การประชุมใหญ่สามัญ
ดำเนินชีวิตให้สมกับเอกสิทธิ์ของท่าน
การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2024


11:46

ดำเนินชีวิตให้สมกับเอกสิทธิ์ของท่าน

เรียนรู้ว่าศาสนพิธีฐานะปุโรหิตและคําสัญญาในพันธสัญญาจะช่วยให้เดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าหลั่งไหลเข้ามาในชีวิตท่านอย่างไร

เมื่อเร็วๆ นี้ เกรก สามีของดิฉันได้รับการวินิจฉัยว่าต้องรับการผ่าตัดใหญ่และรับเคมีบำบัดหลายเดือน เช่นเดียวกับหลายท่านที่เผชิญกับสถานการณ์คล้ายกัน เราเริ่มสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากสวรรค์และขอเดชานุภาพจากพระผู้เป็นเจ้าทันที วันอาทิตย์หลังการผ่าตัดของเกรก มีการปฏิบัติศีลระลึกที่ห้องพักของเราในโรงพยาบาล

ในครั้งนั้น ดิฉันเป็นคนเดียวที่รับศีลระลึก ขนมปังหนึ่งชิ้น นํ้าหนึ่งถ้วย ที่โบสถ์ ความคิดของดิฉันมักจะมุ่งไปที่วิธีปฏิบัติศีลระลึก—การเตรียม การให้พร และการส่งผ่าน แต่ในบ่ายวันนั้น ดิฉันไตร่ตรองถึงของประทานแห่งเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าที่มีให้ผ่านศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์และคำสัญญาในพันธสัญญาที่ดิฉันทำขณะหยิบขนมปังชิ้นนั้นและน้ำถ้วยนั้น นี่เป็นช่วงเวลาที่ดิฉันต้องการเดชานุภาพจากสวรรค์จริงๆ ท่ามกลางความโศกเศร้าครั้งใหญ่ ความเหนื่อยล้า และความไม่แน่นอน ดิฉันสงสัยเกี่ยวกับของประทานนี้ที่จะช่วยดึงเดชานุภาพจากพระองค์ซึ่งดิฉันต้องการอย่างยิ่งมาใช้ การรับส่วนศีลระลึกจะเพิ่มความเป็นเพื่อนกับพระวิญญาณของพระเจ้า ช่วยให้ดิฉันดึงของประทานแห่งเดชานุภาพจากพระผู้เป็นเจ้ามาใช้ รวมถึงการปฏิบัติของเหล่าเทพ และความเข้มแข็งจากพระผู้ช่วยให้รอดที่ให้พลังความสามารถในการเอาชนะ

ดิฉันไม่คิดว่าจะเคยตระหนักชัดเจนเช่นนี้มาก่อนว่าไม่เพียงแต่ผู้ประกอบศาสนพิธีเท่านั้นที่สำคัญ—แต่เราควรมุ่งความสนใจในสิ่งที่ศาสนพิธีและคำสัญญาในพันธสัญญานี้ปลดล็อกเช่นกัน ศาสนพิธีฐานะปุโรหิตและคำสัญญาในพันธสัญญาช่วยให้พระผู้เป็นเจ้าทรงชําระเราให้บริสุทธิ์และจากนั้นทําการอัศจรรย์ในชีวิตเรา สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ประการแรก เพื่อให้ศาสนพิธีหนึ่งสำแดงเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตเรา ศาสนพิธีนั้นต้องกระทําด้วยสิทธิอํานาจจากพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า วิธีปฏิบัติเป็นสิ่งสําคัญ พระบิดาทรงมอบกุญแจและสิทธิอํานาจให้พระเยซูคริสต์ดูแลการปฏิบัติศาสนพิธีฐานะปุโรหิตของพระองค์ ภายใต้การกํากับดูแลของพระองค์ ภายในระเบียบแห่งฐานะปุโรหิตของพระองค์ บุตรชายของพระผู้เป็นเจ้าได้รับแต่งตั้งเพื่อปฎิบัติหน้าที่ แทน พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า

ประการที่สอง เราไม่เพียงแค่ทําสัญญาในพันธสัญญา—แต่เราต้องรักษาสัญญาเหล่านั้น ในศาสนพิธีพระกิตติคุณหลายพิธี เราทำพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์กับพระผู้เป็นเจ้า; พระองค์ทรงสัญญาว่าจะอวยพรเราเมื่อเรา รักษา พันธสัญญาเหล่านั้น เราตระหนักหรือไม่ว่าการประสานศาสนพิธีฐานะปุโรหิตกับการรักษาคำสัญญาในพันธสัญญานั่นเองที่ช่วยให้เราดึงเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้ามาใช้ได้?

บ่ายวันนั้นดิฉันสงสัยว่าในฐานะธิดาแห่งพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า ดิฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงวิธีเข้าถึงของประทานแห่งเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าผ่านศาสนพิธีฐานะปุโรหิตและรับรู้จริงๆ หรือไม่ว่าเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าทำงานภายในดิฉันอย่างไร

ในปี 2019 ศาสดาพยากรณ์ให้คําเชื้อเชิญแก่สตรีในศาสนจักรโดยสอนเราถึงวิธีดึงเดชานุภาพของพระผู้ช่วยให้รอดเข้ามาในชีวิตเรา ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเชื้อเชิญให้เราศึกษา หลักคําสอนและพันธสัญญา 25 การเปิดเผยที่ประทานแก่เอ็มมา สมิธในฮาร์โมนีย์ รัฐเพนน์ซิลเวเนีย การตอบรับคำเชื้อเชิญนั้นเปลี่ยนชีวิตดิฉัน

เมื่อเดือนที่แล้วดิฉันมีโอกาสที่ไม่คาดคิดในการไปเยี่ยมชมฮาร์โมนีย์ ที่นั่น ฐานะปุโรหิตได้รับการฟื้นฟูแก่โจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรีใต้ต้นเมเปิล ใกล้กับต้นไม้เหล่านั้นคือประตูหน้าบ้านของโจเซฟและเอ็มมา ตรงข้ามเตาผิงในบ้านหลังนั้นมีหน้าต่างอยู่บานหนึ่ง ดิฉันยืนอยู่ที่หน้าต่างบานนั้นและสงสัยว่าเอ็มมาจะคิดอะไรอยู่ขณะมองไปยังต้นไม้เหล่านั้น

ในเดือนกรกฎาคม 1830 เอ็มมาอายุ 26 ปี เธอยังสาว เธอแต่งงานได้สามปีครึ่งแล้ว และสูญเสียลูกชายหนึ่งคน—ลูกคนแรก หลุมศพเล็กๆ ของเขาอยู่ในซอยถัดจากบ้านเธอ ขณะที่ดิฉันยืนอยู่ที่หน้าต่างนั้น ไม่ใช่เรื่องยากที่ดิฉันจะจินตนาการถึงสิ่งที่อยู่ในความคิดเธอ แน่นอนว่าเธอคงกังวลเรื่องการเงิน การข่มเหงที่ทวีขึ้นซึ่งคุกคามความปลอดภัย และเรื่องอนาคตของทั้งคู่ ทว่างานของพระผู้เป็นเจ้าอยู่รอบตัวเธอทุกหนแห่ง เธอสงสัยด้วยหรือไม่ถึงจุดยืนของเธอในแผนนั้น จุดประสงค์ของเธอในอาณาจักรของพระองค์ และศักยภาพของเธอในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้า?

ดิฉันคิดว่าเธอคงสงสัย

เพียงฝั่งตรงข้ามบ้าน ของประทานแห่งสิทธิอํานาจฐานะปุโรหิตและกุญแจของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการฟื้นฟูบนแผ่นดินโลก นี่เป็นช่วงเวลาที่เอ็มมาต้องการเดชานุภาพจากสวรรค์จริงๆ ท่ามกลางความโศกเศร้าครั้งใหญ่ ความเหนื่อยล้า และความไม่แน่นอน ดิฉันนึกภาพเอ็มมาสงสัยเกี่ยวกับของประทานแห่งฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้าที่สามารถปลดล็อกเดชานุภาพจากพระองค์ซึ่งเธอต้องการเป็นอย่างยิ่ง

แต่เอ็มมาไม่เพียงแค่ยืนสงสัยที่หน้าต่าง

ขณะที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟได้รับการสอนเรื่องกุญแจ ตําแหน่ง ศาสนพิธี และวิธีช่วยเหลือในงานรับใช้ฐานะปุโรหิต พระเจ้าได้ประทานการเปิดเผยแก่เอ็มมาผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ การเปิดเผยนี้ประทานแก่เอ็มมาวัย 26 ปีในฮาร์โมนีย์—ไม่ใช่ในฐานะประธานสมาคมสงเคราะห์ในนอวู โดยผ่านการเปิดเผย เอ็มมาจะเรียนรู้เกี่ยวกับการชําระให้บริสุทธิ์จากภายในและการเชื่อมโยงพันธสัญญาที่จะเพิ่มความสามารถให้ศาสนพิธีฐานะปุโรหิตเหล่านั้นมีผลในชีวิตเธอ

ประการแรก พระเจ้าทรงยํ้าเตือนเอ็มมาถึงจุดยืนของเธอในแผนของพระองค์ รวมถึงว่าเธอเป็นใครและของใคร—เธอเป็นธิดาในอาณาจักรของพระองค์ พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้เธอ “เดินในวิถีแห่งคุณธรรม” เส้นทางที่มีศาสนพิธีที่จะปลดล็อกเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า หากเอ็มมายึดมั่นในพันธสัญญา

ประการที่สอง พระเจ้าประทานจุดประสงค์แก่เธอในช่วงโศกเศร้าอาลัย เอ็มมาไม่เพียงมีที่นั่งแถวหน้าในการฟื้นฟู แต่เธอเป็นผู้มีส่วนร่วมสําคัญในงานที่เกิดขึ้น เธอจะได้รับหน้าที่ให้ “อรรถาธิบายพระคัมภีร์, และให้แนะนําศาสนจักร” เธอจะให้เวลาแก่ “การเขียน, และแก่การเรียนรู้ให้มาก” เอ็มมาได้รับบทบาทศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วยเตรียมวิสุทธิชนในการนมัสการ เพลงสวดของพวกเขาแด่พระเจ้าเป็นคําสวดอ้อนวอนและ “ได้รับตอบด้วยพรบนศีรษะพวกเขา”

ประการสุดท้าย พระเจ้าทรงร่างกระบวนการชําระให้บริสุทธิ์จากภายใน ซึ่งเตรียมเอ็มมาให้พร้อมรับความสูงส่ง “และเว้นแต่เจ้าทําการนี้” พระเจ้าทรงอธิบายต่อเธอ “ที่ซึ่งเราอยู่เจ้าจะมาไม่ได้”

หากอ่าน ภาคที่ 25 อย่างละเอียด เราจะพบว่ามีความก้าวหน้าที่สําคัญเกิดขึ้น เอ็มมาเปลี่ยนจากการเป็นธิดาในอาณาจักรมาเป็น “สตรีผู้ที่ทรงเลือกไว้” มาเป็นกษัตรี ศาสนพิธีฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนและเมลคีเซเดคควบคู่กับการรักษาคำสัญญาในพันธสัญญาของเธอจะเพิ่มความเป็นเพื่อนกับพระวิญญาณและเหล่าเทพ ทำให้เธอมีพลังในการนำทางชีวิตด้วยการชี้นำจากสวรรค์ โดยผ่านอํานาจศักดิ์สิทธิ์ พระผู้เป็นเจ้าทรงเยียวยาหัวใจเธอ เพิ่มความสามารถ และเปลี่ยนเธอให้เป็นแบบที่ทรงรู้ว่าเธอเป็นได้ และโดยผ่านศาสนพิธีของฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค “พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า [จะ] แสดงให้ประจักษ์” ในชีวิตเธอ และพระเจ้าจะทรงเปิดม่านเพื่อเธอจะได้รับความเข้าใจจากพระองค์ นี่ คือตัวอย่างของการให้เดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าทํางานภายในตัวเรา

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า:

ทุกสิ่ง ที่เกิดขึ้นใน [ฮาร์โมนีย์] มีนัยสำคัญต่อชีวิต ของท่าน การฟื้นฟูฐานะปุโรหิต ตลอดจนพระดํารัสแนะนําของพระเจ้าต่อเอ็มมา สามารถเป็นแนวทางและเป็นพรให้ท่านแต่ละคน …

“…การเข้าถึงพลังอํานาจของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตท่านเรียกร้องสิ่งเดียวกันกับที่พระเจ้าทรงสั่งให้เอ็มมาและ [เรา] แต่ละคนทํา”

มีสิ่งสําคัญเกิดขึ้นจากทั้งสองด้านของหน้าต่างบานนั้นในฮาร์โมนีย์ ได้แก่ การเปิดเผยที่ประทานแก่สตรีผู้ที่ทรงเลือกไว้—การเปิดเผยที่จะบํารุงขวัญ กําลังใจ และสอนเอ็มมา สมิธ ธิดาของพระผู้เป็นเจ้า

เมื่ออิซาเบลหลานสาวของเราได้รับการตั้งชื่อและให้พร คุณพ่อของเธอให้พรเธอให้มีความเข้าใจเรื่องฐานะปุโรหิต ให้เธอเติบโตต่อไปและเรียนรู้เกี่ยวกับพรที่ฐานะปุโรหิตจะมอบให้ในชีวิต และให้ศรัทธาของเธอในฐานะปุโรหิตเพิ่มมากขึ้นเมื่อเธอเข้าใจมากขึ้น

ไม่บ่อยนักที่เด็กผู้หญิงจะได้รับพรให้เข้าใจฐานะปุโรหิตและเรียนรู้ว่าศาสนพิธีฐานะปุโรหิตและคำสัญญาในพันธสัญญาเหล่านั้นจะช่วยให้เธอเข้าถึงเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร แต่ดิฉันนึกถึงเอ็มมาและคิดในใจว่า ทําไมจะไม่ได้ล่ะ? ธิดาตัวน้อยคนนี้มีศักยภาพที่จะเป็นสตรีผู้ที่ทรงเลือกในอาณาจักรของพระองค์และเป็นกษัตรีในท้ายที่สุด โดยผ่านศาสนพิธีฐานะปุโรหิตและการรักษาคำสัญญาในพันธสัญญา เดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าจะทํางานภายในและผ่านตัวเธอเพื่อช่วยให้เธอเอาชนะทุกสิ่งในชีวิตและกลายเป็นสตรีที่พระผู้เป็นเจ้าทรงรู้ว่าเธอเป็นได้ นี่คือสิ่งที่ดิฉันอยากให้เด็กสาวแต่ละคนในอาณาจักรเข้าใจ

จง “ดำเนินชีวิตให้สมกับเอกสิทธิ์ของท่าน”

จงเรียนรู้ว่าศาสนพิธีฐานะปุโรหิตและคําสัญญาในพันธสัญญาจะช่วยให้เดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าหลั่งไหลเข้ามาในชีวิตท่านอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไร โดยทํางานภายในและผ่านตัวท่าน เพิ่มพลังและเตรียมท่านให้บรรลุจุดประสงค์และศักยภาพสูงสุดของท่าน

จงศึกษาและไตร่ตรองศาสนพิธีฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนและเมลคีเซเดคอย่างถี่ถ้วน รวมถึงคําสัญญาในพันธสัญญาที่เราทํา และเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าที่เราเข้าถึงผ่านศาสนพิธีเหล่านั้น

พึงจําไว้ว่าไม่เพียงแต่ผู้ประกอบศาสนพิธีเท่านั้นที่สำคัญ—แต่ท่านควรมุ่งความสนใจในสิ่งที่ศาสนพิธีและคําสัญญาในพันธสัญญานี้ปลดล็อกเช่นกัน

การรับส่วนขนมปังและนํ้าเป็นเครื่องเตือนใจทุกสัปดาห์ถึงเดชานุภาพของพระองค์ที่ทํางานภายในตัวท่านเพื่อช่วยให้ท่านเอาชนะ การสวมใส่การ์เม้นท์ของฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องเตือนใจทุกวันถึงของประทานแห่งเดชานุภาพของพระองค์ที่ทํางานภายในตัวท่านเพื่อช่วยให้ท่านเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า

เราทุกคนเข้าถึงของประทานแห่งเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าได้

ทุกครั้งที่เรารับส่วนศีลระลึก

ทุกครั้งที่เราข้ามธรณีประตูพระวิหาร

นี่คือจุดเด่นของวันสะบาโตของดิฉัน และคือเหตุผลที่ดิฉันหวงแหนใบรับรองพระวิหาร

“ในศาสนพิธีของฐานะปุโรหิตนี้, พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าจึงแสดงให้ประจักษ์”

ดิฉันเป็นพยานถึงของประทานนี้ ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 107:20

  2. เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันสอนว่า: “ในศาสนพิธีทั้งหมดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสนพิธีพระวิหาร เราได้รับการประสาทด้วยอำนาจจากเบื้องบน ‘พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า’ นี้จะเข้ามาในบุคคลนั้นและโดยอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ … ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงรักษาสัญญาเมื่อท่านให้เกียรติพันธสัญญาที่ทํากับพระองค์ … พระองค์จะทรงทําให้ท่านเปี่ยมด้วยอํานาจของพระผู้เป็นเจ้าโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์” (“พลังแห่งพันธสัญญา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2009, 22, 23)

  3. ดู Dallin H. Oaks, “The Aaronic Priesthood and the Sacrament,” Liahona, Jan. 1999, 45.

  4. “ชายและหญิงทุกคนที่มีส่วนร่วมในศาสนพิธีฐานะปุโรหิตและทําและรักษาพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าจะเข้าถึงเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าได้โดยตรง” (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “พันธสัญญาอันเป็นนิจ,” เลียโฮนา, ต.ค. 2022, 10)

  5. ดู โยชูวา 3:5. เอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์อธิบายว่า: “โดยผ่านพันธสัญญาเหล่านี้ เราเข้าถึงเดชานุภาพ [ของพระเจ้า] ได้มากขึ้น พูดให้ชัดคือ พันธสัญญาบัพติศมาและพันธสัญญาพระวิหารไม่ใช่แหล่งเดชานุภาพนั้นในตัวมันเองและด้วยตัวมันเอง แหล่งเดชานุภาพนั้นคือพระเจ้าพระเยซูคริสต์และพระบิดาบนสวรรค์ของเรา การทําและรักษาพันธสัญญาสร้างท่อส่งเดชานุภาพของพระองค์ในชีวิตเรา” (“วัฏจักรอันดีงามและทรงอานุภาพแห่งหลักคำสอนของพระคริสต์เลียโฮนา, พ.ค. 2024, 82.)

  6. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:1–3; งานแปลของโจเซฟ สมิธ, ฮีบรู 7:3 (ในภาคผนวกพระคัมภีร์ไบเบิล); แอลมา 13:2, 16. ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์สอน: “เรารู้จากพระคัมภีร์เช่นกันว่าคนที่ทําหน้าที่ในฐานะปุโรหิตกระทําการแทนพระเจ้า (ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 1:38; 36:2) ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะแนะนําว่าผู้สอน ปุโรหิต และมัคนายกควรทําหน้าที่รับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์ของตนในการกระทําแทนพระเจ้าในการเตรียม ปฏิบัติศาสนกิจ และส่งผ่านศีลระลึกอย่างไร” (“The Aaronic Priesthood and the Sacrament,” Liahona, Jan. 1999, 45)

  7. ดู คู่มือทั่วไป: การรับใช้ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย, 3.5.1–2, คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ.

  8. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 107:18–20; ฟีลิปปี 1:6

  9. ดู รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ทรัพย์สมบัติทางวิญญาณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2019, 77.

  10. ดู “Joseph and Emma Smith’s Home” (history.ChurchofJesusChrist.org) เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบ้านจําลองของครอบครัวสมิธที่สถานที่ประวัติศาสตร์ของศาสนจักรในฮาร์โมนีย์ รัฐเพนน์ซิลเวเนีย

  11. สิทธิอำนาจและกุญแจของฐานะปุโรหิตทำให้เดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าหลั่งไหลเข้ามาสู่ชีวิตผู้ที่ได้รับศาสนพิธีฐานะปุโรหิต ทำและรักษาพันธสัญญาที่เกี่ยวข้อง (ดู คู่มือทั่วไป, 3.5, คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ)

  12. ดู โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:71, หมายเหตุ

  13. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 25

  14. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:1

  15. หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:2

  16. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:13 “คําว่า พันธสัญญา มีต้นกําเนิดจากภาษาละติน con venire และมีความหมายว่า ‘การมารวมกัน’ ในบริบทของฐานะปุโรหิต ‘พันธสัญญา’ คือการมารวมกันหรือข้อตกลงระหว่างพระผู้เป็นเจ้ากับมนุษย์ สันนิษฐานว่าพระผู้เป็นเจ้าและมนุษย์มารวมกันเพื่อทําสัญญา ตกลงเรื่องคําสัญญา ข้อกําหนด เอกสิทธิ์ และความรับผิดชอบ …

    “พันธสัญญาที่ทําในลักษณะนี้จะเปลี่ยนไม่ได้และไม่เปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตวิญญาณ สร้างรากฐานที่มั่นคงและแน่นอนสําหรับความคาดหวังในอนาคต” (Dale G. Renlund and Ruth Lybbert Renlund, The Melchizedek Priesthood: Understanding the Doctrine, Living the Principles [2018], 60)

  17. หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:7

  18. หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:8

  19. หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:12

  20. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:15

  21. หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:15 ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์สอนว่า: “ศาสนพิธีบัพติศมาและพันธสัญญาที่เกี่ยวข้องเป็นข้อกําหนดเพื่อเข้าสู่อาณาจักรซีเลสเชียล ศาสนพิธีและพันธสัญญาพระวิหารที่เกี่ยวข้องเป็นข้อกําหนดสําหรับความสูงส่งในอาณาจักรซีเลสเชียล ซึ่งคือชีวิตนิรันดร์ ‘ของประทานยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาของประทานทั้งหมดจากพระผู้เป็นเจ้า’ [หลักคําสอนและพันธสัญญา 14:7]” (“พันธสัญญาและหน้าที่รับผิดชอบ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2024, 96)

  22. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:1

  23. หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:3

  24. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 25:15

  25. ดู Dallin H. Oaks, “The Aaronic Priesthood and the Sacrament,” Liahona, Jan. 1999, 44–45. ประธานโอ๊คส์สอนว่า:

    “ศาสนพิธีเหล่านี้ของฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนสำคัญยิ่งต่อการปฏิบัติของเหล่าเทพในลักษณะที่สัมพันธ์กันเหนียวแน่น …

    “… ข่าวสารของเหล่าเทพส่งมาโดยเสียงหรือไม่ก็โดยความคิดหรือความรู้สึกที่สื่อสารกับจิตใจ” (“The Aaronic Priesthood and the Sacrament,” Liahona, Jan. 1999, 44, 45)

    นอกจากนี้ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธยังให้คำสัญญานี้เมื่อพูดกับพี่น้องสตรีสมาคมสงเคราะห์ว่า: “หากท่านจะดำเนินชีวิตให้สมกับเอกสิทธิ์ของท่าน คงจะห้ามเหล่าเทพเป็นสหายของท่านไม่ได้” (คำสอนของประธานศาสนจักร: โจเซฟ สมิธ [2011])

  26. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:19–20

  27. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 107:18–19

  28. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ทรัพย์สมบัติทางวิญญาณ,” 77. “วิลลาร์ด ริชาร์ดส์รายงานดังนี้: ‘ประธานโจเซฟ สมิธอ่านการเปิดเผยที่ [ประทาน] แก่เอ็มมา สมิธ … และกล่าวว่า … ไม่ใช่เธอคนเดียว แต่ให้คนอื่นๆ ได้รับพรแบบเดียวกัน’” (คําสอน: โจเซฟ สมิธ [2011], 453–454). ดู Nauvoo Relief Society Minute Book, March 17, 1842, in The First Fifty Years of Relief Society: Key Documents in Latter-day Saint Women’s History (2016), 1.2.1, churchhistorianspress.org ด้วย.

  29. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 24, หัวบทภาค ซึ่งระบุว่า: “การเปิดเผยสามครั้งดังต่อไปนี้ประทานให้ในเวลานี้เพื่อบํารุงขวัญ, กําลังใจ, และสอนพวกเขา”

  30. คำสอน: โจเซฟ สมิธ, 454.

  31. ดู รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ทรัพย์สมบัติทางวิญญาณ,” 77. “ข้าพเจ้าขอให้ท่านศึกษาร่วมกับการสวดอ้อนวอนถึงความจริง ทั้งปวง ที่ท่านจะค้นพบได้เกี่ยวกับอำนาจฐานะปุโรหิต ท่านอาจเริ่มต้นด้วยหลักคําสอนและพันธสัญญาภาค 84 และ 107 ภาคเหล่านั้นจะนำไปสู่พระคัมภีร์ข้ออื่นๆ พระคัมภีร์และคำสอนจากศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผยในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยความจริงเหล่านี้ เมื่อความเข้าใจของท่านเพิ่มขึ้น และเมื่อท่านใช้ศรัทธาในพระเจ้าและอํานาจฐานะปุโรหิตของพระองค์ ความสามารถที่ท่านจะใช้ประโยชน์จากทรัพย์สมบัติทางวิญญาณซึ่งพระเจ้าทรงเตรียมไว้ให้นี้จะเพิ่มพูนขึ้น” (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ทรัพย์สมบัติทางวิญญาณ,” 79)

  32. ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 109:22

  33. หลักคําสอนและพันธสัญญา 84:20