การประชุมใหญ่สามัญ
น้อมรับของประทานแห่งการกลับใจจากพระเจ้า
การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2024


น้อมรับของประทานแห่งการกลับใจจากพระเจ้า

ขอให้เราอย่ารอจนสิ่งต่างๆ ยากลําบากแล้วจึงหันไปหาพระผู้เป็นเจ้า อย่ารอให้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตมรรตัยแล้วจึงค่อยกลับใจจริงๆ

ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักเรา ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2019 หลังจากข้าพเจ้าได้รับการสนับสนุนในหน้าที่รับผิดชอบใหม่เป็นสาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ คณะนักร้องประสานเสียงขับร้องบทเพลง “ฉันเฝ้าพิศวง” ที่ซึ้งเข้าไปในใจและจิตวิญญาณข้าพเจ้า

ฉันแปลกใจทำไมพระองค์ลาจากบังลังก์มาเอื้อ

เพื่อช่วยเหลือวิญญาณพาลพยศและเย่อหยิ่งอย่างฉัน

ใยแบ่งปันรักล้นให้กับคนเหมือนดังเช่นตัวฉัน

ใยพระองค์สามารถเป็นเจ้าของ และไถ่ และรับรอง

เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น ข้าพเจ้าเฝ้าพิศวง ข้าพเจ้ารู้สึกว่าแม้ตนเองไม่ดีพอและบกพร่อง พระเจ้ายังทรงอวยพรให้รู้ว่า “ในพละกําลังของพระองค์ ข้าพเจ้าทําได้ทุกสิ่ง”

บางครั้งเราหลายคนต่อสู้ดิ้นรนกับความรู้สึกบางอย่างเหมือนกันคือ เราไม่ดีพอ อ่อนแอ หรือแม้แต่ไม่มีค่าควร ข้าพเจ้ายังคงต่อสู้กับสิ่งนี้ และรู้สึกได้ในวันที่ได้รับเรียก ข้าพเจ้ารู้สึกเช่นนั้นหลายครั้ง และยังคงรู้สึกอยู่แม้ขณะพูดกับท่าน แต่ก็เรียนรู้ว่าข้าพเจ้าไม่ใช่คนเดียวที่มีความรู้สึกเหล่านี้ ที่จริงหลายเรื่องในพระคัมภีร์กล่าวถึงคนที่ดูเหมือนจะมีความรู้สึกทํานองนี้ ตัวอย่างเช่น เราจดจำนีไฟในฐานะผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์และองอาจของพระเจ้า บางครั้งแม้แต่นีไฟเองก็ยังต่อสู้ดิ้นรนกับความรู้สึกไม่มีค่าควร อ่อนแอ และไม่ดีพอ

ท่านกล่าว: “ทั้งที่มีพระคุณความดีอันใหญ่หลวงของพระเจ้า, ในการแสดงงานสําคัญยิ่งและน่าอัศจรรย์ของพระองค์กับข้าพเจ้า, ใจข้าพเจ้ายังร้อง: โอ้ข้าพเจ้าช่างเป็นคนที่น่าเวทนา! แท้จริงแล้ว, ใจข้าพเจ้าสลดเพราะเนื้อหนังข้าพเจ้า; จิตวิญญาณข้าพเจ้าเศร้าโศกเพราะความชั่วช้าสามานย์ของข้าพเจ้า”

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธมักพูดว่าท่าน “รู้สึกผิด” ในวัยเยาว์ “เนื่องจากความอ่อนแอและความไม่ดีพร้อม [ของท่าน]” แต่ความรู้สึกไม่ดีพอและความกังวลของโจเซฟเป็นส่วนหนึ่งที่นําท่านไปสู่การไตร่ตรอง ศึกษา เรียนรู้ และสวดอ้อนวอน ท่านคงจําได้ที่โจเซฟไปสวดอ้อนวอนในป่าใกล้บ้านเพื่อค้นหาความจริง สันติสุข และการให้อภัย ท่านได้ยินพระเจ้าตรัส: “โจเซฟ บุตรของเรา บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว จงไปตามทางของเจ้า เดินตามกฎเกณฑ์ของเรา และรักษาบัญญัติของเรา ดูเถิด เราคือพระเจ้าแห่งรัศมีภาพ เราถูกตรึงกางเขนแทนชาวโลก เพื่อทุกคนที่เชื่อในนามของเราจะมีชีวิตนิรันดร์”

ความปรารถนาอย่างจริงใจที่จะกลับใจและแสวงหาความรอดแก่จิตวิญญาณช่วยให้โจเซฟมาหาพระคริสต์และได้รับการอภัยบาป ความพยายามต่อเนื่องนี้เปิดประตูสู่การฟื้นฟูต่อเนื่องของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

ประสบการณ์อันน่าทึ่งของท่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธทําให้เห็นภาพว่าความรู้สึกอ่อนแอและไม่ดีพอสามารถช่วยให้เรารู้ถึงธรรมชาติที่ตกแล้วของเราอย่างไร หากเราอ่อนน้อมถ่อมตน ประสบการณ์นี้จะช่วยให้เรารู้ว่าเราต้องพึ่งพาพระเยซูคริสต์และกระตุ้นให้เราปรารถนาอย่างจริงใจที่จะหันไปหาพระผู้ช่วยให้รอดและกลับใจจากบาป

เพื่อนทั้งหลาย การกลับใจคือปีติ! การกลับใจอันแสนหวานเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนประจําวันที่พระเจ้าทรงสอนเรา “บรรทัดมาเติมบรรทัด, กฎเกณฑ์มาเติมกฎเกณฑ์”เพื่อให้เราดําเนินชีวิตโดยมีคำสอนของพระองค์เป็นศูนย์กลาง เหมือนโจเซฟและนีไฟ เราสามารถ “เรียกหา [พระผู้เป็นเจ้า] เพื่อพระเมตตา; เพราะพระองค์ทรงอานุภาพที่จะช่วยให้รอด” พระองค์ทรงเติมเต็มทุกความปรารถนาอันชอบธรรมและรักษาทุกบาดแผลในชีวิตได้

ในพระคัมภีร์มอรมอน: พยานหลักฐานอีกเล่มหนึ่งของพระเยซูคริสต์ ท่านกับข้าพเจ้าจะพบเรื่องราวนับไม่ถ้วนของคนที่เรียนรู้วิธีมาหาพระองค์โดยผ่านการกลับใจที่จริงใจ

ข้าพเจ้าอยากแบ่งปันตัวอย่างพระเมตตาอันละเอียดอ่อนของพระเจ้าผ่านประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในเกาะบ้านเกิดข้าพเจ้าที่เปอร์โตริโก

ในปอนเซ บ้านเกิดของข้าพเจ้า ซิสเตอร์คนหนึ่งที่โบสถ์ชื่อเซเลีย ครูซ อายาลา ตัดสินใจว่าเธอจะมอบพระคัมภีร์มอรมอนให้เพื่อนคนหนึ่ง เธอห่อของขวัญและไปส่งของขวัญชิ้นนี้ซึ่งมีค่าต่อเธอยิ่งกว่าเพชรหรือทับทิม เธอบอก ระหว่างทางมีขโมยเข้ามาคว้ากระเป๋าเธอแล้ววิ่งหนีไปพร้อมกับของขวัญพิเศษที่อยู่ข้างใน

เมื่อเธอเล่าให้คนที่โบสถ์ฟัง เพื่อนเธอบอกว่า “ใครจะรู้? นี่อาจจะเป็นโอกาสให้เธอแบ่งปันพระกิตติคุณก็ได้!”

สองสามวันต่อมา ท่านรู้ไหมเกิดอะไรขึ้น? เซเลียได้รับจดหมาย ข้าพเจ้าถือจดหมายที่เซเลียแบ่งปันกับข้าพเจ้าอยู่ในมือวันนี้ ในนั้นเขียนว่า:

“คุณครูซ :

“ได้โปรดยกโทษ ยกโทษให้ผมด้วย คุณไม่มีวันรู้ว่าผมเสียใจแค่ไหนที่วิ่งราวกระเป๋าคุณ แต่วันนั้นได้เปลี่ยนชีวิตผมและจะเปลี่ยนต่อไป

“หนังสือ [พระคัมภีร์มอรมอน] เล่มนั้นช่วยชีวิตผม ความฝันของคนของพระผู้เป็นเจ้าคนนั้นสะเทือนใจผม … ผมขอคืนเงินห้า [ดอลลาร์] ให้คุณเพราะผมไม่กล้าใช้มัน ผมอยากให้คุณรู้ว่าคุณดูเหมือนจะมีรัศมีแผ่ออกมาจากตัวคุณ ดูเหมือนว่าแสงนั้นจะหยุดผม [ไม่ให้ทําร้ายคุณ] จนผมต้องวิ่งหนีแทน

“ผมอยากให้คุณรู้ว่าคุณจะได้เจอผมอีก แต่เมื่อถึงวันนั้น คุณจะจําผมไม่ได้ เพราะผมจะเป็นพี่น้องของคุณ … ที่นี่ที่ผมอยู่ ผมต้องไปหาพระเจ้าและไปศาสนจักรของคุณ

“ข้อความที่คุณเขียนไว้ในหนังสือทําให้ผมหลั่งนํ้าตา ผมอ่านหนังสือเล่มนั้นจนวางไม่ลงตั้งแต่คืนวันพุธ ผมสวดอ้อนวอนขอพระผู้เป็นเจ้าประทานอภัย [และ] ขอให้คุณให้อภัยผม … ผมคิดว่าของขวัญที่คุณห่อไว้จะขายได้ [แต่] มันกลับทําให้ผมอยาก [เปลี่ยน] ชีวิตตนเอง … ได้โปรดยกโทษ ยกโทษให้ผมด้วย ผมขอร้อง

“เพื่อนคนไกล”

พี่น้องทั้งหลาย แสงสว่างของพระผู้ช่วยให้รอดส่องถึงเราทุกคนได้ไม่ว่าในสภาวการณ์ใด “เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะจมดิ่งลงไปลึกกว่าความสว่างอันไม่มีขอบเขตจากการชดใช้ของพระคริสต์จะส่องถึง” ประธานเจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์กล่าว

สําหรับผู้รับของขวัญพระคัมภีร์มอรมอนจากเซเลียไปโดยไม่ได้ตั้งใจ บราเดอร์คนนี้ได้เห็นพระเมตตาของพระเจ้ามากขึ้น แม้ต้องใช้เวลาในการให้อภัยตนเอง แต่บราเดอร์คนนี้พบปีติในการกลับใจ ช่างเป็นปาฏิหาริย์! พี่น้องสตรีผู้ซื่อสัตย์หนึ่งคน พระคัมภีร์มอรมอนหนึ่งเล่ม การกลับใจที่จริงใจ และเดชานุภาพของพระผู้ช่วยให้รอดนําไปสู่ความเบิกบานใจในความสมบูรณ์แห่งพรของพระกิตติคุณและพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ในพระนิเวศน์ของพระเจ้า สมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ตามมาและยอมรับหน้าที่รับผิดชอบศักดิ์สิทธิ์ในสวนองุ่นของพระเจ้า รวมถึงการรับใช้งานเผยแผ่ศาสนาเต็มเวลา

เมื่อเรามาหาพระเยซูคริสต์ เส้นทางกลับใจอย่างจริงใจจะนําเราไปยังพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้ช่วยให้รอดในที่สุด

ช่างเป็นแรงจูงใจอันชอบธรรมที่จะมุ่งมั่นเป็นคนสะอาด—มีค่าควรต่อความสมบูรณ์ของพรซึ่งเป็นไปได้โดยพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์ผ่านพันธสัญญาพระวิหารศักดิ์สิทธิ์! การรับใช้เป็นประจําและมุ่งมั่นรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ที่เราทําในพระนิเวศน์ของพระเจ้าจะเพิ่มทั้งความปรารถนาและความสามารถที่จะประสบการเปลี่ยนแปลงในใจ พลัง ความคิด และจิตวิญญาณซึ่งจําเป็นต่อเราในการเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเป็นพยานว่า: “ไม่มีสิ่งใดจะเปิดฟ้าสวรรค์ได้ มาก [กว่าการนมัสการในพระวิหาร] ไม่มีเลย!”

เพื่อนที่รัก ท่านรู้สึกไม่ดีพอใช่ไหม? ท่านรู้สึกไม่มีค่าควรใช่ไหม? ท่านกำลังสงสัยในตนเองใช่ไหม? บางทีท่านอาจกังวลและถามว่า: ฉันดีพอไหม? สายเกินไปสําหรับฉันใช่ไหม? ทําไมฉันล้มเหลวตลอดเวลาทั้งที่พยายามทําเต็มที่แล้ว?

พี่น้องทั้งหลาย แน่นอนว่าเราจะทําผิดพลาดในชีวิตตามเส้นทางนี้ แต่โปรดจําไว้ดังที่เอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กองสอน: “การชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดไม่มีขอบเขตและเป็นนิรันดร์ เราแต่ละคนหันเหไปและล้มเหลว บางครั้งเราอาจหลงทาง พระผู้เป็นเจ้าทรงรับรองกับเราว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดหรือทําอะไร เรากลับไปหาพระองค์ได้เสมอ พระองค์ทรงรอโอบกอดเรา”

ดังที่คาริ ลู ภรรยาที่รักสอนข้าพเจ้า เราทุกคนจำเป็นต้องกลับใจ ย้อนกลับคืน และตั้งเวลากลับไปใหม่เป็น “ศูนย์นาฬิกา” ทุกๆ วัน

อุปสรรคต่างๆ จะมีมา ขอให้เราอย่ารอจนสิ่งต่างๆ ยากลําบากแล้วจึงหันไปหาพระผู้เป็นเจ้า อย่ารอให้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตมรรตัยแล้วจึงค่อยกลับใจจริงๆ แต่ตั้งแต่บัดนี้ ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงส่วนไหนของเส้นทางพันธสัญญา ขอให้เราจดจ่ออยู่กับอำนาจการไถ่ของพระเยซูคริสต์และความปรารถนาของพระบิดาบนสวรรค์ที่จะให้เรากลับไปหาพระองค์

พระนิเวศน์ของพระเจ้า พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ศาสดาพยากรณ์กับอัครสาวกของพระองค์สร้างแรงบันดาลใจให้เรามุ่งมั่นสู่ความบริสุทธิ์ส่วนตัวผ่านหลักคำสอนของพระคริสต์

และนีไฟกล่าว: “บัดนี้, ดูเถิด, พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, นี่คือทางนั้น, และไม่มีทางอื่นทั้งนามอื่นใดประทานไว้ภายใต้ฟ้าสวรรค์ซึ่งโดยทางนั้นมนุษย์จะได้รับการช่วยให้รอดได้ในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า. และบัดนี้, ดูเถิด, นี่คือหลักคำสอนของพระคริสต์, และคือหลักคำสอนเดียวและแท้จริงของพระบิดา, และของพระบุตร, และของพระวิญญาณบริสุทธิ์”

กระบวนการ “เป็นหนึ่งเดียวกัน” กับพระผู้เป็นเจ้าอาจรู้สึกเป็นเรื่องท้าทาย แต่ท่านกับข้าพเจ้าสามารถหยุด นิ่ง มองไปที่พระผู้ช่วยให้รอด พยายามค้นหาและทําตามสิ่งที่ทรงต้องการให้เราเปลี่ยนแปลง ถ้าเราทําด้วยความตั้งใจ เราจะเห็นการเยียวยาของพระองค์ ลองคิดดูว่าลูกหลานของเราจะได้รับพรอย่างไรเมื่อเราน้อมรับของประทานแห่งการกลับใจจากพระเจ้า!

คุณพ่อข้าพเจ้าสอนว่าพระปรมาจารย์ด้านการปั้นจะทรงปั้นและขัดเกลาเรา ซึ่งอาจเป็นเรื่องยาก แม้กระนั้น พระปรมาจารย์ด้านการเยียวยาก็ยังจะทรงชําระล้างเราด้วย ข้าพเจ้ามีประสบการณ์อย่างต่อเนื่องกับเดชานุภาพการเยียวยานั้น ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าสิ่งนั้นมาจากศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการกลับใจทุกวัน

โอ ช่างแสนอัศจรรย์ พระองค์ทรงห่วงใยฉัน

แม้วายชีวันทรงยอม!”

ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้าและเดชานุภาพอันไร้ขอบเขตแห่งการชดใช้ของพระบุตร เรารู้สึกถึงสิ่งนี้ได้อย่างลึกซึ้งเมื่อเราจริงใจและเต็มใจที่จะกลับใจ

เพื่อนทั้งหลาย ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงการฟื้นฟูอันรุ่งโรจน์ของพระกิตติคุณผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและการทรงนําจากสวรรค์ในปัจจุบันของพระผู้ช่วยให้รอดผ่านศาสดาพยากรณ์และกระบอกเสียงของพระองค์ ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน ข้าพเจ้ารู้ว่าพระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์ ทรงเป็นพระปรมาจารย์ด้านการเยียวยาจิตวิญญาณ ข้าพเจ้ารู้และเป็นพยานว่าสิ่งเหล่านี้จริง ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. “ฉันเฝ้าพิศวง,” เพลงสวด, บทเพลงที่ 89.

  2. แอลมา 26:12

  3. 2 นีไฟ 4:17; ดู ข้อ 18–19 ด้วย

  4. โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:29

  5. Joseph Smith, “History, circa Summer 1832,” 3, josephsmithpapers.org; ปรับตัวสะกดและเครื่องหมายวรรคตอนให้เป็นไปตามมาตรฐาน.

  6. ดู โมไซยาห์ 4:11–12

  7. ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า: “เมื่อเราเลือกกลับใจ เราเลือกที่จะเปลี่ยนแปลง! เรายอมให้พระผู้ช่วยให้รอดทรงเปลี่ยนเราเป็นตัวเราในแบบที่ดีที่สุด เราเลือกเติบโตทางวิญญาณและรับปีติ—ปีติแห่งการไถ่ในพระองค์ เมื่อเราเลือกกลับใจ เราเลือกที่จะเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้น!” (“เราสามารถทำได้ดีขึ้นและเป็นคนดีขึ้น,” เลียโฮนา, พ.ค. 2019, 67).

  8. 2 นีไฟ 28:30

  9. แอลมา 34:18

  10. “พี่น้องทั้งหลาย พระคัมภีร์มอรมอน มี ค่าต่อท่านเพียงใด? ถ้ามีคนมอบเพชรหรือทับทิม หรือ พระคัมภีร์มอรมอนให้ท่าน ท่านจะเลือกอย่างไหน? พูดตามตรงคืออย่างไหน มี ค่าต่อท่านมากกว่า?” (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “พระคัมภีร์มอรมอน: ชีวิตท่านจะเป็นอย่างไรหากปราศจากพระคัมภีร์เล่มนี้?เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 61).

  11. ใน F. Burton Howard, “Missionary Moments: ‘My Life Has Changed,’” Church News, Jan. 6, 1996, thechurchnews.com; ดู Saints: The Story of the Church of Jesus Christ in the Latter Days, vol. 4, Sounded in Every Ear, 1955–2020 (2024), 472–474, 477–479 ด้วย.

  12. เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “คนงานในสวนองุ่น,” เลียโฮนา, พ.ค. 2012, 33.

  13. ให้เราหยุดหนึ่งวินาทีแล้วนึกถึงลูกหลานของเราได้ไหม? เนื่องจากมีวิสัยทัศน์สั้น เราจึงไม่เห็นในขณะนี้ แต่ความเต็มใจของเราที่จะหันไปหาพระเจ้าโดยตั้งใจเด็ดเดี่ยว—ที่จะเปลี่ยนแปลง กลับใจ และน้อมรับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์—จะส่งผลต่อผู้คนได้อีกหลายรุ่น! ให้นึกถึงพรเพิ่มเติมซึ่งอาจเบ่งบานจากความอ่อนน้อมถ่อมตน ความอ่อนโยน และศรัทธาในพระเยซูคริสต์ของจิตวิญญาณดวงหนึ่ง แม้ภายใต้สภาวการณ์ที่ไม่สะดวกสบายที่สุด!

  14. ซิสเตอร์เซเลีย ครูซเล่ารายละเอียดเหล่านี้ในการสนทนาส่วนตัวกับเอ็ลเดอร์ฮอร์เก อัลวาราโด เมื่อวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2024

  15. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน “ชื่นชมยินดีในของประทานแห่งกุญแจฐานะปุโรหิต,” เลียโฮนา, พ.ค. 2024, 122.

  16. เมื่อเราพบว่าตนเองกําลังถามคําถามทํานองนี้ เป็นสิ่งสําคัญที่เราจะระลึกถึงถ้อยคําของอัครสาวกเปาโล:

    “แล้วใครจะให้เราขาดจากความรักของพระ‍คริสต์ได้? จะเป็นความทุกข์หรือความยาก‍ลํา‌บาก หรือการเคี่ยว‍เข็ญ หรือการกัน‌ดาร‍อาหาร หรือการเปลือย‍กาย หรือการถูกโพย‍ภัย หรือการถูกคม‍ดาบหรือ? …

    “แต่ว่าในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เรามีชัยเหลือล้นโดยพระองค์ผู้ทรงรักเราทั้งหลาย

    “เพราะข้าพเจ้าแน่ใจว่า แม้ความตาย หรือชีวิต หรือบรรดาทูตสวรรค์ หรือเทพเจ้า หรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้ หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย

    “หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น จะไม่สามารถทําให้เราขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้” (โรม 8:35, 37–39)

  17. เกอร์ริท ดับเบิลยู. กอง, “กองไฟแห่งศรัทธาของเรา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2018, 41.

  18. นีไฟเป็นแบบอย่างที่ดีของเรื่องนี้. ท่านประกาศว่า:

    “ตื่นเถิด, จิตวิญญาณข้าพเจ้า! อย่าจมอยู่ในบาปอีกต่อไปเลย จงชื่นชมยินดีเถิด, โอ้ใจข้าพเจ้า, และอย่าให้ที่แก่ศัตรูของจิตวิญญาณข้าพเจ้าต่อไปเลย. …

    “ข้าแต่พระเจ้า, พระองค์จะทรงไถ่จิตวิญญาณข้าพระองค์หรือ? พระองค์จะทรงปลดปล่อยข้าพระองค์ออกจากเงื้อมมือพวกศัตรูของข้าพระองค์หรือ? พระองค์จะทรงทําให้ข้าพระองค์สั่นต่อสิ่งที่ปรากฏเป็นบาปหรือ?” (2 นีไฟ 4:28, 31)

  19. ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์สอนว่า: “เมื่อบุคคลผ่านกระบวนการกลับใจ พระผู้ช่วยให้รอดจะทรงทํามากกว่าชําระบุคคลนั้นให้สะอาดจากบาป … พระองค์จะประทานความเข้มแข็งให้เขาใหม่ด้วย การทําให้เข้มแข็งเช่นนั้นจําเป็นสําหรับเราเพื่อตระหนักถึงจุดประสงค์ของการชําระให้สะอาด ซึ่งคือการกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ เพื่อถูกรับเข้าในที่ประทับของพระองค์ เราต้องเป็นมากกว่าสะอาด เราต้องเปลี่ยนจากคนอ่อนแอทางศีลธรรมที่เคยทำบาปเป็นคนเข้มแข็งที่มีสภาพทางวิญญาณพร้อมอยู่ในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า” (“The Atonement and Faith,” Ensign, Apr. 2010, 33–34)

  20. 2 นีไฟ 31:21

  21. เราให้เกียรติครอบครัวเราและพระบิดาบนสวรรค์โดยการน้อมรับการกลับใจและพากเพียรดำเนินชีวิตให้ดี

  22. เพลงสวด, บทเพลงที่ 89.

พิมพ์