การประชุมใหญ่สามัญ
บริสุทธิ์แด่พระเจ้าในชีวิตประจำวัน
การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2024


บริสุทธิ์แด่พระเจ้าในชีวิตประจำวัน

บริสุทธิ์แด่พระเจ้าทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เราเข้าใกล้และมีความสุขมากขึ้นกับพระเจ้าและกันและกัน”

งานรวมญาติของตระกูลกองครั้งล่าสุดมีการแสดงพรสวรรค์สนุกๆ จบด้วยการประกวดมุกคุณพ่อ

แต่การประกวดครั้งนี้ไม่ธรรมดา ทีมหนึ่งมีคุณปู่ (ข้าพเจ้าเอง) และหลานสองคนวัย 12 ปี และ 11 ปี อีกทีมคือโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งป้อนคำสั่งให้เล่ามุกคุณพ่อในแบบของเกอร์ริท ดับเบิลยู. กอง กลายเป็นคุณปู่เกอร์ริท กองสู้กับ AI เกอร์ริท กอง

หลานๆ กับข้าพเจ้าเริ่มก่อน

ไดโนเสาร์ตัวเล็กมีชื่อว่าอะไร? ไทรันโนซอรัสเล็กซ์

AI เกอร์ริท กอง ได้รับคำสั่งว่า—คิดให้เหมือนเกอร์ริท ดับเบิลยู. กอง พูดให้เหมือนเขา

AI เกอร์ริท กอง—“นี่คือมุกคุณพ่อในแบบที่เหมือนกับเกอร์ริท ดับเบิลยู. กองพูด ด้วยสไตล์ที่อบอุ่น ช่างคิด และยกระดับจิตใจ: ทำไมต้นไม้ที่ถ่อมตัวถึงทำให้คนยิ้มได้? เพราะมันหยั่งรากในความรักและแผ่ขยายออกไปด้วยกิ่งก้านแห่งความเมตตา เช่นเดียวกับต้นไม้นั้น เราจะพบความเข้มแข็งได้ในรากของเรา และปีติในความเมตตาที่แผ่ให้ผู้อื่น”

พวกท่านคิดอย่างไร? นั่นแหละที่เราเรียกว่ามุกคุณพ่อ

ทุกสิ่งรอบตัวเราคือโอกาสให้หัวเราะ เบิกบาน และมองด้วยตาที่สำนึกคุณ พระกิตติคุณของเราคือพระกิตติคุณแห่งปีติและความบริสุทธิ์ในชีวิตประจำวัน ความบริสุทธิ์แยกสิ่งต่างๆ ออกจากกันเพื่อจุดประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ แต่ความบริสุทธิ์ยังเชื้อเชิญให้เราซึมซาบความศักดิ์สิทธิ์ไว้ในชีวิตประจำวันด้วย—คือการชื่นชมยินดีในอาหารประจำวันท่ามกลางขวากหนามบนโลกนี้ ในการเดินกับพระเจ้า เราต้องบริสุทธิ์ เพราะพระองค์ทรงบริสุทธิ์ และเพื่อช่วยให้เราบริสุทธิ์ พระเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เราเดินกับพระองค์

เราแต่ละคนมีเรื่องราว เมื่อซิสเตอร์กองกับข้าพเจ้าพบท่าน—สมาชิกศาสนจักรและมิตรสหายในหลากหลายสถานที่และสภาวการณ์—เรื่องราวความบริสุทธิ์แด่พระเจ้าในชีวิตประจำวันของท่านสร้างแรงบันดาลใจให้เรา ท่านดำเนินชีวิตตามเจ็ด “ค”: วามสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้า วามเป็นชุมชนและวามเมตตาสงสารกัน คำมั่นสัญญาและการเป็นนในพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า ครอบครัวและเพื่อน—โดยมีศูนย์กลางวามสนใจอยู่ที่พระเยซูริสต์

หลักฐานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอกย้ำข้อเท็จจริงอันโดดเด่นนี้: โดยเฉลี่ยแล้วผู้นับถือศาสนามีความสุข มีสุขภาพดี และรู้สึกเติมเต็มมากกว่าผู้ที่ไม่มีข้อผูกมัดหรือการเชื่อมโยงทางวิญญาณ ความสุขและความพอใจในชีวิต สุขภาพจิตและร่างกาย ความหมายและจุดประสงค์ อุปนิสัยและคุณความดี ความสัมพันธ์ทางสังคมที่ใกล้ชิด แม้แต่ความมั่นคงทางการเงินและวัตถุ—ในแต่ละเรื่องที่กล่าวมานี้ คนที่ถือปฏิบัติศาสนามีความรุ่งเรือง

คนเหล่านั้นมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีกว่า และมีความพึงพอใจในชีวิตมากกว่าในทุกช่วงอายุและทุกกลุ่มประชากร

สิ่งที่นักวิจัยเรียกว่า “ความมั่นคงทางโครงสร้างทางศาสนา” ให้ความกระจ่าง จุดประสงค์ และแรงบันดาลใจท่ามกลางความพลิกผันของชีวิต ครัวเรือนแห่งศรัทธาและชุมชนแห่งวิสุทธิชนต่อสู้กับความโดดเดี่ยวและฝูงชนที่อ้างว้าง บริสุทธิ์แด่พระเจ้าปฏิเสธการดูหมิ่น ปฏิเสธความฉลาดแกมโกงบนความเสียหายของผู้อื่น ปฏิเสธอัลกอริทึมที่สร้างรายได้จากความโกรธและการแบ่งขั้ว บริสุทธิ์แด่พระเจ้าตอบรับความศักดิ์สิทธิ์และความคารวะ ตอบรับการเป็นคนเสรีที่สุด มีความสุขที่สุด เป็นตัวตนที่แท้จริงที่สุด เป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เมื่อเราติดตามพระองค์ด้วยศรัทธา

บริสุทธิ์แด่พระเจ้าในชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร?

บริสุทธิ์แด่พระเจ้าในชีวิตประจำวันเป็นเหมือนหนุ่มสาวที่ซื่อสัตย์สองคน แต่งงานกันมาได้หนึ่งปี ทำพันธสัญญาพระกิตติคุณด้วยกัน เสียสละด้วยกัน และรับใช้ด้วยกันมาด้วยความจริงใจและความอ่อนแอในชีวิตที่กำลังเผยออกมาเรื่อยๆ

ฝ่ายหญิงเล่าว่า “ตอนมัธยมปลาย ฉันอยู่ในสภาพมืดมน รู้สึกเหมือนไม่มีพระผู้เป็นเจ้าเคียงข้าง คืนหนึ่ง มีข้อความจากเพื่อนส่งมาว่า ‘นี่ เธอเคยอ่าน แอลมา 36 ไหม?’

“ขณะเริ่มอ่าน” เธอกล่าว “ฉันท่วมท้นไปด้วยสันติสุขและความรัก รู้สึกเหมือนมีคนมากอดฉันไว้แน่น เมื่ออ่าน แอลมา 36:12 ฉันรู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงเห็นฉัน และทรงรู้แน่ชัดว่าฉันกำลังรู้สึกอะไร”

เธอเล่าต่อ “ก่อนแต่งงาน ฉันบอกคู่หมั้นตรงๆ ว่าฉันไม่มีประจักษ์พยานยิ่งใหญ่เรื่องส่วนสิบ ทำไมพระผู้เป็นเจ้าต้องให้เราบริจาคเงิน ในเมื่อคนอื่นมีเงินมากมายให้บริจาค? คู่หมั้นช่วยอธิบายว่าส่วนสิบไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นการทำตามพระบัญญัติที่ทรงขอให้เราทำ เขาท้าทายให้ฉันเริ่มจ่ายส่วนสิบ

“ฉันเห็นประจักษ์พยานตนเองเติบโตจริงๆ” เธอกล่าว “บางครั้งเงินแทบไม่พอใช้ แต่เราเห็นพรมากมาย และอยู่ๆ เงินเดือนก็พอใช้จ่าย”

และ “ในชั้นเรียนพยาบาล” เธอกล่าว “ฉันเป็นสมาชิกศาสนจักรเพียงคนเดียวและเป็นคนเดียวที่แต่งงานแล้ว หลายครั้งฉันออกจากชั้นเรียนด้วยความหงุดหงิดหรือร้องไห้เพราะรู้สึกว่าถูกคนทั้งห้องรุมจับจ้องและแสดงความเห็นเชิงลบเกี่ยวกับความเชื่อของฉัน ทั้งเรื่องการสวมการ์เม้นท์ หรือการที่ฉันแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย”

แต่เธอเล่าต่อว่า “เทอมที่ผ่านมา ฉันเรียนรู้วิธีประกาศความเชื่อของตัวเองและเป็นแบบอย่างที่ดีในพระกิตติคุณได้ดีขึ้นกว่าเดิม ความรู้และประจักษ์พยานของฉันเติบโตเพราะถูกทดสอบความสามารถที่จะยืนอย่างโดดเดี่ยวและมั่นคงในสิ่งที่เชื่อ”

สามีหนุ่มเสริมว่า “ก่อนรับใช้งานเผยแผ่ ผมได้รับข้อเสนอให้เล่นเบสบอลของวิทยาลัย เป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่ผมไม่รับข้อเสนอเหล่านั้นและไปรับใช้พระเจ้า ผมจะไม่แลกสองปีนั้นกับอะไรทั้งสิ้น

“เมื่อกลับมาบ้าน” เขากล่าว “ผมคิดว่าจะปรับตัวได้ยาก แต่กลับพบว่าตนเองแข็งแกร่งขึ้น ว่องไวขึ้น และสุขภาพดีขึ้น ผมขว้างได้แรงกว่าเมื่อก่อน ผมได้รับข้อเสนอให้ลงเล่นมากกว่าเมื่อก่อน รวมถึงมหาวิทยาลัยในฝันของผมด้วย และที่สำคัญที่สุดคือ” เขากล่าว “ผมพึ่งพาพระเจ้ามากกว่าที่เคย”

เขาสรุปว่า “ตอนเป็นผู้สอนศาสนา ผมสอนว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงสัญญาถึงพลังในคำสวดอ้อนวอนของเรา แต่บางครั้งผมเองก็ลืมเรื่องนั้น”

คลังสะสมพรแห่งความบริสุทธิ์แด่พระเจ้าของเรานั้นอุดมสมบูรณ์และเต็มเปี่ยม การเงิน จังหวะเวลา และสภาวการณ์อื่นๆ บ่อยครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อผู้สอนศาสนาทุกวัยและทุกภูมิหลังอุทิศถวายความบริสุทธิ์แด่พระเจ้า ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีในเวลาและวิธีของพระเจ้า

ผู้สอนศาสนาอาวุโสคนหนึ่งเล่าจากมุมมองคนวัย 48 ปีว่า “พ่ออยากให้ผมเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ไปเป็นผู้สอนศาสนา ไม่นานหลังจากนั้น ท่านหัวใจวายและเสียชีวิตด้วยวัย 47 ปี ผมรู้สึกผิด ผมจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพ่อได้อย่างไร?

“ต่อมา” เขาเล่าต่อ “หลังจากที่ผมตัดสินใจรับใช้งานเผยแผ่ ผมฝันเห็นพ่อ ท่านสุขสงบและพึงพอใจ ท่านมีความสุขที่ผมจะรับใช้”

ผู้สอนศาสนาอาวุโสคนนี้เล่าต่อว่า “ดังที่คำสอนใน หลักคำสอนและพันธสัญญา ภาค 138 ผมเชื่อว่าพ่อจะรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาได้ในโลกวิญญาณ ผมนึกภาพพ่อกำลังช่วยปู่ทวดของเราที่ออกจากเยอรมนีเมื่ออายุ 17 ปีและหายไปจากครอบครัวให้ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง”

ภรรยาเขาเสริมว่า “ในบรรดาพี่น้องห้าคนในครอบครัวสามี สี่คนที่ไปรับใช้งานเผยแผ่เป็นคนที่มีใบปริญญา”

บริสุทธิ์แด่พระเจ้าในชีวิตประจำวันเป็นเหมือนอดีตผู้สอนศาสนาหนุ่มผู้เรียนรู้ที่จะให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัยในชีวิต ก่อนหน้านี้ เมื่อถูกขอให้เป็นผู้ให้พรคนที่ป่วยหนัก ผู้สอนศาสนาคนนี้กล่าวว่า “ผมมีศรัทธา ผมจะให้พรให้เขาหายดี” อดีตผู้สอนศาสนากล่าว “ทว่าผมเรียนรู้ในขณะนั้นที่จะไม่สวดอ้อนวอนขอสิ่งที่ผมต้องการ แต่ขอสิ่งที่พระเจ้าทรงรู้ว่าบุคคลนี้จำเป็นต้องได้รับ ผมให้พรบราเดอร์คนนี้ที่จะมีสันติสุขและการปลอบโยน เขาเสียชีวิตไปอย่างสงบในเวลาต่อมา”

บริสุทธิ์แด่พระเจ้าในชีวิตประจำวันรู้สึกเหมือนประกายไฟที่ข้ามผ่านม่านมาเพื่อเชื่อมต่อ ปลอบโยน และเสริมพลัง ผู้บริหารมหาวิทยาลัยใหญ่แห่งหนึ่งบอกว่า เขารู้สึกว่าหลายคนที่เขารู้จักเพียงชื่อเสียงเรียงนามกำลังสวดอ้อนวอนให้เขา บุคคลเหล่านั้นเคยอุทิศชีวิตให้มหาวิทยาลัยและยังคงห่วงใยเกี่ยวกับพันธกิจและนักเรียนของที่นั่น

ซิสเตอร์คนหนึ่งพยายามอย่างดีที่สุดในแต่ละวันหลังจากสามีไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอและลูกๆ ข้าพเจ้าชื่นชมเธอและคนอื่นๆ เช่นเธออย่างยิ่ง วันหนึ่งขณะกำลังพับผ้า มืออยู่บนกองชุดการ์เม้นท์ เธอถอนหายใจกับตนเองว่า “เพื่ออะไร?” เธอสัมผัสถึงสุรเสียงอ่อนโยนยืนยันกับเธอว่า “พันธสัญญาของเจ้าอยู่กับเรา”

เป็นเวลา 50 ปี ซิสเตอร์คนหนึ่งถวิลหาความสัมพันธ์กับพ่อ เธอบอกว่า “ช่วงที่เติบโตมา มีบรรดาพี่ชายกับคุณพ่อ แล้วก็มีฉัน—ลูกสาวคนเดียว สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือเป็นคนที่ ‘ดีพอ’ สำหรับคุณพ่อ

“แล้วคุณแม่ก็มาเสียชีวิต! ท่านเป็นคนเดียวที่เป็นคนประสานระหว่างคุณพ่อกับฉัน

“วันหนึ่ง” ซิสเตอร์คนนี้กล่าว “ฉันได้ยินเสียงบอกว่า ‘ชวนคุณพ่อไปพระวิหารด้วยกันสิ’ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการทำกิจกรรมด้วยกันเดือนละสองครั้งที่พระนิเวศน์ของพระเจ้า ฉันบอกคุณพ่อว่าฉันรักท่าน ท่านบอกว่าท่านก็รักฉันเช่นกัน

“การใช้เวลาในพระนิเวศน์ของพระเจ้าเยียวยาเรา คุณแม่ช่วยเราไม่ได้ตอนอยู่บนโลก ท่านต้องอยู่อีกด้านของม่านเพื่อช่วยซ่อมแซมสิ่งที่แตกหัก พระวิหารทำให้การเดินทางของเราสู่สภาพสมบูรณ์ในฐานะครอบครัวนิรันดร์สำเร็จลงได้”

ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า “การอุทิศพระวิหารเป็นประสบการณ์ทางวิญญาณที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมและลูกสาวคนเดียวของผม ตอนนี้เราเข้าพระวิหารด้วยกันและรู้สึกว่าความรักของเรามั่นคงขึ้น”

บริสุทธิ์แด่พระเจ้าในชีวิตประจำวันรวมถึงช่วงเวลาอันอ่อนไหวเมื่อคนรักจากไป เมื่อต้นปีนี้ คุณแม่ที่รักของข้าพเจ้า จีน กอง จากไปสู่ชีวิตถัดไปอย่างสงบไม่กี่วันก่อนวันเกิดปีที่ 98 ของท่าน

ถ้าถามคุณแม่ว่า “อยากได้ไอศกรีมร็อกกี้โรด ไวท์ช็อกโกแลตขิง หรือสตรอว์เบอร์รี?” คุณแม่จะตอบว่า “ขอลองชิมทุกรสได้ไหม?” ใครจะกล้าปฏิเสธคุณแม่ตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อท่านชอบทุกรสชาติของชีวิต?

ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยถามคุณแม่ว่า การตัดสินใจอะไรที่มีส่งผลต่อชีวิตท่านมากที่สุด

ท่านบอกว่า “การรับบัพติศมาเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายและย้ายจากฮาวายมาแผ่นดินใหญ่ แล้วได้เจอพ่อของลูก”

ท่านรับบัพติศมาตอนอายุ 15 ปี เป็นสมาชิกคนเดียวในครอบครัวใหญ่ที่เข้าร่วมศาสนจักร คุณแม่มีศรัทธาในพันธสัญญาและวางใจในพระเจ้า ซึ่งเป็นพรให้ชีวิตท่านและครอบครัวเราทุกรุ่น ข้าพเจ้าคิดถึงคุณแม่ เหมือนที่ทุกท่านคิดถึงคนในครอบครัว แต่ข้าพเจ้ารู้ว่าคุณแม่ไม่ได้หายไปไหน ท่านเพียงไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนนี้ ข้าพเจ้ายกย่องคุณแม่และทุกคนที่จากไปขณะเป็นแบบอย่างที่องอาจของความบริสุทธิ์แด่พระเจ้าในทุกๆ วัน

แน่นอน บริสุทธิ์แด่พระเจ้าในชีวิตประจำวันรวมถึงการมาหาพระเจ้าในพระนิเวศน์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์บ่อยขึ้น นี่เป็นความจริง ไม่ว่าเราจะเป็นสมาชิกหรือเพื่อนของศาสนจักร

เพื่อนสามคนมางานโอเพ่นเฮ้าส์พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย

“นี่เป็นสถานที่เยียวยาที่สุดยอดมาก” คนหนึ่งบอก

ในโถงบัพติศมา อีกคนบอกว่า “เมื่ออยู่ที่นี่ ผมอยากรับการชำระให้สะอาดและไม่ทำบาปอีกเลย”

คนที่สามบอกว่า “คุณรู้สึกถึงพลังทางวิญญาณไหม?”

ด้วยคำศักดิ์สิทธิ์หกคำ พระวิหารของเราเชื้อเชิญและประกาศว่า:

“[บริสุทธิ์] ศักดิ์สิทธิ์​แด่​พระ‍เจ้า”

“พระนิเวศน์ของพระเจ้า”

บริสุทธิ์แด่พระเจ้าทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เราเข้าใกล้และมีความสุขมากขึ้นกับพระเจ้าและกันและกัน และเตรียมเราให้พร้อมอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าพระบิดา พระเยซูคริสต์ และคนที่เรารัก

เช่นเดียวกับเพื่อนข้าพเจ้า ท่านอาจสงสัยว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงรักท่านหรือไม่ คำตอบคือ ใช่! อย่างกึกก้องชัดเจน เราสัมผัสได้ถึงความรักของพระองค์เมื่อเราทำให้ความบริสุทธิ์แด่พระเจ้าเป็นของเราในทุกๆ วัน มีความสุขและตลอดไป ขอให้เราทำเช่นนั้น ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนเพื่อสิ่งนี้ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. จากสมัยพันธสัญญาเดิม เราเรียนรู้ว่า “จงชำระตัวให้บริสุทธิ์เพื่อเจ้าจะบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์” (เลวีนิติ 11:44), เราต้องเดินในความบริสุทธิ์ต่อพระพักตร์พระเจ้า (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:69), ยืนในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 45:32), ถือวันสะบาโตเป็นวันบริสุทธิ์ (ดู อพยพ 20:8), สวมการ์เม้นท์บริสุทธิ์ (ดู อพยพ 29:29), ใช้น้ำมันเจิมอันศักดิ์สิทธิ์ (ดู อพยพ 30:25), ได้รับพรโดยศาสดาพยากรณ์ผู้บริสุทธิ์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:46), และพึ่งพาพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:11), กฎศักดิ์สิทธิ์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:20), และเทพผู้บริสุทธิ์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:6) บริสุทธิ์แด่พระเจ้ามีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นพรแก่ทุกด้านในชีวิตประจำวันของเรา

  2. ดู โมเสส 6:34

  3. ดู “Religion and Spirituality: Tools for Better Wellbeing?,” Gallup Blog, Oct. 10, 2023, news.gallup.com. “ในทั่วโลก คนที่มีการผูกมัดตนทางวิญญาณหรือทางศาสนามากกว่า จะมีความผาสุกมากกว่าในหลายๆ ด้าน”—ทั้งด้านอารมณ์เชิงบวก การมีจุดประสงค์ การมีส่วนร่วมในชุมชน และความสัมพันธ์ในสังคม (Faith and Wellness: The Worldwide Connection between Spirituality and Wellbeing [2023], 4, faithandmedia.com/research/gallup)

  4. ประสบการณ์แต่ละอย่างที่ข้าพเจ้าแบ่งปัน—ด้วยความชื่นชมและความซาบซึ้งใจ—เป็นคำพูดของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ

  5. ปัจจุบันในศาสนจักร หนุ่มสาวอายุ 18–35 ปี (รวมทั้งหนุ่มสาวโสดและหนุ่มสาวที่แต่งงานแล้ว) และผู้ใหญ่โสด (อายุ 36–45 ปี) มีจำนวนหนึ่งในสาม (32.5 เปอร์เซ็นต์) ของสมาชิกศาสนจักรทั้งหมด จากสมาชิกศาสนจักร 5.623 ล้านคน หนุ่มสาวอายุ 18–35 ปีมีจำนวนทั้งสิ้น 3.625 ล้านคน (แต่งงานแล้ว 694,000 คน) และผู้ใหญ่โสดอายุ 36–45 ปีมีจำนวนทั้งสิ้น 1.998 ล้านคน หนุ่มสาวโสดของเราโดดเด่น แต่ละคนมีค่า แต่ละคนมีเรื่องราวส่วนตัวของศรัทธา การแสวงหา การปรับตัว และการเห็นอกเห็นใจ ตัวอย่างที่เล่ามาทั้งหมดเป็นตัวแทนของเรื่องราวและประสบการณ์อันน่าทึ่งที่คนหนุ่มสาวแบ่งปันเมื่อข้าพเจ้าพบในการประชุมและสภาวการณ์ต่างๆ ทั่วศาสนจักร

  6. ปัจจุบันมีผู้สอนศาสนาประมาณ 77,500 คนรับใช้ในคณะเผยแผ่ 450 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงผู้สอนศาสนาหนุ่มสาว ผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์หนุ่มสาว และคู่ผู้สอนศาสนาอาวุโส แต่ไม่รวมผู้สอนศาสนาบำเพ็ญประโยชน์อาวุโสและอาสาสมัครระยะยาวอีก 27,800 คน เรื่องราวผู้สอนศาสนาแต่ละคน ตั้งแต่การเตรียมตัวไปจนถึงการรับใช้และจบกลับมา เป็นปัจเจกและเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์แด่พระเจ้าในประสบการณ์ส่วนตัว

    ประสบการณ์มากมายจากงานเผยแผ่สะท้อนถึงแบบแผนทางวิญญาณ นี่รวมถึงประจักษ์พยานของบุคคลในการเชื้อเชิญและช่วยให้ผู้อื่นมาหาพระเยซูคริสต์อย่างไม่เห็นแก่ตนเอง และของผู้สอนศาสนาที่กลายเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์และเป็นผู้สอนศาสนาตามแบบฉบับ สั่งสอนกิตติคุณของเรา ผู้สอนศาสนาที่ใช้ สั่งสอนกิตติคุณของเรา เปลี่ยนแปลง หรือแม้เปลี่ยนสภาพ โดยประสบการณ์แห่งประจักษ์พยานที่ได้รับ พวกเขาเรียนรู้ที่จะรักคน สถานที่ ภาษา และวัฒนธรรม พวกเขาทำให้คำพยากรณ์เกิดสัมฤทธิผลโดยนำข่าวประเสริฐแห่งความสมบูรณ์ของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ไปสู่ประชาชาติ ตระกูล และผู้คน พวกเขาค้นพบสิ่งดีๆ ในตัวคู่และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับคู่ทุกคน พวกเขาทำงานกับสมาชิก ผู้นำ และเพื่อนในหลายสภาวการณ์และภูมิหลัง และอื่นๆ อีกมากมาย

    ผู้สอนศาสนาตามแบบฉบับของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา บำรุงเลี้ยงศรัทธาและความมั่นใจ พวกเขาสร้างความเป็นคู่ที่ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเรียนรู้ว่าการเชื่อฟังนำมาซึ่งพรและปาฏิหาริย์ ด้วยวิธีส่วนตัวอื่นๆ อีกหลายวิธี พวกเขาเป็นและรู้โดยพันธสัญญาจริงๆ ว่าตนเอง: “เป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์, พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า” (3 นีไฟ 5:13)

  7. ซิสเตอร์และบราเดอร์บางคนที่เป็นสมาชิกศาสนจักรผู้ซื่อสัตย์และกล้าหาญที่สุดของเราพบว่าตนเองกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดและจะไม่มีวันเลือกให้เกิด วิสุทธิชนที่แท้จริงเหล่านี้ดำเนินชีวิตต่อไปวันแล้ววันเล่า โดยมักจะรอคอยพระเจ้า พระเจ้าทรงตระหนักถึงแต่ละคน ดังที่ตัวอย่างนี้เล่าไว้ด้วยความระมัดระวัง ทรงปรารถนาจะให้กำลังใจและทำให้เราแต่ละคนเข้มแข็งในเวลาและวิธีของพระองค์

  8. มีความใฝ่หาอย่างยิ่งในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก ข้าพเจ้าสำนึกคุณอย่างสุดซึ้งในแต่ละสถานการณ์ที่มีการสร้างหรือฟื้นฟูความปรองดอง การให้อภัย และการเป็นส่วนหนึ่งในพันธสัญญา แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี ซิสเตอร์ผู้แสนดีคนนี้ไม่อยากให้ใครคิดถึงคุณพ่อของเธอในทางที่ไม่ดี เธอบอกว่า “ท่านเป็นคนดีและเป็นผู้นำที่ซื่อสัตย์และเป็นคุณพ่อที่ดี”

  9. ความย้อนแย้งของการเป็นพ่อแม่คือการที่ลูกๆ ถูกหล่อหลอมอย่างมากจากวิธีที่ได้รับการเลี้ยงดูมา แต่พวกเขามักจะจำสมัยยังแบเบาะไม่ค่อยได้ ช่วงที่แม่เลี้ยงดูพวกเขาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยโดยไม่คำนึงถึงตนเอง ไม่มีถ้อยคำใดบรรยายได้เพียงพอถึงความจริงอันเด่นชัดที่ว่าความเข้าใจ ความรัก และความซาบซึ้งใจที่ข้าพเจ้ามีต่อคุณพ่อคุณแม่นั้นขยายและหยั่งลึกมากขึ้นเมื่อข้าพเจ้ากลายเป็นสามี พ่อ ปู่ และตา เมื่อใคร่ครวญถึงลักษณะความเป็นรุ่นของแผนแห่งความสุข ในกระจกแห่งนิรันดรในพระวิหาร เราจะเห็นตนเองเป็นแม่ ย่า ยาย ทวดในทิศหนึ่ง และเป็นลูกสาว หลานสาว เหลนสาวในอีกทิศหนึ่ง

  10. ปัจจุบันนี้ สมาชิกศาสนจักรประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกอาศัยอยู่ภายในรัศมี 50 ไมล์ (80 กม. หรือใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงในหลายพื้นที่) จากพระนิเวศน์ของพระเจ้า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อพระวิหารที่ประกาศสร้างไว้แล้วเสร็จ สมาชิกศาสนจักรประมาณสามในสี่จะอาศัยอยู่ภายในเวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมงจากพระนิเวศน์ของพระเจ้า ซึ่งหวังว่าจะใกล้พอให้มาหาพระเจ้าในพระนิเวศน์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้บ่อยขึ้นตามสภาวการณ์ นั่นจะเป็นพรแก่สมาชิกครอบครัวล้ำค่าในรุ่นต่างๆ และแก่ตัวเราเองกับลูกหลานของเรา

  11. ที่พระวิหารของเรา ข้อความมาตรฐานที่จารึกไว้คือ “ศักดิ์สิทธิ์แด่พระเจ้า พระนิเวศน์ของพระเจ้า” พระวิหารบางแห่งมีมากกว่าคำจารึกนี้ เช่น มีการเพิ่มชื่อศาสนจักรเข้าไป พระวิหารบางแห่งมีคำจารึกที่สลับกัน: “พระนิเวศน์ของพระเจ้า ศักดิ์สิทธิ์แด่พระเจ้า” (ในแอตแลนตา ลอสแอนเจลิส และแซนดิเอโกในสหรัฐอเมริกา) คำจารึกพระวิหารโลแกน ยูทาห์ ระบุไว้เพียงว่า “ศักดิ์สิทธิ์แด่พระเจ้า”

พิมพ์