คำถามและคำตอบเกี่ยวกับ “ประจักษ์พยานอันบริสุทธิ์”

“ให้ประจักษ์พยานของท่านมีความสําคัญสูงสุด”¹—ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

ในฐานะหัวหน้าผู้พิพากษา แอลมาเห็นว่า “ผู้คนของศาสนจักรเริ่มจองหองขึ้น” (แอลมา 4:6) และ “หมกมุ่นกับความมั่งคั่งและกับสิ่งไร้ประโยชน์ของโลก, จนพวกเขาเริ่มดูหมิ่น, กันและกัน” (แอลมา 4:8) แทนที่จะออกกฎหมาย แอลมาแต่งตั้งคนหนึ่งให้ดํารงตําแหน่งหัวหน้าผู้พิพากษา และอุทิศตนสั่งสอนพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าให้แก่ผู้คน “โดยไม่เห็นทางใดแล้วที่ท่านจะได้ช่วยพวกเขาให้กลับคืนมานอกจากกดดันด้วยประจักษ์พยานอันบริสุทธิ์” (แอลมา 4:19)

ประจักษ์พยานมีส่วนสําคัญอะไรบ้าง?

เราสามารถได้รับประจักษ์พยานแห่งหลักธรรมพระกิตติคุณทั้งหมด แต่ความจริงพื้นฐานคือ:

พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระบิดาของเราในสวรรค์และทรงรักเรา
พระเยซูคริสต์ทรงพระชนม์ พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา
โจเซฟ สมิธคือศาสดาพยากรณ์ที่ได้รับเรียกให้ฟื้นฟูพระกิตติคุณ
ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเป็นศาสนจักรที่แท้จริงเพียงแห่งเดียวในโลกและได้รับการนำโดยศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่²

ประจักษ์พยานเป็นเพียงคําพูดหรือไม่?

“ท่านแสดงประจักษ์พยานเมื่อท่านแบ่งปันความรู้สึกทางวิญญาณกับผู้อื่น …

“อีกวิธีในการแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านคือผ่านทางพฤติกรรมอันชอบธรรม ประจักษ์พยานของท่านในพระเยซูคริสต์ไม่ใช่เพียงสิ่งที่ท่านพูด—แต่เป็นตัวตนของท่าน” (แกรีย์ อี. สตีเวนสัน แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง, “การบํารุงเลี้ยงและการแสดงประจักษ์พยานของท่าน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2022, 112)

พลังของประจักษ์พยานอันบริสุทธิ์คืออะไร?

ประธานบริคัม ยังก์นึกถึงผลของประจักษ์พยานที่จริงใจและเรียบง่ายของ “ชายผู้หนึ่งซึ่งไม่มีวาทศิลป์หรือทักษะในการพูดต่อหน้าสาธารณชนกล่าวได้แต่เพียงว่า ‘ข้าพเจ้ารู้โดยอํานาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง ว่าโจเซฟ สมิธคือศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้า’ พระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเกิดจากชายผู้นั้นทําให้ความเข้าใจของข้าพเจ้าสว่าง … ; ข้าพเจ้าถูกรายล้อมและเต็มไปด้วยประจักษ์พยาน และรู้ด้วยตนเองว่าประจักษ์พยานของชายผู้นั้นเป็นความจริง” (“Discourse,” Deseret News, Feb. 1854, 4)

จะเป็นอย่างไรถ้าคนไม่ยอมรับประจักษ์พยานของฉัน?

หญิงสาวคนหนึ่งแบ่งปันประจักษ์พยานกับผู้มาเยือนที่เท็มเปิลสแควร์ในซอลท์เลคซิตี้เมื่อชายคนหนึ่งท้าทายเธอด้วยคําถามที่ไม่เป็นมิตร

“ไม่รู้สิ” เธอตอบ “ฉันบอกคุณได้แค่สิ่งที่ฉันรู้”

เขาตัดบทเธอ “อย่าแสดงประจักษ์พยานกับผม”

“นั่นคือทั้งหมดที่ฉันจะพูด” เธอตอบ

“มีจะพูดแค่นี้สินะ” เขาย้อน

การสนทนาจบลง แต่เธอไม่สบายใจ ขณะใคร่ครวญ เธอตระหนักว่าประจักษ์พยานของเธอนั้นมากกว่า “แค่นี้” สิ่งนั้นมีความหมายทุกอย่างสำหรับเธอ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทุกอย่างในชีวิตเธอ

ฉันจะแบ่งปันประจักษ์พยานของฉันในทางใดได้บ้าง?

เรามักจะนึกถึงการแสดงประจักษ์พยานในการประชุมศีลระลึกในการอดอาหารวันอาทิตย์ แต่มีอีกหลายวิธีที่จะแบ่งปันความรู้สึกทางวิญญาณของเรา:

เขียนจดหมายถึงลูกๆ หรือหลานของท่านโดยแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์
เก็บรักษาประจักษ์พยานของท่านไว้ใน FamilySearch “ความทรงจำ” เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ลูกหลานของท่าน
โพสต์ในโซเชียลมีเดียว่าพระเยซูคริสต์ทรงมีความหมายต่อท่านอย่างไร
ในการประชุมวันอาทิตย์ ให้แบ่งปันว่าหลักธรรมพระกิตติคุณที่กําลังสนทนาเป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไร