เสียงวิสุทธิชนยุคสุดท้าย
ผมไม่ได้อยู่คนเดียว
โรเบิร์ต ฮอฟฟ์แมน, วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
ขณะนั่งอยู่ในจุดตั้งรับที่ขุดอย่างเร่งรีบ ผมมองเลยผืนทรายไปทางเหนือ—ไปทางอิรัก วันนั้นเป็นวันที่ 24 ธันวาคมระหว่างปฏิบัติการพายุทะเลทรายช่วงสงครามอิรัก และผมได้รับมอบหมายให้เริ่มทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอนเที่ยงคืน
ผมเป็นวิสุทธิชนยุคสุดท้ายคนเดียวในกองพัน ด้วยเหตุนี้วันหยุดจึงเหงาหนักขึ้นไปอีก ผมอยู่ในทะเลทรายซาอุดีอาระเบียตั้งแต่เดือนสิงหาคม และเวลานี้อยู่คริสต์มาสที่นี่กับคืนที่อากาศหนาวเย็นและดวงดาวส่องสว่าง คนในค่ายพากันหลับใหล และผมมีเวลาสามสี่ชั่วโมงอยู่กับเนินทรายสีน้ำเงินเทาและความคิดของผม
ผมคิดถึงภรรยากับลูกชายในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา และผมคิดถึงงานฉลองที่บ้านมาก—ต้นไม้ ของขวัญ อาหารคริสต์มาสมื้อค่ำจริงๆ จากนั้นผมก็เริ่มไตร่ตรองเรื่องราวคริสต์มาส
ผมสงสัยเกี่ยวกับคืนที่พระคริสต์ประสูติ ผมสงสัยว่าคืนนั้นมืดเพียงใด และมีดวงจันทร์ทอแสงเจิดจ้าเหนือภูมิประเทศแถบนั้นหรือไม่ หรือมีเฉพาะแสงดาว เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้ขณะพระองค์ประสูติ กลางคืนจึงต้องเป็นเหมือนคืนที่ผมกำลังเห็นด้วยตา คงจะไม่มีงานฉลอง—มีแต่คืนมืดมิดและเงียบสงบ
แต่แล้วความคิดที่ดีมากๆ ก็แวบเข้ามา พระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าภายหลังนักปราชญ์มาจากตะวันออก มีดาวที่ปรากฏบนท้องฟ้ายามราตรีนำทางพวกเขา ขณะมองดูท้องฟ้ามืดมิด ผมตระหนักว่าผมอยู่ทางตะวันออกของเบธเลเฮมและศูนย์รวมความรู้แห่งหนึ่งเวลานั้นคือแบกแดด นักปราชญ์อาจมาจากสถานที่ไม่ไกลจากจุดที่ผมอยู่ใช่ไหม ดาวอะไรส่องสว่าง ดาวดวงนั้นยังอยู่บนท้องฟ้าหรือไม่ ผมจะมองเห็นไหม
ผมจ้องมองฟ้าด้วยความพิศวงต่องานสร้างของพระผู้เป็นเจ้าและรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มาจากข้างใน ไม่สำคัญว่าผมอยู่สถานที่เดียวกันไหม หรือดาวดวงเดียวกันอยู่บนท้องฟ้าหรือไม่ สิ่งสำคัญคือผมมีความรู้เดียวกันกับนักปราชญ์เกี่ยวกับทารกน้อยที่เกิดในเบธเลเฮมผู้เป็นจอมกษัตริย์
ผมไม่ได้อยู่คนเดียวในวันคริสต์มาสปีนั้น แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคนที่แสวงหาพระองค์ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นนักปราชญ์ ศาสดาพยากรณ์ หรือเป็นเพียงทหารโดดเดี่ยวในหลุมกลางทะเลทราย คืนนั้นประจักษ์พยานของผมเกี่ยวกับการประสูติของพระผู้ช่วยให้รอดเข้มแข็งขึ้น และเช้าวันรุ่งขึ้นพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่กับผม
แทนที่จะเป็นคริสต์มาสอันแสนเศร้าในปีนั้น แต่กลับกลายเป็นคริสต์มาสที่มีค่ามากที่สุดวันหนึ่งสำหรับผม