Mongolia’s Got Talent!
ผู้เขียนอาศัยอยู่ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา และเมืองอูลานบาตอร์ มองโกเลีย
มีชาวมองโกเลียไม่กี่คนรู้จักศาสนจักร แต่คณะนักร้องประสานเสียงคณะนี้ช่วยเปลี่ยนความไม่รู้นั้น
ภาพถ่ายเอื้อเฟื้อโดย ออดเจอเรล โอชีรจาฟ; ภาพฝูงชนจาก Getty images
เดือนธันวาคมปีที่แล้วคณะนักร้องประสานเสียงจากสเตคอูลานบาตอร์ มองโกเลียอีสต์และเวสต์เข้าถึงรอบรองสุดท้ายของรายการทีวีระดับประเทศชื่อ Mongolia’s Got Talent คณะนักร้องประสานเสียง—ประกอบด้วยนักเรียนเซมินารีและสถาบัน กึ่งหนึ่งเป็นอดีตผู้สอนศาสนา—ไม่คิดว่าพวกเขาจะมีโอกาสแบ่งปันความเชื่อและพรสวรรค์ของพวกเขา
ในปี 2015 สาวกเจ็ดสิบภาคคนหนึ่งไปเยี่ยมมองโกเลียและให้การอบรมเรื่องงานประชาสัมพันธ์ของศาสนจักร ออดเจอเรล โอชิรจาฟประธานสเตคอูลานบาตอร์ มองโกเลียเวสต์ไม่ทราบจะดำเนินการอย่างไร จากนั้นในเดือนมกราคม ปี 2016 น้องเขยของเขาโทรมาและพูดว่า “ผมกำลังดู Mongolia’s Got Talent … ผมมีความรู้สึกแรงกล้าว่าคณะนักร้องประสานเสียงของศาสนจักรพี่ควรเข้าร่วมการแข่งขัน”
ประธานโอชิรจาฟสนทนาแนวคิดนี้กับซิสเตอร์อูนูรจาร์กัล ปูเรฟผู้อำนวยการคณะนักร้องประสานเสียง เธอกับสมาชิกคณะนักร้องตื่นเต้นกับโอกาสนี้ คณะนักร้องประสานเสียงคณะนี้รู้จักกันในชื่อว่าไซอัน หรือ “SION” ตัวย่อในภาษามองโกเลียของ วิญญาณ ศรัทธา จิตใจ และ ความสามัคคี
รอบแรก
รอบแรกของการประกวดในเดือนมีนาคม 2016 SION ร้องสองเพลงผสมกัน ผู้ตัดสินคนหนึ่งบอกว่า “ผมเห็นใบหน้าของพวกคุณสว่างไสว! … เราต้องนำวิดีโอของพวกคุณลงยูทูปเพื่อให้ชาวโลกได้เห็นการแสดงครั้งนี้”
ผู้ตัดสินอีกคนหนึ่งถามคณะนักร้องว่าพวกเขาจะทำอะไรถ้าชนะรางวัลใหญ่ 50,000 ดอลลาร์ เขาประทับใจเมื่อคณะนักร้องตอบว่าพวกเขาต้องการบริจาคเงินทั้งหมดให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งเพื่อเป็นของขวัญพิเศษวันคริสต์มาส
รอบสอง
ในบรรดาผู้เข้าประกวด 400 คน SION เป็นหนึ่งใน 200 ที่ผ่านเข้ารอบสอง แต่กำหนดการแสดงของพวกเขาตรงกับการประชุมเยาวชนพหุสเตคซึ่งครึ่งหนึ่งของสมาชิกคณะนักร้อง 35 ชีวิตต้องเข้าร่วม คณะนักร้องตัดสินใจไปแข่งรอบสอง พวกเขาว่าจ้างรถโดยสารคันหนึ่งและหลังจากการแสดงพวกเขาเดินทางแปดชั่วโมงไปร่วมการประชุมเยาวชน
จากการแสดง 200 รายการ SION เป็นหนึ่งใน 32 รายการที่เข้ารอบรองสุดท้าย คณะนักร้องเริ่มเป็นจุดสนใจในสื่อสังคมเกี่ยวกับ Mongolia’s Got Talent
รอบรองสุดท้าย
พวกเขาฝึกตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนเพื่อเตรียมการแข่งขันรอบรองสุดท้าย ในวันแสดง พวกเขาตื่นตี 4 ในสภาพอากาศ -29 องศาฟาเรนไฮต์ (-34 องศาเซลเซียส) ซิสเตอร์โนมูอันเจอเรล เอคตูวชินสมาชิกคณะนักร้องกล่าวว่า “หลายคนในกลุ่มของเราเป็นหวัด แต่พวกเขาดีขึ้นเมื่อเราสวดอ้อนวอนให้”
คนทั่วมองโกเลียดูการแสดงและส่งข้อความโหวต“
บราเดอร์ชิเชียร์ เปเรฟดอร์จกล่าวว่า “ทีวีรายการนี้ส่งผลให้คนจำนวนมากปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อศาสนจักร”
พร
ตัวสมาชิกคณะนักร้องเองก็ได้รับพรเช่นกัน บราเดอร์ออดเจอเรล ตูมูรซูคห์กล่าวว่า “เราทุ่มเทความสนใจและเวลาตลอดปีขณะบริหารจัดการงานของเราและชีวิตด้านอื่น แม้จะยากแต่เราก็ได้รับพรมากมาย ผมได้ฝึกบริหารเวลาของผมและเสียสละเพื่อพระเจ้า”
นอกจากจะเพิ่มพูนศรัทธาของสมาชิกในคณะนักร้องประสานเสียงแล้ว พวกเขามีความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น พัฒนามิตรภาพ และเรียนรู้ความสามัคคีเช่นกัน “การร้องเพลงในคณะนักร้องประสานเสียงช่วยให้เราเรียนรู้การให้อภัยและสนับสนุนกัน” บราเดอร์แกนบาตาร์ อูลซีดูเรนกล่าว “เราสามัคคีกันมากขึ้น” ซิสเตอร์บิลกูอันซายา ตุนกาลากตูลเรียนรู้ “ว่าดิฉันไม่ควรสงสัยตนเองหรือคิดว่าดิฉันทำบางอย่างไม่ได้”
บราเดอร์บายาร์ตสกต์ ลหาจวาจาฟกล่าวว่า “การร้องเพลงในคณะนักร้องประสานเสียงนำพรมากมายมาให้ครอบครัวผม อีกทั้งช่วยให้ผมได้รับคำตอบที่ผมแสวงหามานานพอสมควร ผู้นำของเราเสนอทางออกให้เรา … เป็นการยืนยันประจักษ์พยานของผมว่าผู้นำของเราได้รับเรียกจากพระผู้เป็นเจ้า”
“เมื่อดิฉันเข้าร่วมใน Mongolia’s Got Talent” ซิสเตอร์โอนอน ดาลาอคูกล่าว “ดิฉันเรียนรู้ว่าการให้กำลังใจและสนับสนุนกัน [เป็น] กุญแจสู่ความสำเร็จ [ของเรา]” ความรับผิดชอบของซิสเตอร์ดาลาอคูครอบคลุมถึงการจัดระเบียบสมาชิกในกลุ่ม ซึ่งช่วยเพิ่มพลังความสามารถในการเป็นผู้นำของเธอ เธอเสริมว่า “เรารู้สึกว่าพระเจ้าทรงนำทางและมีอิทธิพลต่อเรา พวกเราหลายคนป่วย มีงานยุ่ง เหนื่อย และรู้สึกหนักใจ แต่เมื่อเราสวดอ้อนวอนด้วยกัน เราจะพบพลังมากขึ้นและปรารถนาจะอดทน”
ถึงแม้คณะนักร้องได้รับเสียงโหวตไม่มากพอจะเข้ารอบสุดท้าย แต่การแสดงของพวกเขาทำให้ศาสนจักรปรากฏแก่สายตาประชาชนทั่วมองโกเลีย ประธานโอชีรจาฟอธิบายว่า “เราเชื่อฟังงานมอบหมายจากผู้นำฐานะปุโรหิต และพระเจ้าทรงเตรียมทาง … เวลานี้ทั้งเมือง [อูลานบาตอร์] พูดถึงการเข้าร่วม Mongolia’s Got Talent ของคณะนักร้องประสานเสียงมอรมอน