คำตอบจากผู้นำศาสนจักร
วิธี แสดงความกตัญญู
จากคำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 1992
ข้าพเจ้าสำนึกคุณอย่างสุดซึ้งต่อการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเยซูพระคริสต์ การชดใช้เป็นรากฐานแห่งความจริงของพระกิตติคุณทั้งมวล …
ความกตัญญูคือสภาพของความสำนึกคุณ การแสดงความขอบคุณ ซึ่งทำให้เราอ่อนน้อมถ่อมตนเพราะเราตระหนักในการแสดงความเมตตา การรับใช้ หรือการดูแลจากผู้อื่นซึ่งหนุนใจเราและทำให้เราเข้มแข็ง
ความอกตัญญูคือเจตคติของการไม่รับรู้หรือจำไม่ได้เมื่อคนอื่นช่วยเหลือเราหรือที่แย่กว่านั้นคือเมื่อเรารู้ว่าเราได้รับความช่วยเหลือและไม่ได้ขอบคุณเป็นส่วนตัวหรือต่อหน้าสาธารณชน
การแสดงความกตัญญูและความรู้สึกสำนึกคุณอย่างเงียบๆ มีผลชำระเราให้สะอาดหรือเยียวยาเราได้อย่างดีเยี่ยม ความกตัญญูทำให้เกิดความอบอุ่นทั้งแก่ผู้ให้และผู้รับ
ความกตัญญูที่แสดงต่อพระบิดาบนสวรรค์ในคำสวดอ้อนวอนสำหรับสิ่งที่เรามีทำให้เกิดสันติสุขอันเงียบสงบ—สันติสุขซึ่งไม่ยอมให้เรากัดกร่อนจิตวิญญาณของเราเองเพราะสิ่งที่เราไม่มี ความกตัญญูทำให้เกิดสันติสุขที่ช่วยให้เราเอาชนะความเจ็บปวดจากความยากลำบากและความล้มเหลว ความกตัญญูในทุกวันหมายความว่าเรา แสดงความสำนึกคุณ ต่อสิ่งที่เรามีเวลานี้ไม่ว่าเรามีอะไรในอดีตหรือมีความปรารถนาอะไรในอนาคต การที่เราจำได้และสำนึกคุณต่อของประทานและพรสวรรค์ซึ่งเราได้มาช่วยให้เรา ยอมรับเช่นกันว่าเราต้องการความช่วยเหลือ จากของประทานและพรสวรรค์ที่ผู้อื่นครอบครอง
ความกตัญญูเป็นหลักธรรมของสวรรค์
“เจ้าจงขอบพระทัยพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าในทุกสิ่ง” (คพ. 59:7)
พระคัมภีร์ข้อนี้หมายความว่าเรา แสดงความขอบพระทัย สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เฉพาะสิ่งดีในชีวิตเท่านั้น แต่สำหรับการตรงกันข้ามและความท้าทายของชีวิตที่เพิ่มประสบการณ์และศรัทธาของเราด้วย เรา มอบชีวิตเราไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์โดยตระหนักว่าทั้งหมดที่อุบัติขึ้นจะเป็นไปเพื่อประสบการณ์ของเรา
เมื่อเราสวดอ้อนวอน “ขอให้บังเกิดขึ้นตามพระประสงค์ของพระองค์” เรากำลังแสดงศรัทธาและความกตัญญู เรารับรู้ว่าเราจะ ยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา
ขอให้เรารู้สึกสำนึกคุณอย่างแท้จริงต่อพระกรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับพรทุกประการที่ประทานแก่เราและแสดงความรู้สึกขอบพระทัยในการสวดอ้อนวอนพระบิดาบนสวรรค์ของเรา