การเดินทาง 30 ปีไปพระวิหาร
ฟรานซิสโก ดับเบิลยู. เฟียร์โร
ลิมา เปรู
หลายเดือนหลังจากผมรับบัพติศมา ออสวัลโด น้องชายผมเข้าร่วมอีกนิกายหนึ่งและมีส่วนร่วมแข็งขันในที่ประชุมของนิกายนั้น แต่ผมต้องการให้ออสวัลโดรู้ว่าสิ่งที่ผมรู้เป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมต้องการให้เขาเชื่อมโยงกับถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์
แต่ละเดือน เมื่อผมได้รับนิตยสาร เลียโฮนา ผมจะแบ่งปันให้กับออสวัลโด ผมแนะนำว่าบางหัวข้อในนิตยสารจะช่วยเขาเตรียมสำหรับการประชุมในศาสนจักรของเขา ผมดีใจเมื่อเขายอมรับคำแนะนำ หลายปีผ่านไป ผมเสียใจที่เห็นว่าน้องชายจะไม่ยอมรับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์
เช้าวันหนึ่งออสวัลโดบอกครอบครัวเราว่าเขากำลังวางแผนจะออกจากบ้านของเราในเอกวาดอร์และเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ เขายอมรับพรจากผมในวันที่เขาออกเดินทาง นั่นเป็นชั่วขณะที่ผมตื้นตันใจเพราะพระวิญญาณทรงกระซิบต่อใจผมว่าการเดินทางครั้งนี้จะนำออสวัลโดเข้ามาใกล้พระผู้ช่วยให้รอดและศาสนจักรของพระองค์มากขึ้น
ในสวิตเซอร์แลนด์ ออสวัลโดพบผู้สอนศาสนาและในที่สุดก็เชิญพวกเขาไปบ้าน ตลอดช่วงเวลานั้นเขาสร้างความสัมพันธ์ฉันเพื่อนสนิทกับผู้สอนศาสนา แต่เขาบอกผมว่าถ้าผู้สอนศาสนาพูดเรื่องบัพติศมา เขาจะไม่ต้อนรับพวกเขาอีก ลองนึกภาพความประหลาดใจและปีติของผมเมื่อผมได้รับอีเมลจากเขาบอกว่าเขาจะรับบัพติศมา ผมเข้าร่วมศาสนจักรในปี 1981 ออสวัลโดรับบัพติศมาในอีก 20 ปีต่อมาในเดือนพฤษภาคม ปี 2001 เขาได้รับเอ็นดาวเม้นท์ในเดือนกรกฎาคม ปี 2002 และรับการผนึกกับภรรยาของเขาในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2003
เมื่อออสวัลโดกลับไปเอกวาดอร์ เขาแสดงประจักษ์พยานในการประชุมศีลระลึก เขาพูดด้วยน้ำตาคลอว่า “พี่ชายผมแบ่งปันถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์กับผม ถ้อยคำเหล่านี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผมขณะผมเตรียมการประชุมในโบสถ์ที่ผมเข้าร่วมตอนนั้น และคนจำนวนมากได้รับการสั่งสอนแบบนี้ ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์เปลี่ยนชีวิตผม ผมรู้ผ่านถ้อยคำเหล่านั้นว่าพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์อยู่บนแผ่นดินโลกในความสมบูรณ์อีกครั้งพร้อมด้วยพลังและสิทธิอำนาจ”
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ผมกับออสวัลโดรับการผนึกกับพ่อแม่ของเราในพระวิหารไกวย์อากิล เอกวาดอร์ ถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์เป็นพรแก่ครอบครัวผมชั่วนิรันดร์