บ้านเรา ครอบครัวเรา
ตั้งครรภ์ลูกแฝด พบปาฏิหาริย์
ผู้เขียนอาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์
เราคิดว่าทุกอย่างในชีวิตเราจะราบรื่น แต่ไม่นานสถานการณ์กลับซับซ้อนและดิฉันกลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีอีก
คืนหนึ่งขณะนั่งดูข่าว มีบางอย่างดึงดูดความสนใจของดิฉัน ดิฉันจำได้ว่าผู้ประกาศข่าวคือเพื่อนร่วมชั้นที่มหาวิทยาลัย เธอทำให้ความฝันจะเป็นผู้ประกาศข่าวของเธอเป็นจริง!
“แล้วฉันล่ะ” ดิฉันถามตนเอง “ฉันบรรลุผลสำเร็จอะไรบ้าง” ดิฉันมองดูลูกน้อยที่หลับอยู่ในวงแขนของดิฉันและนึกถึงเหตุการณ์สามปีที่ผ่านมา
ดิฉันคิดเสมอว่าดิฉันอยากมีงานอาชีพ แต่เมื่อดิฉันกับชาร์ลส์สามีดิฉันมีเชวีลูกสาวคนแรก ลำดับความสำคัญของดิฉันก็เปลี่ยนไป ดิฉันลาออกจากงานมาดูแลเธอ เรามีศรัทธาในพระเยซูคริสต์ว่าตราบเท่าที่เราจ่ายส่วนสิบและเชื่อฟังพระบัญญัติ ทุกอย่างจะดี
ทุกอย่างราบรื่นดีจนกระทั่งวันหนึ่งชาร์ลส์ถูกเลิกจ้าง เรามีศรัทธาว่าเราจะไม่เป็นไรแต่เรารู้ว่าต้องทำบางอย่าง เราตัดสินใจว่าดิฉันควรทำงานด้วย ดิฉันกับชาร์ลส์จึงเริ่มหางาน ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น ดิฉันได้งานที่ศูนย์บริการข้อมูล ดิฉันไม่อยากทิ้งลูกวัยเก้าเดือนไว้กับพี่เลี้ยงทุกวัน แต่นั่นเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรา
ทำงานได้เพียงเดือนเดียวดิฉันพบว่าดิฉันกำลังตั้งครรภ์ โชคดีที่ไม่นานชาร์ลส์ก็ได้งาน ถึงแม้ค่าตอบแทนจะไม่มากนัก แต่ก็พอช่วยได้ เราโล่งใจอยู่ระยะหนึ่ง
การตั้งครรภ์ของดิฉันลำบากมาก และดิฉันต้องออกจากงาน เมื่อไปตรวจตามที่แพทย์กำหนดในแต่ละเดือน เราตกใจมากเมื่อพบว่าดิฉันมีลูกแฝด ดิฉันกับชาร์ลส์หวาดกลัว แต่เราวางใจพระบิดาบนสวรรค์
หลังจากตั้งครรภ์ราวสามเดือนครึ่งดิฉันตื่นมาเห็นเลือดออก ดิฉันคิดว่ากำลังจะแท้งบุตร จึงไปโรงพยาบาล เด็กทารกปรกติดี แต่แพทย์ให้ดิฉันพักอยู่บนเตียงตลอดช่วงตั้งครรภ์ที่เหลือ
สถานการณ์เริ่มยุ่งยากมาก ค่ารักษาพยาบาลทำให้เงินในบัญชีธนาคารหมดเกลี้ยง รายได้เพียงน้อยนิดของชาร์ลส์ไม่พอจัดหาสิ่งจำเป็นให้เรา ดิฉันรู้สึกไร้ค่า ดิฉันไม่สามารถช่วยหารายได้หรือดูแลเชวีได้ บางครั้งดิฉันลืมไปว่ากำลังตั้งครรภ์ลูกที่พิเศษทางวิญญาณสองคน ทุกเช้าค่ำดิฉันทูลวิงวอนพระบิดาบนสวรรค์ขอให้ทรงช่วยดิฉันคลายจากความทุกข์ ดิฉันกลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีอีก แต่ความคิดหนึ่งกลับเข้ามาเสมอ นั่นคือ พระบิดาบนสวรรค์ทรงพระชนม์และพระองค์ทรงทราบความต้องการของเรา
ชาร์ลส์ลำบากใจเช่นกัน แต่เขายังเข้มแข็ง นอกจากทำงานของเขาแล้วเขายังช่วยดิฉันดูแลเชวีด้วย พรฐานะปุโรหิตของเขาปลอบโยนดิฉัน ความรักของเขาทำให้ดิฉันเข้มแข็ง เราหวาดกลัว แต่เราเผชิญการทดสอบใหม่นี้ด้วยกัน
ดิฉันทำสุดความสามารถเพื่อยอมรับสถานการณ์ แทนที่จะทำตัวเซื่องซึม ดิฉันอ่านพระคัมภีร์ นิตยสารศาสนจักร และหนังสือดีๆ ดิฉันร้องเพลงสวดเช่นกัน—“ฐานมั่นคงหนักหนา” (เพลงสวด, บทเพลงที่ 33) ส่งผลดีเป็นพิเศษ ดิฉันใกล้ชิดพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น ดิฉันตระหนักว่าดิฉันต้องขอบพระทัยมากเพียงใดแม้ในสภาวการณ์เช่นนี้
เรารู้สึกถึงงานฝีพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตเราตามวันเวลาที่ผ่านไป ปาฏิหาริย์ใหญ่น้อยเกิดขึ้นทุกที่ ครอบครัวเราและเพื่อนๆ ออกค่าใช้จ่ายบางส่วนให้เรา ดิฉันรู้สึกว่าพวกเขารักและห่วงใยครอบครัวเรา ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์มอบหมายพี่น้องสตรีหนึ่งหรือสองคนมาเยี่ยมดิฉันทุกวัน พวกเธอนำของชำมาให้ ทำอาหาร ช่วยทำความสะอาด ดูแลเชวี แบ่งปันข้อคิดทางวิญญาณ และให้กำลังใจดิฉัน พวกเธอสวดอ้อนวอนให้ดิฉันมีสุขภาพดีขึ้นและลูกแฝดปลอดภัย เราไม่เคยหิวโหย พี่น้องสตรีเหล่านี้ไม่รู้หรอกว่าการรับใช้ของพวกเธอช่วยแบ่งเบาภาระของดิฉันได้มากทีเดียว เมื่อถึงเวลา พระบิดาบนสวรรค์ทรงทำให้ดิฉันคลอดง่ายมาก ลูกสาวตัวน้อยทั้งสองแข็งแรงดี
หลายปีผ่านไปนับตั้งแต่ความท้าทายครั้งนั้นในชีวิต ไม่มีสักวันที่เราไม่รู้สึกถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้า สถานะการเงินของเราดีขึ้นมากตอนนี้ ลูกๆ เติบโตเป็นคนฉลาดและมีพรสวรรค์ เราเข้มแข็งขึ้นและพร้อมรับเรื่องท้าทายต่างๆ ในอนาคตมากขึ้นเพราะเรารู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์ประทานพรบุตรธิดาของพระองค์ในเวลาของพระองค์และจะไม่ทรงปล่อยพวกเขาไว้โดยไม่ช่วยเหลือหรือปลอบโยน ชีวิตไม่ใช่การเดินทางที่ง่าย แต่พระผู้เป็นเจ้าจะทรงอยู่กับเราและนำทางเราเสมอ