ข่าวเยี่ยมสอน
เต็มใจแบกภาระของกันและกัน
ศึกษาเนื้อหานี้ร่วมกับการสวดอ้อนวอนและทูลขอการดลใจให้รู้ว่าจะแบ่งปันอะไร การเข้าใจจุดประสงค์ของสมาคมสงเคราะห์จะเตรียมธิดาของพระผู้เป็นเจ้าให้พร้อมรับพรแห่งชีวิตนิรันดร์อย่างไร
“มีผู้ต้องการความเอาใจใส่ กำลังใจ ความช่วยเหลือ การปลอบโยน ความเมตตาจากเราอยู่รายรอบ—ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นสมาชิกในครอบครัว เพื่อนสนิทมิตรสหาย หรือคนแปลกหน้า “เราคือพระหัตถ์ของพระเจ้าบนแผ่นดินโลกโดยมีพระบัญชาให้รับใช้และให้กำลังใจบุตรธิดาของพระองค์ พระองค์ทรงพึ่งเราแต่ละคน”1
ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์ ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานสูงสุดกล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เริ่มขึ้นในใจท่านเมื่อท่านเข้ามาในศาสนจักร ท่านทำพันธสัญญา และท่านได้รับคำสัญญาที่เริ่มเปลี่ยนอุปนิสัยแท้จริงของท่าน …
“… ท่านสัญญาว่าท่านจะช่วยพระเจ้าทำให้ภาระ [ของผู้อื่น] เบาลงและปลอบโยนพวกเขา ท่านได้รับพลังความสามารถที่จะช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านั้นเมื่อท่านได้รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์”2
“เราต้องการใช้ความสว่างของพระกิตติคุณมองผู้อื่นอย่างที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงมอง—ด้วยความสงสาร ความหวัง และจิตกุศล” จีน บี. บิงแฮมประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญกล่าว “วันนั้นจะมาถึงเมื่อเราจะเข้าใจหัวใจของผู้อื่นอย่างสมบูรณ์และจะขอบพระทัยที่ได้รับพระเมตตา—เช่นเดียวกับที่เราให้ความคิดและคำพูดที่มีจิตกุศลแก่ผู้อื่นในชีวิตนี้ …
“หน้าที่และสิทธิพิเศษของเราคือยอมรับการปรับปรุงใน ทุกคน ขณะที่เราพยายามเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดของเรามากขึ้น”3
เมื่อเราแบกภาระของกันและกันและรักษาพันธสัญญาของเรา เราตระหนักถึงพลังแห่งการเยียวยาของพระเยซูคริสต์มากขึ้น เอ็ลเดอร์เจฟ-ฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า “เมื่อพิจารณาการสูญเสียที่มิอาจเข้าใจได้ของการตรึงกางเขนและการชดใช้ ข้าพเจ้าสัญญากับท่านได้ว่าพระองค์จะไม่ทรงหันพระปฤษฎางค์ให้เราในเวลานี้ เมื่อพระองค์ตรัสกับคนยากจนทางวิญญาณว่า ‘จงมาหาเรา’ พระองค์ทรงหมายความว่าพระองค์ทรงทราบทางออกและพระองค์ทรงทราบทางที่จะขึ้นไป พระองค์ทรงทราบเพราะพระองค์ทรงดำเนินมาแล้ว พระองค์ทรงทราบทางนั้นเพราะพระองค์ ทรงเป็น ทางนั้น”4