1 โครินธ์ 2

ความเข้าใจเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ

แนวคิดทางโลกในเรื่องใดที่ทำให้ท่านเล็งเห็นความจริงได้ยากในบางครั้ง? เหล่าวิสุทธิชนในโครินธ์สับสนกับแนวคิดทางโลก และอัครสาวกเปาโลพยายามช่วยให้วิสุทธิชนเหล่านั้นเห็นวิธีที่สามารถเรียนรู้ถึงความจริงทางวิญญาณอันยั่งยืน บทเรียนนี้จะช่วยท่านอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อช่วยท่านเรียนรู้เรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ 

การกล่าวถึงความจริงของพระกิตติคุณด้วยคำพูดของท่านเอง การส่งเสริมให้นักเรียนกล่าวถึงความจริงของพระกิตติคุณโดยใช้คำพูดของตนเองจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจและเชื่อมโยงกับหลักธรรมที่พบในพระคัมภีร์ นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ที่จะขอให้นักเรียนไตร่ตรองเพื่อรับการยืนยันจากพระวิญญาณว่าคำพูดของนักเรียนเป็นจริง

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนเตรียมคำตอบสำหรับคำถามต่อไปนี้: ความจริงใดบ้างที่ท่านทราบผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์? พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงยืนยันความจริงเหล่านี้ต่อท่านอย่างไร?

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

“บอกผมมาว่าคุณรู้ได้ อย่างไร”

อ่านหรือเชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านเรื่องราวต่อไปนี้

ในช่วงหลังของบทเรียนนี้จะมีการแบ่งปันบทสรุปทิ้งท้ายสำหรับเรื่องราวดังกล่าว

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์ (1924–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองแบ่งปันเรื่องราวต่อไปนี้:

ข้าพเจ้านั่งอยู่บนเครื่องบินข้างๆ ผู้ที่อ้างว่าเขาเป็นผู้ที่ไม่เชื่อว่ามีพระผู้เป็นเจ้า เขารีบยืนยันว่าเขาไม่เชื่อเมื่อข้าพเจ้าแสดงประจักษ์พยานของข้าพเจ้าต่อเขา “คุณผิดแล้ว” ข้าพเจ้ากล่าว “พระผู้เป็นเจ้ามีอยู่จริง ผม รู้ พระองค์ทรงพระชนม์!”

เขาแย้งว่า “คุณไม่ รู้ ไม่มีใคร รู้ เรื่องนั้น! คุณ รู้ สิ่งนี้ไม่ได้!” เมื่อข้าพเจ้าไม่ยอม คนที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้าคนนั้นซึ่งเป็นทนายความ ถามคำถามที่อาจเป็นคำถามพื้นฐานในเรื่องประจักษ์พยาน “ได้” เขาพูดแบบยอมให้อย่างเย้ยหยัน “คุณพูดว่าคุณรู้ บอกผมมาว่าคุณรู้ได้ อย่างไร”

(บอยด์ เค. แพคเกอร์, “The Candle of the Lord,” Ensign, Jan. 1983, 51)

• ท่านเคยเห็นการตั้งคำถามประเภทนี้ในโลกปัจจุบันอย่างไรบ้าง?

• ท่านจะตอบคำถามของชายคนนี้อย่างไร?

ขณะที่ท่านศึกษา ให้ไตร่ตรองว่าท่านเข้าใจวิธีเรียนรู้ความจริงทางวิญญาณได้ดีเพียงใดและค้นหาข้อมูลเชิงลึกที่สามารถช่วยให้ท่านเรียนรู้ได้มากขึ้น

การเรียนรู้ความจริงทางวิญญาณ

วิสุทธิชนในโครินธ์สับสนแนวคิดและการปฏิบัติทางโลกกับการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ ผลก็คือ วิสุทธิชนเหล่านั้นทำผิดพลาดมากมาย เปาโลเขียนจดหมายถึงพวกเขาเพื่อช่วยให้เข้าใจวิธีเรียนรู้เรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ

อ่าน 1 โครินธ์ 2:9–14 เพื่อค้นหาข้อคิดที่จะช่วยให้เราได้เรียนรู้ความจริงทางวิญญาณ

โปรดทราบว่า “คนทั่วไป” ใน ข้อ 14 หมายถึง “บุคคลซึ่งเลือกที่จะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอารมณ์ ความปรารถนา ความต้องการ และสัมผัสของเนื้อหนังมากกว่าภายใต้การกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์” (คู่มือพระคัมภีร์, “ มนุษย์ปุถุชน ,” scriptures.ChurchofJesusChrist.org)

• ข้อใดหรือวลีใดสะดุดใจท่าน? ท่านชอบอะไรเกี่ยวกับข้อนั้นหรือวลีนั้น?

• ท่านได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และความรักของพระองค์ที่มีต่อท่านใน ข้อ 9 ?

• ท่านพบความจริงใดเกี่ยวกับวิธีที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงเปิดเผยความรู้ต่อบุตรธิดาของพระองค์?

ดูเคล็ดลับการสอนในตอนต้นของบทเรียนนี้เพื่อช่วยนักเรียนขณะพวกเขาระบุความจริงต่างๆ

ความจริงข้อหนึ่งที่สอนในข้อเหล่านี้คือ เราจะรู้และเข้าใจเรื่องของพระผู้เป็นเจ้าได้ผ่านพระวิญญาณของพระองค์เท่านั้น

เพื่อยกตัวอย่างที่เป็นไปได้สำหรับการไม่เข้าใจว่าจะเรียนรู้ความจริงทางวิญญาณได้อย่างไร ให้อ่านสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อประธานแพคเกอร์พยายามอธิบายกับคนที่เชื่อว่าไม่มีพระเจ้าบนเครื่องบินว่าท่านรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้ามีจริง:

เมื่อข้าพเจ้าใช้คำว่า พระวิญญาณ และ พยาน คนที่เชื่อว่าไม่มีพระเจ้าคนนั้นตอบว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร” คำว่า คำสวดอ้อนวอน การเล็งเห็น และ ศรัทธา ไร้ความหมายสำหรับเขาอย่างเท่าเทียมกัน

(บอยด์ เค. แพคเกอร์, “The Candle of the Lord,” Ensign, Jan. 1983, 51)

เรียนรู้โดยพระวิญญาณ

ในสมุดบันทึกการศึกษาของท่าน ให้เขียนความจริงทางวิญญาณบางอย่างที่ท่านเรียนรู้ผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ และระบุความจริงบางอย่างที่ท่านต้องการเป็นพยานด้วย บางตัวอย่างอาจรวมถึงสิ่งต่อไปนี้: พระบิดาบนสวรรค์มีจริงและรักฉัน พระเยซูคริสต์คือพระผู้ช่วยให้รอดของฉัน และโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า

เลือกหนึ่งในความจริงที่ท่านระบุและตอบคำถามต่อไปนี้:

• โลกจะบอกให้ท่านค้นหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร?

• ท่านเคยทำอะไร หรือท่านสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อที่จะได้รู้ความจริงนี้ผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์?

ท่านอาจเชื้อเชิญให้อาสาสมัครแบ่งปันคำตอบหากคำตอบเหล่านั้นไม่เป็นส่วนตัวจนเกินไป หากนักเรียนแบ่งปันความจริงที่ตนต้องการทราบ ให้ลองถามดูว่ามีนักเรียนคนใดอยากแบ่งปันประสบการณ์ของตนที่ได้รู้ความจริงนั้นบ้าง ท่านอาจแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวเช่นกัน

ทำตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณเพื่อให้ทราบว่านักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการศึกษาเพิ่มเติมถึงวิธีเรียนรู้จากพระวิญญาณหรือไม่ ท่านอาจใช้แหล่งข้อมูลเหล่านี้บางอย่างหรือทั้งหมด

หากท่านต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนรู้ความจริงผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านอาจศึกษาแหล่งข้อมูลบางอย่างต่อไปนี้:

• กาลาเทีย 5:22–23 ; หลักคำสอนและพันธสัญญา 8:2–3 ; 9:7–8 ; 11:12–14, 21–22 ; และ 138:1–4, 11

• รายการที่มีชื่ออย่างเช่น “ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ” ใน คู่มือพระคัมภีร์ Topical Guide , หรือหน้า Gospel Topics ที่พบได้ใน topics.ChurchofJesusChrist.org

• คำปราศรัยและบทความเกี่ยวกับการเรียนรู้โดยพระวิญญาณเช่น เดวิด เอ. เบดนาร์, “Learning in the Lord’s Way,” New Era, Oct. 2018, 50–53; หรือ ริชาร์ด จี. สก็อตต์, “How to Learn by the Spirit,” New Era, Sept. 2014, 48

• .

How Does the Holy Spirit Guide?

What is it like to be guided by the Holy Ghost? Ordinary people share their experiences.

เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พบ

ช่วยให้ผู้อื่นเรียนรู้ด้วยพระวิญญาณ

อ่านเรื่องราวต่อไปนี้ของประธานแพคเกอร์ให้จบ เมื่อชายบนเครื่องบินปฏิเสธคำอธิบายของประธานแพคเกอร์ ประธานแพคเกอร์รู้สึกได้รับการดลใจที่จะขอให้ชายคนนั้นอธิบายรสชาติของเกลือ:

แน่นอนว่า หลังจากพยายามสองสามครั้งเขาไม่สามารถอธิบายได้ เขาไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นเพียงคำพูดในเรื่องธรรมดามาก อย่างเช่นประสบการณ์การชิมเกลือ ข้าพเจ้าเป็นพยานต่อเขาอีกครั้งและพูดว่า “ผมรู้ว่ามีพระผู้เป็นเจ้า คุณล้อเลียนประจักษ์พยานนั้นและบอกว่าหากผมรู้ จริงๆ ผมจะบอกคุณได้จริงๆ ว่าผมรู้ได้ อย่างไร สหายของผม ถ้าจะพูดในทางวิญญาณ ผมได้ชิมเกลือนั้นแล้ว ผมก็ไม่สามารถถ่ายทอดให้กับคุณรู้เป็นคำพูดว่าความรู้นี้มาได้อย่างไรไม่ต่างกับที่คุณไม่สามารถบอกผมได้ว่าเกลือมีรสชาติอย่างไร แต่ผมบอกคุณอีกครั้ง มีพระผู้เป็นเจ้า! พระองค์ทรงพระชนม์อยู่จริง! และเพียงเพราะคุณไม่รู้ อย่าพยายามบอกผมว่าผมไม่รู้ เพราะผมรู้!” …

นับจากประสบการณ์นั้น ข้าพเจ้าไม่เคยรู้สึกอึดอัดหรืออับอายเลยที่ข้าพเจ้าไม่สามารถอธิบายทุกอย่างที่ข้าพเจ้ารู้ทางวิญญาณออกมาเป็นคำพูดได้

(บอยด์ เค. แพคเกอร์, “The Candle of the Lord,” Ensign, Jan. 1983, 52)

• ทำไมพระวิญญาณบริสุทธิ์จึงเป็นแหล่งความรู้ที่ดีกว่าปัญญาและการใช้เหตุผลของโลก?

• ท่านสามารถทำอะไรเพื่อแสวงหาความรู้จากพระบิดาบนสวรรค์?

ท่านอาจเขียนในสมุดบันทึกการศึกษาของท่านว่า ท่านต้องการทำสิ่งใดเพื่อเรียนรู้ความจริงต่อไปด้วยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์

แบ่งปันประจักษ์พยานส่วนตัวเกี่ยวกับความสำคัญของการเรียนเรื่องทางวิญญาณผ่านทางพระวิญญาณ พูดให้ความมั่นใจว่าขณะที่นักเรียนมุ่งมั่นเรียนรู้เกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ พระวิญญาณจะทรงช่วยพวกเขา

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

ฉันจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเรียนรู้เรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ?

เอ็ลเดอร์พอล วี. จอห์นสันแห่งสาวกเจ็ดสิบระบุว่า:

คำตอบสำหรับคำถามทางวิญญาณมีให้แก่บุคคลผู้ไม่มีใจแข็งกระด้าง ผู้ที่ถามด้วยศรัทธา โดยเชื่อว่าพวกเขาจะได้รับ และผู้ที่ขยันหมั่นเพียรรักษาพระบัญญัติ

(พอล วี. จอห์นสัน, “A Pattern for Learning Spiritual Things” [การถ่ายทอดสดจากเซมินารีและสถาบันศาสนา, ส.ค. 7, 2012], broadcasts.ChurchofJesusChrist.org)

เรื่องต่างๆ เช่นวิธีการทางวิทยาศาสตร์และตรรกะเพียงอย่างเดียวสามารถนำมาใช้เพื่อทำความเข้าใจความจริงของพระกิตติคุณได้ไหม?

ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์แห่งฝ่ายประธานสูงสุดระบุว่า:

ความจริงและแผน

ประธานโอ๊คส์สอนว่าเราควรแสวงหาความจริงจากแหล่งที่ไว้ใจได้และแบ่งปันความจริงพื้นฐานบางอย่างที่อธิบายว่าเหตุใดวิสุทธิชนยุคสุดท้ายดำเนินชีวิตอย่างที่เราทำ

เมื่อเราแสวงหาความจริงเรื่องศาสนา เราควรใช้วิธีการทางวิญญาณที่เหมาะสม เช่น การสวดอ้อนวอน พยานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ การศึกษาพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบัน ข้าพเจ้าเสียใจเสมอเมื่อได้รับรายงานเรื่องการสูญเสียความเชื่อทางศาสนาเพราะคำสอนทางโลก คนที่เคยมองเห็นทางวิญญาณอาจทำให้ตนเองตาบอดทางวิญญาณได้ ดังที่ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์กล่าว “ปัญหาของพวกเขาไม่ได้อยู่ในสิ่งที่พวกเขาคิดว่าตนเห็น แต่อยู่ในสิ่งที่พวกเขายังมองไม่เห็น” [เฮนรีย์ บี. อายริงก์, To Draw Closer to God: A Collection of Discourses (1997), 143]

วิธีการทางวิทยาศาสตร์นำไปสู่สิ่งที่เราเรียกว่าความจริงทางวิทยาศาสตร์ แต่ “ความจริงทางวิทยาศาสตร์” ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต คนที่ไม่เรียนรู้ “โดยการศึกษาและโดยศรัทธาด้วย” ( หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:118) จะจำกัดการเข้าใจความจริงของตนเฉพาะกับสิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้การแสวงหาความจริงของพวกเขาถูกจำกัด

(ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “ความจริงและแผน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2018, 25)

เมื่อเราแสวงหาความจริงเรื่องศาสนา เราควรใช้วิธีการทางวิญญาณที่เหมาะสม เช่น การสวดอ้อนวอน พยานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ การศึกษาพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบัน ข้าพเจ้าเสียใจเสมอเมื่อได้รับรายงานเรื่องการสูญเสียความเชื่อทางศาสนาเพราะคำสอนทางโลก คนที่เคยมองเห็นทางวิญญาณอาจทำให้ตนเองตาบอดทางวิญญาณได้ ดังที่ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์กล่าว “ปัญหาของพวกเขาไม่ได้อยู่ในสิ่งที่พวกเขาคิดว่าตนเห็น แต่อยู่ในสิ่งที่พวกเขายังมองไม่เห็น” [เฮนรีย์ บี. อายริงก์, To Draw Closer to God: A Collection of Discourses (1997), 143]

วิธีการทางวิทยาศาสตร์นำไปสู่สิ่งที่เราเรียกว่าความจริงทางวิทยาศาสตร์ แต่ “ความจริงทางวิทยาศาสตร์” ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต คนที่ไม่เรียนรู้ “โดยการศึกษาและโดยศรัทธาด้วย” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:118) จะจำกัดการเข้าใจความจริงของตนเฉพาะกับสิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้การแสวงหาความจริงของพวกเขาถูกจำกัด

(ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “ความจริงและแผน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2018, 25)

พระวิญญาณบริสุทธิ์จะสื่อสารความจริงกับฉันอย่างไร?

เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์ (1928–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองระบุว่า:

ท่านสามารถเรียนรู้สิ่งที่สำคัญยิ่งจากสิ่งที่ท่าน ได้ยิน และ เห็น และมากไปกว่านั้นอีก ด้วยสิ่งที่ท่าน รู้สึก เมื่อได้รับการกระตุ้นเตือนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ หลายคนจำกัดการเรียนรู้ของตนไว้เบื้องต้นในสิ่งที่ตน ได้ยิน หรือ อ่าน จงฉลาด พัฒนาทักษะในการเรียนรู้จากสิ่งที่ท่าน เห็น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงกระตุ้นเตือนให้ท่าน รู้สึก ตั้งใจและพยายามเรียนรู้จากสิ่งที่ท่านรู้สึกอยู่เสมอ ความสามารถในการทำเช่นนั้นของท่านจะเพิ่มพูนขึ้นจากการฝึกฝนซ้ำๆ ท่านจำเป็นต้องมีศรัทธาและความพยายามอย่างมากในการเรียนรู้สิ่งที่ท่านรู้สึกจากพระวิญญาณ ทูลถามด้วยศรัทธาเพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว ใช้ชีวิตเพื่อให้มีค่าควรแก่การชี้นำนั้น

(ริชาร์ด จี. สก็อตต์, “How to Learn by the Spirit,” New Era, Sept. 2014, 48)

กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม

แสดงความรักที่มีต่อพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน 1 โครินธ์ 2:9 และมองหาสิ่งที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงวางแผนไว้สำหรับผู้ที่รักพระองค์ นักเรียนอาจลองนึกถึงพรที่ตนได้รับและค้นคว้าพระคัมภีร์ที่ระบุพรซึ่งมาจากการทำตามพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:50, 58–70 และ โมไซยาห์ 2:41) จากนั้นอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน ยอห์น 14:15 และนึกถึงพระบัญญัติที่นักเรียนสามารถรักษาอย่างเต็มที่มากขึ้นเพื่อแสดงความรักที่มีต่อพระองค์

มีค่าสมกับพระวิญญาณ

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนศึกษาว่า นักเรียนจะทำสิ่งใดได้บ้างเพื่อให้มีค่าสมกับที่จะได้รับการสอนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ นักเรียนอาจจะอ่าน แอลมา 32:27–28 ; หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:14 ; และ ยอห์น 7:17 จากนั้นแบ่งปันสิ่งที่ตนพบ ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนทบทวนสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งที่ตนสามารถทำได้ในอนาคตเพื่อให้มีคุณสมบัติพร้อมสำหรับการมีพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นเพื่อน