การประชุมใหญ่สามัญ
พระวจนะของพระคริสต์และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำเราไปสู่ความจริง
การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2024


10:7

พระวจนะของพระคริสต์และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำเราไปสู่ความจริง

การรู้ถึงแผนอันน่าเหลือเชื่อนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าเราเป็นลูกๆ ของพระผู้เป็นเจ้าและเราสามารถเป็นเหมือนพระองค์ได้

พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระบิดาในสวรรค์ของเรา เราเป็นลูกทางวิญญาณของพระองค์ เราได้รับการสร้างตามรูปลักษณ์ของพระองค์ ด้วยเหตุนี้ เราแต่ละคนในฐานะลูกของพระผู้เป็นเจ้าจึงมีศักยภาพอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะเป็นเหมือนพระองค์

เราเป็นวิญญาณที่อาศัยอยู่กับพระองค์ก่อนเรามายังโลกนี้ พระบิดาบนสวรรค์ ในฐานะบิดาทางวิญญาณของเรา ทรงรักเรา ทรงต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา และทรงเตรียมแผนเพื่อให้เราได้รับพรยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งคือความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ ตามแผนนั้น เราในฐานะลูกที่เป็นวิญญาณ จะได้รับสิทธิ์เสรีในการเลือกแผนของพระองค์ การมายังโลกนี้ เราจะต้องออกจากที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า ลืมชีวิตก่อนเกิด รับร่างกายที่เป็นเนื้อหนังและกระดูก รับประสบการณ์ของตนเอง และพัฒนาศรัทธา ด้วยร่างกายที่เป็นเนื้อหนังและกระดูก ทำให้เราที่เป็นมนุษย์ปุถุชนยอมต่อการล่อลวง กลายเป็นคนไม่สะอาดและออกห่างจากพระผู้เป็นเจ้า ไม่สามารถกลับไปยังที่ประทับอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้ เพราะความรักอันไม่สิ้นสุดที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีต่อเรา จึงทรงส่งพระบุตรหัวปีของพระองค์ พระเยซูคริสต์ มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเยซูคริสต์ทรงทำให้การไถ่บาป การฟื้นคืนชีวิต และการรับชีวิตนิรันดร์เป็นไปได้สำหรับเราโดยผ่านการพลีบูชา คือการชดใช้ของพระองค์

ข้าพเจ้าสำนึกคุณอย่างมากสำหรับความจริงอันรุ่งโรจน์เหล่านี้—ที่เราเรียกว่าแผนแห่งความรอดของพระบิดา แผนแห่งพระเมตตา หรือแผนอันสำคัญยิ่งแห่งความสุข การเรียนรู้ความจริงที่สำคัญเหล่านี้ช่วยให้ข้าพเจ้ารู้ถึงอัตลักษณ์ที่แท้จริงของข้าพเจ้าและพรยิ่งใหญ่แห่งความสูงส่งและชีวิตนิรันดร์ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเตรียมไว้ให้เรา ศาสดาพยากรณ์นีไฟสอนวิธีแก่เรา: “ดังนั้น, … จงดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์; เพราะดูเถิด, พระวจนะของพระคริสต์จะบอกท่านทุกสิ่งที่ท่านควรทำ” ท่านเสริมว่า “หากท่านจะเข้าไปโดยทางนั้น, และรับพระวิญญาณบริสุทธิ์, พระองค์จะทรงแสดงแก่ท่านถึงสิ่งทั้งปวงที่ท่านควรทำ” วันนี้ข้าพเจ้าต้องการแบ่งปันว่าพระวจนะของพระคริสต์และพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยข้าพเจ้าในวัยเยาว์ให้พบความจริงสำคัญเหล่านี้ที่มอบสันติสุขอย่างไร

พระวจนะของพระคริสต์จะบอกท่านทุกสิ่งที่ท่านควรทำ

เหมือนที่นีไฟกล่าวในข้อแรกของหนังสือ 1 นีไฟ ข้าพเจ้าก็ “เกิดจากบิดามารดาผู้ประเสริฐ”ด้วยเช่นกัน ข้าพเจ้าเติบโตมาในเมืองนะงะโนะ ประเทศญี่ปุ่น ในครอบครัวที่ส่งเสริมมากเรื่องความซื่อสัตย์ ความขยันหมั่นเพียร และความอ่อนน้อมถ่อมตน และต้องปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมเก่าแก่อย่างเคร่งครัด คุณพ่อข้าพเจ้าเป็นคนเคร่งศาสนามาก ข้าพเจ้าดูท่านสวดภาวนาหน้าแท่นบูชาเทพเจ้าชินโตและแท่นบูชาพระพุทธเจ้าทุกเช้าค่ำ แม้ไม่รู้ว่าคุณพ่อสวดถึงใครและสวดเพื่ออะไร แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าอำนาจที่มองไม่เห็นบางอย่างหรือองค์พระผู้เป็นเจ้า จะทรงมี “อานุภาพที่จะช่วยให้รอด” หรือช่วยเหลือเราถ้าเราสวดอย่างจริงใจ

เช่นเดียวกับวัยรุ่นคนอื่นๆ ข้าพเจ้าเผชิญความลำบากหลายอย่าง ข้าพเจ้าต่อสู้ดิ้นรน คิดว่าชีวิตไม่ยุติธรรมและมีขึ้นมีลงมากมาย ข้าพเจ้ารู้สึกหลงทาง ไม่รู้จะไปทางใดในชีวิต ชีวิตดูเหมือนเป็นสิ่งชั่วคราวมากๆ เพราะจะจบลงเมื่อข้าพเจ้าตาย ชีวิตที่ปราศจากแผนแห่งความรอดช่างน่าสับสน

ไม่นานหลังจากข้าพเจ้าเริ่มเรียนภาษาอังกฤษในชั้นมัธยมต้น นักเรียนทุกคนในโรงเรียนได้รับพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คนละเล่ม แม้ว่าเราจะเพิ่งเริ่มศึกษาภาษาอังกฤษ แต่คุณครูบอกว่าเราควรศึกษาภาษาอังกฤษด้วยการอ่านเล่มนั้น ข้าพเจ้าเปิดดูเนื้อหาข้างใน คำในพันธสัญญาใหม่ยากมากสำหรับข้าพเจ้า ในภาษาญี่ปุ่นเองก็ยากพอๆ กัน แต่ข้าพเจ้ารู้สึกสนใจรายการข้อความและคำถามเกี่ยวกับจิตวิญญาณที่อยู่ก่อนข้อความในพระคัมภีร์ไบเบิลของกีเดียนส์ฉบับนี้—เป็นคำถามเกี่ยวกับการรู้สึกโดดเดี่ยว ขาดความมั่นใจ สับสน เผชิญปัญหาชีวิต และอื่นๆ แต่ละรายการจะตามด้วยข้อพระคัมภีร์อ้างอิงและเลขหน้าในพันธสัญญาใหม่ ข้าพเจ้าสนใจข้อความ “เมื่อท่านอ่อนแรง” เป็นพิเศษ ข้ออ้างอิงบอกให้ข้าพเจ้าเปิด มัทธิว 11:28-30 ในข้อนี้พระเยซูตรัสกับสาวกของพระองค์ว่า:

“บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก

“จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพอ่อนโยนและใจอ่อนน้อม และจิตใจของพวกท่านจะได้หยุดพัก

“ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา”

นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าจำได้ว่าอ่านพระวจนะของพระเยซูคริสต์ แม้ข้าพเจ้าจะไม่เข้าใจทั้งหมดที่พระองค์ตรัส แต่พระวจะของพระองค์ปลอบโยน ยกจิตวิญญาณ และให้ความหวังข้าพเจ้า ยิ่งอ่านพระวจนะของพระองค์ ข้าพเจ้ายิ่งรู้สึกว่าควรลองอานุภาพแห่งพระวจนะนั้น ข้าพเจ้าไม่เคยรู้สึกเช่นวันนั้นมาก่อน รู้สึกว่าตนเองเป็นที่รัก รู้สึกว่าพระเยซูคริสต์เป็นคนที่ข้าพเจ้ารู้จัก

เมื่อศึกษาต่อไป ข้าพเจ้ารู้สึกว่าพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าโดยตรงเมื่อพระองค์ตรัสว่า “คนที่หิวและกระหายความชอบธรรมก็เป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่ม”

พระวจนะของพระองค์เข้ามาในใจข้าพเจ้า แม้ว่าข้าพเจ้าไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้ดีในเวลานั้น แม้ว่าพระเยซูคริสต์ทรงมีชีวิตอยู่เมื่อหลายศตวรรษก่อนในดินแดนที่ข้าพเจ้าไม่คุ้นเคย แต่ตอนนั้นข้าพเจ้าคิดว่าสามารถวางใจในพระวจนะของพระองค์ได้สุดใจ และหวังว่าวันหนึ่งข้างหน้าจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์มากขึ้น

พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงแสดงแก่ท่านถึงสิ่งทั้งปวงที่ท่านควรทำ

วันนั้นมาถึงเพียงไม่กี่ปีถัดมา ข้าพเจ้าพบผู้สอนศาสนาเต็มเวลาที่อายุน้อยและอุทิศตนของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย และไม่นานก็พบวิสุทธิชนยุคสุดท้ายผู้ใจดีและร่าเริงกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งซึ่งพากเพียรติดตามพระเยซูคริสต์ แม้จะใช้เวลาสักพักกว่าจะเชื่อใจพวกเขาอย่างเต็มที่ แต่ข้าพเจ้าได้เห็นในพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูถึงสิ่งที่เคยปรารถนาเมื่อครั้งศึกษาพันธสัญญาใหม่—นั่นคือพระวจนะของพระเยซูคริสต์ และความหวังกับสันติสุขที่มาจากพระวจนะนั้น

ประสบการณ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งคือเมื่อผู้สอนศาสนาสอนข้าพเจ้าสวดอ้อนวอน ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่าเราควรเอ่ยพระนามของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อสวดอ้อนวอน เราควรกล่าวจากใจ แสดงความสำนึกคุณ และบอกความหวังและความปรารถนาของเรา เมื่อกล่าวทั้งหมดที่เราต้องการแล้ว เราจบคำสวดอ้อนวอนโดยกล่าว “ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน” เราทำเช่นนี้เพราะพระเยซูทรงบัญชาให้เราสวดอ้อนวอนในพระนามของพระองค์ การสวดอ้อนวอนพระบิดาบนสวรรค์ช่วยให้ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์เป็นใครและรู้ความสัมพันธ์ระหว่างข้าพเจ้ากับพระองค์—ว่าข้าพเจ้าเป็นลูกทางวิญญาณอันเป็นที่รักของพระองค์ ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่าเพราะพระบิดาบนสวรรค์ทรงรู้จักและรักข้าพเจ้า พระองค์จะตรัสกับข้าพเจ้าเป็นการส่วนตัวแบบไม่เหมือนใคร และในวิธีที่ข้าพเจ้าจะเข้าใจผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์

มีช่วงเวลาที่ข้าพเจ้าไม่สามารถตระหนักถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ ข้าพเจ้าเข้าใจผิดคิดว่าแค่ต้องสวดอ้อนวอนตามขั้นตอนแล้วจะมีสิ่งที่น่าทึ่งเกิดขึ้น วันหนึ่ง ระหว่างบทเรียนกับผู้สอนศาสนา ข้าพเจ้าออกมาจากห้องเพื่อพักสักครู่ ข้าพเจ้ายังสับสนว่าควรทำอย่างไรกับชีวิตถ้าพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์เป็นความจริง

ขณะกำลังจะกลับไปที่ห้องที่ผู้สอนศาสนารออยู่ ข้าพเจ้าได้ยินเสียงผู้สอนศาสนาคนหนึ่งในนั้น และได้ยินชื่อตนเอง แทนที่จะเปิดประตู ข้าพเจ้าฟังเสียงนั้นจากอีกด้านของประตู ข้าพเจ้าอึ้ง พวกเขาแค่กำลังสวดอ้อนวอนถึงพระบิดาบนสวรรค์ คนที่กล่าวคำสวดอ้อนวอนกำลังวิงวอนพระผู้เป็นเจ้าให้ทรงได้ยินคำสวดอ้อนวอนของข้าพเจ้า แม้ว่าเขาจะพูดภาษาญี่ปุ่นไม่คล่อง การได้ยินคำสวดอ้อนวอนของเขาทำให้ใจข้าพเจ้าอ่อนลง และสงสัยว่าทำไมพวกเขาจึงห่วงใยข้าพเจ้านัก ข้าพเจ้าตระหนักว่าคำสวดอ้อนวอนของพวกเขาเพื่อข้าพเจ้านั้นสะท้อนถึงความรักที่พระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดทรงมีต่อข้าพเจ้า ความรักนั้นให้ความหวังแก่ข้าพเจ้า ต่อมาข้าพเจ้าทูลถามพระผู้เป็นเจ้าด้วยศรัทธาและเจตนาแท้จริง เมื่อทำเช่นนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกถึงปีติและสันติสุขว่าข้าพเจ้าเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้าจริงๆ และมีศักยภาพและจุดหมายปลายทางแบบพระผู้เป็นเจ้า แผนแห่งความรอดฝังลึกอยู่ในใจข้าพเจ้า

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า “วิธีที่ท่านคิดเกี่ยวกับตัวตนของท่าน … ส่งผลต่อ … การตัดสินใจทุกเรื่องที่ท่านจะทำ” นี่เป็นจริงอย่างมากสำหรับข้าพเจ้า การตัดสินใจติดตามพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์โดยการรับบัพติศมาและของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพรแก่ชีวิตข้าพเจ้าเกินกว่าที่เคยจินตนาการ เมื่อเราเข้าสู่พันธสัญญาบัพติศมากับพระผู้เป็นเจ้า เราสัญญาว่าจะเต็มใจรับพระนามของพระเยซูคริสต์ รักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า และรับใช้พระองค์ตลอดชีวิตที่เหลือของเรา พระบิดาบนสวรรค์ทรงสัญญาตอบว่าเราจะสามารถมีพระวิญญาณของพระองค์อยู่กับเราตลอดเวลา—มีการนำทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างต่อเนื่อง

ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านมีศรัทธาในข่าวสารที่นีไฟสอนเรา—ว่าพระวจนะของพระคริสต์และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะชี้แนะท่านถึง “ทุกสิ่งที่ท่านควรทำ” ทุกสิ่ง! นี่เป็นของประทานอันล้ำค่าจากพระผู้เป็นเจ้า

พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าสำนึกคุณสำหรับแผนแห่งความรอดของพระบิดาบนสวรรค์ เพราะพระองค์ทรงรักเรา จึงทรงเตรียมทางเพื่อกลับไปยังที่ประทับของพระองค์ผ่านพระเยซูคริสต์ พระบุตรองค์เดียวที่ถือกำเนิดของพระองค์ การรู้ถึงแผนอันน่าเหลือเชื่อนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าเราเป็นลูกๆ ของพระผู้เป็นเจ้าและเราสามารถเป็นเหมือนพระองค์ได้ ข้าพเจ้าสำนึกคุณสำหรับความจริงสำคัญนี้ ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระวจนะของพระเยซูคริสต์และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำเราให้ได้รับชีวิตนิรันดร์ ข้าพเจ้ารู้ว่าสิ่งเหล่านี้จริง ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน