความสัมพันธ์

ท่านอาจต้องการใช้เวลาสนทนาทักษะการสร้างความสัมพันธ์ ท่านอาจแจกแถบกระดาษเปล่าให้นักเรียนทุกคน กระตุ้นให้พวกเขาเขียนอย่างน้อยหนึ่งอย่างที่จะช่วยบางคนพัฒนาหรือเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น เก็บกระดาษและอ่านออกเสียงหลายๆ แผ่นให้ชั้นเรียนฟัง หากจําเป็น ให้แบ่งปันแนวคิดต่อไปนี้บางส่วนหรือทั้งหมดกับนักเรียน

  • มองหาความสนใจร่วมกัน

  • เรียนรู้และเรียกชื่อของผู้คน

  • ยิ้ม

  • ตั้งใจฟังขณะที่คนอื่นพูด

  • ชื่นชมและชมเชยผู้อื่นอย่างจริงใจ

  • หลีกเลี่ยงการตัดสินหรือการจับผิด

  • แสดงความสนใจอย่างจริงใจ

  • สวดอ้อนวอนให้ผู้คนโดยระบุชื่อ

  • แสวงหาจิตกุศล

  • จงอดทน

  • มองหาโอกาสในการรับใช้

ท่านอาจให้เวลานักเรียนในชั้นเรียนฝึกทักษะการสร้างความสัมพันธ์บางอย่างเหล่านี้ ตัวอย่างต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์ถ้านักเรียนไม่รู้จักชื่อของกันและกันดีนัก หากนักเรียนของท่านรู้จักชื่อของกันและกันอยู่แล้ว ท่านอาจเลือกทักษะที่แตกต่างออกไปเพื่อฝึกปฏิบัติ

นิยาม: อธิบายว่าการเรียกชื่อคนเป็นทักษะที่เป็นประโยชน์ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี อธิบายว่าพระเจ้าทรงเรียกชื่อเรา (ดู ปฐมกาล 35:10; ลูกา 19:5; อีนัส 1:5; โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:17) ท่านอาจถามนักเรียนว่าสิ่งนั้นทําให้พวกเขารู้สึกอย่างไรเมื่อคนอื่นรู้และเรียกชื่อพวกเขา

ตัวอย่าง: บอกนักเรียนว่าพวกเขาจะถูกท้าทายให้เรียนรู้ชื่อและเรียกชื่อกัน อธิบายว่าวิธีหนึ่งที่จะจําชื่อผู้คนได้คือจดและทบทวนชื่อเหล่านั้น ขณะที่ท่านบอกชื่อสมาชิกแต่ละคนในชั้นเรียน เชื้อเชิญให้นักเรียนจดชื่อที่พวกเขาไม่รู้จัก

จะเป็นประโยชน์เช่นกันถ้าถามนักเรียนว่าอะไรขัดขวางการจดจําชื่อของผู้คนและพวกเขาจะเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ได้อย่างไร

ฝึกปฏิบัติ: ให้เวลานักเรียนสองสามนาทีทบทวนชื่อที่พวกเขาเขียน จากนั้นให้พวกเขาฝึกปฏิบัติ ท่านอาจจัดเป็นคู่และดูว่าพวกเขาจะช่วยกันบอกชื่อทุกคนในชั้นเรียนได้หรือไม่ ถามว่าใครสามารถบอกชื่อทุกคนในชั้นเรียนได้ด้วยตนเอง และถ้าใครทําได้ เชื้อเชิญพวกเขาทํา ถ้าการท้าทายเพิ่มเติมเป็นสิ่งที่เหมาะสม เชื้อเชิญให้นักเรียนเปลี่ยนตําแหน่งที่พวกเขานั่ง แล้วดูว่านักเรียนยังคงระบุชื่อทุกคนได้หรือไม่

หากเวลาเอื้ออํานวย ให้เลือกทักษะเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น เชื้อเชิญให้นักเรียนหาสิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันกับผู้อื่น พวกเขาสามารถทํางานกับคนในห้องที่โดยปกติพวกเขาไม่ได้ทํางานด้วยและถามคําถามกันเพื่อค้นพบความสนใจร่วมกัน จากนั้นพวกเขาสามารถเปลี่ยนไปหานักเรียนอีกคนหนึ่งเพื่อฝึกซํ้า (เพื่อรวมทั้งสองทักษะเข้าด้วยกัน กระตุ้นให้นักเรียนเรียกชื่อกันในกระบวนการนั้น)

การประยุกต์ใช้ส่วนตัว

ท่านอาจเป็นพยานถึงความรักที่พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงมีต่อนักเรียนแต่ละคน เป็นพยานว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงสามารถเป็นพรและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชีวิตผ่านความสัมพันธ์ที่มีความหมายที่พวกเขาพยายามพัฒนาและบํารุงเลี้ยง ท่านอาจยกตัวอย่างของการได้รับพรและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในชีวิตท่านเองเช่นกัน

เชื้อเชิญให้นักเรียนแสวงหาการนําทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้ทําดังนี้:

ให้นึกถึงวิธีที่พระเจ้าอาจทรงต้องการช่วยท่านเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มีอยู่หรือพัฒนาความสัมพันธ์ใหม่ ใช้สิ่งที่ท่านเรียนรู้วันนี้ วางแผนเพื่อทําให้การเชื่อมต่อของท่านกับบุคคลนี้ลึกซึ้งขึ้น รวมถึงวิธีที่ท่านจะหันไปขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าในกระบวนการนี้