เรียนรู้
ฉันจะขายมากขึ้นอย่างไร
-
เวลา:ตั้งเวลา 60 นาทีสำหรับหัวข้อเรียนรู้
-
ชมวีดิทัศน์“ขายได้ ขายไม่ได้!” (ไม่มีวีดิทัศน์ใช่ไหม ดู หน้า 178)
-
อ่าน:ไม่ยากเลย มาเรียขายได้ ซิลเวียได้สิ่งที่เธอต้องการ ทั้งคู่มีความสุข แต่มาเรียพลาดโอกาสที่จะขายได้มากขึ้น—ยอดขายเพิ่มจากบริการจัดส่ง การเพิ่มบริการจัดส่งจะช่วยมาเรียขายให้ซิลเวียได้มากขึ้น หรือ “เพิ่มยอดขาย”
“การเพิ่มยอดขาย” หมายถึงการให้ลูกค้ามีทางเลือกซื้อสินค้ามากกว่าหรือดีกว่าที่พวกเขาจะซื้อ
ตัวอย่างเช่น:
-
มากกว่า: เสนอขายเครื่องดื่มหรือขนมปังให้ลูกค้าที่สั่งปลาทอด
-
ดีกว่า: เสนอขายจักรเย็บผ้าคุณภาพดีกว่าให้ลูกค้าที่กำลังคิดจะซื้อจักรคุณภาพต่ำกว่า
-
-
ชมวีดิทัศน์“เพิ่มยอดขาย” (ไม่มีวีดิทัศน์ใช่ไหม ดู หน้า 178)
-
สนทนา:มาเรียสามารถเพิ่มยอดขายด้วยการเสนอบริการจัดส่งให้ซิลเวียอย่างไร ท่านเคยเห็นตัวอย่างอะไรบ้างของการเพิ่มยอดขาย
-
อ่าน:คำถามประจำสัปดาห์—ฉันจะเพิ่มกำไรอย่างไร
การปฏิบัติประจำสัปดาห์—ฉันจะลองเพิ่มยอดขายสองวิธี ฉันจะลองลดต้นทุนสองวิธี
ฉันควรเพิ่มยอดขายอะไร
-
อ่าน:ลูกค้าจะไม่ซื้อมากขึ้นเพียงเพราะเราแนะนำ จะต้องมีบางอย่างที่พวกเขาต้องการมากกว่าสินค้า
พวกเขาอาจจะยินดีจ่ายมากขึ้นเพื่อ:
-
ประหยัดเวลา
-
ประหยัดเงิน
-
คุณภาพ
-
ปริมาณ
-
การบริการ
-
ความสัมพันธ์
-
ความเร็ว
-
ความน่าเชื่อถือ
-
ความสวยงาม
-
ชื่อเสียง
-
-
ฝึก:ลูกค้าจะจ่ายมากขึ้นสำหรับอะไร ท่านจะทราบได้อย่างไร อยู่กับคู่และสนทนาว่าท่านคิดว่าลูกค้าของท่านเห็นค่าสิ่งใด
ใช้ตารางด้านล่างเขียนสามวิธีที่ท่านจะทราบว่าลูกค้าของท่านเห็นค่าสิ่งใด (มีตัวอย่างให้ดู)
แนวคิดของฉันเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้าเห็นค่า
สิ่งที่ฉันจะถามหรือทำเพื่อให้ได้ข้อมูล
ฉันคิดว่าลูกค้าอาจจะเห็นค่าความน่าเชื่อถือ
ถามลูกค้าว่า “ถ้าดิฉันรับประกันจัดส่งให้ตอนตีห้าทุกครั้ง คุณจะสนใจไหมคะ”
ฉันคิดว่าลูกค้าอาจจะให้ความสำคัญต่อสินค้าสดใหม่
ติดป้ายที่กล่องผลไม้ว่า “เพิ่งเก็บเช้านี้” และอีกกล่องเขียนว่า “เก็บสัปดาห์นี้” ดูว่าลูกค้าเลือกกล่องไหน
หลังจากเขียนแนวคิดของท่านแล้ว ให้แบ่งปันกับกลุ่ม
ราคาเพิ่มยอดขายของฉันควรเป็นเท่าใด
-
อ่าน:ลูกค้าอาจต้องการบางอย่างมากกว่านั้น แต่ลูกค้ายินดีจ่ายในราคาเท่าใด
เรายินดีขายราคาเท่าใด เราต้องทำกำไร
ตัวอย่างเช่น นาโอมิทดสอบแนวคิดของเธอที่ว่าลูกค้าให้ความสำคัญกับคุณภาพ พวกเขามักจะเลือกผลไม้ที่ “เก็บใหม่เช้านี้” ปัญหาคือต้นทุนของเธอสูงขึ้นเมื่อขายผลไม้สด จริงๆ แล้วเธอขาดทุน
เธอตัดสินใจขายผลไม้ที่ “เก็บสัปดาห์นี้” 10 บาท (กำไร = 1 บาท) และขายผลไม้ที่ “เก็บใหม่เช้านี้” 13 บาท (กำไร = 3 บาท) เธอจะลองเพิ่มยอดขายผลไม้ที่เก็บใหม่ให้ลูกค้าของเธอ
-
ฝึก:อยู่รวมกับคู่ปฏิบัติ มองดูสิ่งที่ลูกค้าเห็นค่าจากหน้าก่อน เขียนสินค้าหรือบริการที่ท่านเพิ่มยอดขาย ใช้ตารางด้านล่างเขียนราคา
เพิ่มยอดขาย
ราคาเพิ่มยอดขายของฉัน
ฉันจะขายผลไม้ “เก็บใหม่เช้านี้”
ราคาผลไม้ “เก็บสัปดาห์นี้” = 10 บาท (กำไร 1 บาท)
ราคาผลไม้ “เก็บใหม่เช้านี้” = 13 บาท (กำไร 3 บาท)
ฉันรับประกันว่าจะซักรีดเสร็จตอนตีห้า
ราคาซักรีดปกติของวันถัดไป = 20 บาท (กำไร 4 บาท)
ราคาซักรีดที่รับประกัน = 27 บาท (กำไร 8 บาท)
ฉันจะขายสบู่ดูแลผิว
ราคาสบู่ปกติ = 12 บาท (กำไร 2 บาท)
ราคาสบู่ดูแลผิว = 18 บาท (กำไร 6 บาท)
-
สนทนา:หลังจากเขียนแนวคิดของท่านแล้ว ให้แบ่งปันกับกลุ่ม
ฉันจะเพิ่มยอดขายอย่างไร
-
อ่าน:อะไรจะทำให้ลูกค้าของเราอยากซื้อมากขึ้น เราต้องมี “วลีเพิ่มยอดขาย” วลีเพิ่มยอดขายอาจเป็นว่า “แพงขึ้นอีกนิด แต่ ____”เราเติมคุณค่าที่เรารู้ว่าสำคัญต่อลูกค้าลงในช่องว่าง
ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าของนาโอมิดูผลไม้ที่ “เก็บสัปดาห์นี้” เธอพูดว่า “ดิฉันมีผลไม้เก็บใหม่เช้านี้”
แล้วเธอก็เติมวลีเพิ่มยอดขายว่า “แพงขึ้นอีกนิด แต่สดกว่า”
-
ฝึก:นึกถึงธุรกิจของท่านเอง พิจารณารายการที่ท่านเพิ่มยอดขาย ท่านจะพูดอะไรเพื่อเพิ่มยอดขายให้ลูกค้า ใช้ตารางด้านล่างสร้างวลีเพิ่มยอดขายของท่าน (มีตัวอย่างให้ดู)
เขียนวลีเพิ่มยอดขาย
สินค้าชิ้นแรกหรือบริการครั้งแรก
เพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการ
สิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญ
วลีเพิ่มยอดขาย
ผลไม้ “เก็บสัปดาห์นี้”
ผลไม้ “เก็บใหม่เช้านี้”
คุณภาพ (ความสดใหม่)
แพงขึ้นอีกนิด แต่สดกว่า
นมครึ่งลิตรราคา 30
นมหนึ่งลิตรราคา 50
ประหยัดเงิน
แพงขึ้นอีกนิด แต่คุณได้เพิ่มสองเท่าแค่เพิ่มเงินอีก 2 บาท
สบู่ปกติ
สบู่ดูแลผิว
คุณภาพ
แพงขึ้นอีกนิด แต่ดีต่อผิวคุณมากกว่า
บริการซักรีด
รีดเสื้อ
ประหยัดเวลา
แพงขึ้นอีกนิดแต่ประหยัดเวลาได้มาก
ฉันจะขายสินค้าให้เร็วขึ้นได้อย่างไร
-
อ่าน:เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จขายให้ลูกค้าแต่ละคนมากขึ้นเพื่อพวกเขาจะ “หมุนเวียนสินค้าในร้าน” ได้เร็ว “หมุนเวียนสินค้าในร้าน” หมายถึงขายสินค้าทั้งหมดที่ซื้อมาจากผู้จัดส่ง เราสามารถใช้เทคนิคเพิ่มยอดขายเพื่อขายให้ลูกค้าแต่ละคนมากขึ้น
-
ชมวีดิทัศน์“หมุนเวียนสินค้าในร้านได้เร็ว” (ไม่มีวีดิทัศน์ใช่ไหม อ่าน หน้า 179)
-
สนทนา:มาเรียจะหมุนเวียนสินค้าในร้านของเธอให้เร็วขึ้นได้อย่าง นี่จะเพิ่มกำไรให้เธอได้อย่างไร
ก่อน
สิ่งที่มาเรียทำ
หลัง
มาเรียจ่ายค่านมหนึ่งลิตร 17 บาทให้ผู้จัดส่ง
เธอคุยกับผู้จัดส่งเรื่องส่วนลดเมื่อเธอซื้อปริมาณมาก
เวลานี้เธอซื้อลิตรละ 15 บาท
มาเรียเพิ่มสินค้าคงเหลือด้วยการซื้อจำนวนมาก เธอไม่เปลี่ยนราคา เวลาที่ใช้หมุนเวียนสินค้าคงเหลือจึงนานขึ้นและนมบางส่วนบูด
เธอใช้เทคนิคเพิ่มยอดขาย: ถ้าซื้อสองลิตรหรือมากกว่านั้นจะได้ส่วนลด
เวลานี้เธอหมุนเวียนสินค้าคงเหลือในสองวัน ไม่มีนมบูด เธอมีเงินซื้อมากขึ้น และเธอมีรายได้เพิ่ม
-
อ่าน:สินค้าพิเศษบางอย่างใช้เวลานานกว่าจะขายออก แต่ไม่เป็นไร และถ้าเรามีสินค้าที่ขายไม่ออก นั่นหมายความว่าเงินธุรกิจจมอยู่กับสินค้าคงเหลือจนกว่าจะขายออก
-
สนทนา:สนทนาคำถามสองข้อต่อไปนี้กับคู่ปฏิบัติ จดแนวคิดของท่าน
-
ฉันจะหมุนเวียนสินค้าคงเหลือให้เร็วขึ้นได้อย่างไร
-
ฉันจะลดปริมาณสินค้าคงเหลือที่ขายไม่ออกได้อย่างไร
-
ฉันจะลดต้นทุนอย่างไร
-
อ่าน:การหมุนเวียนสินค้าคงเหลือเพิ่มกำไรให้เราอย่างรวดเร็ว เราสามารถทำให้ธุรกิจของเราได้กำไรมากขึ้นโดยลดรายจ่าย
-
ฝึก:อยู่กับคู่ ผลัดกันอ่านวิธีลดรายจ่ายด้านล่าง เขียนวิธีอื่นๆ ที่ท่านสามารถลดรายจ่าย
คงที่
ผันแปร
ใช้สิ่งที่เรามี
เช่า
ต่อรองกับผู้จัดส่ง
ใช้ผู้จัดส่งหลายราย
กลับไปเข้ากลุ่มและแบ่งปันแนวคิดของท่าน
-
อ่าน:เราสามารถนึกถึงวิธีที่เราจะหลีกเลี่ยงรายจ่ายได้เช่นกัน
-
ฝึก:นาโอมิกำลังนึกถึงการใช้ผู้ช่วยสองคน: ซามูเอลกับโจเซฟ
เธอจะจ้างซามูเอลให้ทำงานที่แผงขายผลไม้วันละสี่ชั่วโมงทุกวัน (ต้นทุนคงที่) เธอจะไม่จ้างโจเซฟ แต่จะโทรเรียกเขาให้ไปส่งสินค้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น (ต้นทุนผันแปร)
ไปหาคนอีกสองคนและสนทนาวิธีหลีกเลี่ยงหรือลดต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรของนาโอมิ
-
ฝึก:ตอนนี้ถึงตาท่านแล้ว เขียนต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรของธุรกิจของท่าน อยู่กับคู่ปฏิบัติและสนทนาวิธีลดต้นทุนเหล่านี้
คงที่
ผันแปร