2016
เราเป็นแขกแปลกหน้า
พฤษภาคม 2016


“เราเป็นแขกแปลกหน้า”

เมื่อท่านตัดสินใจร่วมกับการสวดอ้อนวอนว่าท่านจะทำอะไรได้บ้าง—ตามเวลาและสภาวการณ์ของท่านเอง—ที่จะรับใช้ผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในละแวกบ้านและชุมชนของท่าน

ในวันจัดตั้งสมาคมสงเคราะห์ เอมมา สมิธประกาศว่า “เราจะทำบางสิ่งที่พิเศษมาก … เราคาดหวังโอกาสพิเศษและคำร้องขอเร่งด่วน”1 คำร้องขอเร่งด่วนและโอกาสพิเศษมักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งในสมัยนั้น—เช่นเดียวกับในสมัยนี้

คำร้องขอเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปี 1856 ในการประชุมใหญ่สามัญเมื่อประธานบริคัม ยังก์ประกาศต่อที่ประชุมว่ากลุ่มผู้บุกเบิกรถลากยังเดินทางอยู่และเวลาล่วงเลยเข้าฤดูหนาวนานมากแล้ว ท่านประกาศว่า “ศรัทธา ศาสนา และการประกาศตนว่าเป็นคนเคร่งศาสนาของท่านจะไม่ช่วยให้จิตวิญญาณเดียวของท่านรอดในอาณาจักรซีเลสเชียลของพระผู้เป็นเจ้า เว้นแต่ท่านจะทำตามหลักธรรมที่ข้าพเจ้ากำลังสอนท่านขณะนี้ จงออกไปพาคนในทุ่งราบมาที่นี่เดี๋ยวนี้ และทำสิ่งเหล่านั้นอย่างเคร่งครัดซึ่งเราเรียกว่าทางโลก … หาไม่แล้วศรัทธาของท่านจะเสียเปล่า”2

เราระลึกถึงชายเหล่านั้นด้วยความสำนึกคุณ ผู้ที่บ่ายหน้าออกไปช่วยชีวิตวิสุทธิชนที่กำลังทุกข์ทรมาน แต่บรรดาพี่น้องสตรีทำอะไรเล่า

“ซิสเตอร์ [ลูซี เมเซิร์ฟ] สมิธบันทึกไว้ … ว่าหลังจากประธานยังก์กระตุ้นผู้เข้าร่วมการประชุม พวกเขาปฏิบัติตามทันที … สตรี [ถอด] กระโปรงชั้นใน [กระโปรงชั้นในขนาดใหญ่ที่เป็นแฟชั่นในสมัยนั้นและให้ความอบอุ่นด้วย] ถุงน่อง และทุกสิ่งที่พวกเธอให้ได้ ตรงนั้นเลยในแทเบอร์นาเคิล [หลังเก่า] และกองไว้ในเกวียนเพื่อส่งไปให้วิสุทธิชนที่เทือกเขา”3

หลายสัปดาห์ต่อมา ประธานบริคัม ยังก์ให้วิสุทธิชนมารวมกันอีกครั้งในแทเบอร์นาเคิลหลังเก่าเมื่อหน่วยกู้ภัยและกลุ่มรถลากใกล้จะมาถึงซอลท์เลคซิตี้ ท่านวิงวอนวิสุทธิชนด้วยความเร่งด่วน—โดยเฉพาะพี่น้องสตรี—ให้ดูแลผู้ที่ทุกข์ยาก และให้อาหารพวกเขา และรับพวกเขาไว้ โดยกล่าวว่า “พวกท่านบางคนจะพบว่าเท้าพวกเขาเย็นจนแข็งไปถึงข้อเท้า บางคนถึงหัวเข่าและมือของบางคนเย็นเฉียบจนแข็ง … เราต้องการให้ท่านรับพวกเขาเสมือนเป็นลูกของท่านเอง และมีความรู้สึกต่อพวกเขาเหมือนลูกของท่าน”4

ลูซี เมเซิร์ฟ สมิธบันทึกไว้เช่นกันว่า

“เราทำทั้งหมดที่ทำได้เพื่อปลอบโยนผู้ขัดสนด้วยความช่วยเหลือของพี่น้องชายหญิงที่แสนดี … มือและเท้าของพวกเขาแข็งและเย็นเฉียบ … เราจะไม่หยุดทุ่มเทเรี่ยวแรงของเราจนกว่าทุกคนจะอบอุ่นสบาย. …

“กล่าวได้ว่า ดิฉันไม่เคยพึงพอใจ หรือเพลิดเพลินใจกับงานที่เคยทำมาในชีวิตมากไปกว่างานนี้ เพราะมีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแรงกล้า …

“คนที่เต็มใจช่วยจะทำอะไรต่อไปได้บ้าง”5

พี่น้องสตรีที่รัก เรื่องราวนี้อาจเปรียบได้กับสมัยของเราและผู้ที่กำลังทุกข์ยากทั่วโลก มี “โอกาสพิเศษ” อีกอย่างหนึ่งสัมผัสใจเรา

เต็นท์ในศูนย์ผู้ลี้ภัย
เด็กๆในศูนย์ผู้ลี้ภัย
สตรีในศูนย์ผู้ลี้ภัย
ครอบครัวในศูนย์ผู้ลี้ภัย
เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ล้อมรอบโดยเด็กๆในศูนย์ผู้ลี้ภัย
ทักทายครอบครัวผู้ลี้ภัย
เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์สวมกอดผู้ลี้ภัย

มีผู้ลี้ภัยมากกว่า 60 ล้านคนทั่วโลกรวมถึงผู้ที่โดนบังคับให้ย้ายถิ่นฐาน ครึ่งหนึ่งของคนเหล่านั้นเป็นเด็ก6 “บุคคลเหล่านี้เผชิญกับความยากลำบากใหญ่หลวงและกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ใน … ประเทศและวัฒนธรรมใหม่ ขณะที่ [บางครั้ง] มีองค์กรที่ช่วยเหลือพวกเขาให้มีสถานที่อยู่อาศัยและความจำเป็นพื้นฐานต่างๆ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือเพื่อนและมิตรสหายผู้สามารถช่วยให้พวกเขา [ปรับตัวเข้า] กับบ้านใหม่ บุคคลที่สามารถช่วยพวกเขาเรียนรู้ภาษา เข้าใจระบบ และรู้สึกถึงมิตรไมตรี”7

อีเวตต์ บูกิงโก

ฤดูร้อนที่ผ่านมาดิฉันพบซิสเตอร์อีเวตต์ บูกิงโก สมัยที่เธออายุ 11 ขวบเธอหลบหนีจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งหลังจากคุณพ่อของเธอเสียชีวิตและพี่ชายสามคนหายสาบสูญไปจากภูมิภาคของโลกที่ถูกสงครามทำลายล้าง ในที่สุดอีเวตต์และคนที่เหลือในครอบครัวอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านในฐานะผู้ลี้ภัยเป็นเวลาหกปีครึ่งจนพวกเขาสามารถย้ายไปบ้านที่ถาวร ที่ซึ่งพวกเขาได้รับความอนุเคราะห์จากสามีภรรยาคู่หนึ่งที่คอยดูแลเอาใจใส่ช่วยเหลือด้านการเดินทาง โรงเรียน และสิ่งอื่นๆ เธอบอกว่าพวกเขา “เปรียบเสมือนคำตอบการสวดอ้อนวอนของเรา”8 คุณแม่ผู้สวยงามและน้องสาวผู้น่ารักของเธออยู่กับเราค่ำคืนนี้ ร้องเพลงในคณะนักร้องประสานเสียง ดิฉันสงสัยหลายครั้งตั้งแต่พบสตรีผู้ยอดเยี่ยมเหล่านี้ “จะเป็นอย่างไรถ้าเรื่องราว ของพวกเธอ คือเรื่องราว ของดิฉัน

ในฐานะพี่น้องสตรีเรามีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งในคลังของพระเจ้าที่จะช่วยเหลือบุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์ คลังของพระองค์ไม่ได้มีเพียงสิ่งของเท่านั้นแต่ยังมีเวลา พรสวรรค์ ทักษะ และลักษณะแห่งสวรรค์ของเราด้วย ซิสเตอร์โรสแมรี เอ็ม. วิกซอมสอนว่า “ลักษณะแห่งสวรรค์ในตัวเราก่อให้เกิดความปรารถนาจะยื่นมือช่วยเหลือผู้อื่นและกระตุ้นให้เราลงมือทำ”9

โดยที่รับรู้ลักษณะแห่งสวรรค์ของเรา ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันแนะนำว่า

“เราต้องการสตรีผู้ที่รู้วิธีทำให้สิ่งสำคัญเกิดขึ้นด้วยศรัทธาของพวกเธอและผู้ที่เป็นผู้ปกป้องศีลธรรมและครอบครัวที่กล้าหาญในโลกที่เต็มไปด้วยบาป … สตรีผู้รู้วิธีเรียกหาพลังแห่งสวรรค์เพื่อปกป้องและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ลูกๆ และครอบครัว …

“… ไม่ว่าท่านแต่งงานหรือเป็นโสด ท่านผู้เป็นพี่น้องสตรีมีความสามารถเฉพาะตัวและสัญชาตญาณพิเศษที่ท่านได้รับซึ่งเป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้า เราพี่น้องชายไม่สามารถลอกเลียนอิทธิพลที่เป็นเอกลักษณ์ของท่านได้”10

จดหมายจากฝ่ายประธานสูงสุดที่ส่งให้ศาสนจักรวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2015 แสดงถึงความห่วงใยและความเมตตาสงสารผู้คนหลายล้านคนที่ต้องทิ้งบ้านเรือนของพวกเขาเพื่อแสวงหาความช่วยเหลือจากความขัดแย้งทางการเมืองและความยากลำบากอื่นๆ ฝ่ายประธานสูงสุดเชื้อเชิญแต่ละคน ครอบครัว และหน่วยศาสนจักรให้มีส่วนร่วมบำเพ็ญประโยชน์เหมือนพระคริสต์ในโครงการบรรเทาทุกข์ผู้ลี้ภัยในท้องที่ และบริจาคให้กองทุนเพื่อมนุษยธรรมของศาสนจักร หากทำได้

ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญ เยาวชนหญิง และปฐมวัยพิจารณาวิธีขานรับคำเชื้อเชิญของฝ่ายประธานสูงสุด เราทราบว่าท่านทั้งหลาย พี่น้องสตรีผู้เป็นที่รักของเราทุกวัย มาจากวิถีชีวิตที่แตกต่างกันและอาศัยอยู่ในสภาวการณ์ที่หลากหลาย สมาชิกแต่ละคนในความเป็นพี่น้องสตรีทั่วโลกได้ทำพันธสัญญาเมื่อบัพติศมาว่าจะ “ปลอบโยนคนที่ต้องการการปลอบโยน”11 กระนั้นจำไว้ว่าเราไม่ควรวิ่งเร็วเกินกำลังของเรา12

โดยคำนึงถึงความจริงเหล่านี้ เราได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติงานบรรเทาทุกข์ ซึ่งเรียกว่า “เราเป็นแขกแปลกหน้า” เราหวังว่าท่านจะตัดสินใจร่วมกับการสวดอ้อนวอนว่าท่านจะทำอะไรได้บ้าง—ตามเวลาและสภาวการณ์ของท่านเอง—ที่จะรับใช้ผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในละแวกบ้านและชุมชนของท่าน นี่เป็นโอกาสในการรับใช้ตัวต่อตัว ในครอบครัว และโดยองค์กรเพื่อผูกมิตร ให้คำปรึกษา และบำเพ็ญประโยชน์อื่นๆ เหมือนพระคริสต์ และเป็นวิธีหนึ่งที่พี่น้องสตรีรับใช้ได้

ในความพยายามร่วมกับการสวดอ้อนวอน เราควรประยุกต์ใช้คำแนะนำอันชาญฉลาดของกษัตริย์เบ็นจามินที่ให้ไว้กับผู้คนของท่านหลังจากท่านกระตุ้นให้พวกเขาเอาใจใส่คนขัดสน “จงดูว่าทำสิ่งทั้งหมดนี้ด้วยปัญญาและระเบียบ”13

พี่น้องทั้งหลาย เรารู้ว่าการเอื้อมออกไปช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความรักมีความหมายต่อพระเจ้า ลองพิจารณาการตักเตือนจากพระคัมภีร์เหล่านี้

“คนต่างด้าวที่อาศัยอยู่กับพวกเจ้านั้นก็เป็นเหมือนกับคนท้องถิ่นของเจ้า จงรักเขาเหมือนกับรักตัวเอง”14

“อย่าละเลยที่จะต้อนรับแขกแปลกหน้า เพราะว่าโดยการทำเช่นนั้น บางคนก็ได้ต้อนรับทูตสวรรค์โดยไม่รู้ตัว”15

และพระผู้ช่วยให้รอดตรัสว่า

“เพราะว่าเมื่อเราหิว พวกท่านก็จัดหาให้เรากิน เรากระหายน้ำ ท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า พวกท่านก็ต้อนรับเรา

“เราเปลือยกายพวกท่านก็ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เมื่อเราเจ็บป่วยท่านก็มาดูแลเรา”16

เหรียญของหญิงม่าย

ด้วยความรัก พระผู้ช่วยให้รอดทรงรับรู้ถึงหญิงม่ายผู้ถวายเหรียญเพียงสองอันเพราะเธอทำสุดกำลังของเธอแล้ว17 พระองค์ทรงเล่าอุปมาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดีเช่นกัน—ซึ่งพระองค์ทรงสรุปด้วยพระดำรัสที่ว่า “ท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้น”18 บางครั้งการเอื้อมออกไปช่วยเหลือเป็นสิ่งที่ไม่สะดวกสบาย แต่เมื่อเราทำงานด้วยกันในความรักและความเป็นหนึ่งเดียว เราคาดหวังความช่วยเหลือจากสวรรค์ได้

ในพิธีศพธิดาผู้แสนดีคนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้า บางคนเล่าว่าสตรีผู้นี้ ในฐานะประธานสมาคมสงเคราะห์สเตค ทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ในสเตคเพื่อบริจาคผ้านวมให้ความอบอุ่นแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากในโคโซโวช่วงทศวรรษ 1900 เช่นเดียวกับชาวสะมาเรียผู้ใจดี เธอทำมากกว่านั้นเมื่อเธอกับลูกสาวขับรถกระบะซึ่งเต็มไปด้วยผ้านวมจากลอนดอนไปโคโซโว ระหว่างเดินทางกลับบ้านเธอได้รับความประทับใจทางวิญญาณอย่างสุดซึ้งซึ่งฝังลึกในใจเธอ ความรู้สึกนั้นคือ “สิ่งที่เจ้าทำเป็นสิ่งที่ดีมาก บัดนี้ จงกลับบ้าน เดินข้ามถนน และรับใช้เพื่อนบ้านของเจ้า!”19

พิธีศพเต็มไปด้วยเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจอีกมากมายที่สตรีผู้ซื่อสัตย์คนนี้ตระหนักและขานรับคำร้องขอพิเศษและเร่งด่วน—และโอกาสธรรมดาเช่นกัน—ของผู้ที่อยู่ในแวดวงอิทธิพลของเธอ ตัวอย่างเช่น เธอเปิดบ้านและเปิดใจช่วยคนหนุ่มสาวที่กำลังประสบปัญหาในทุกโมงยาม — ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน

พี่น้องสตรีที่รัก เราเชื่อมั่นในความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์ได้เมื่อเราคุกเข่าทูลขอการนำทางจากสวรรค์เพื่อเป็นพรให้บุตรธิดาของพระองค์ พระบิดาบนสวรรค์ พระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเยซูคริสต์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงพร้อมที่จะช่วย

ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์แสดงประจักษ์พยานอันทรงพลังต่อสตรีของศาสนจักร ดังนี้

“พระบิดาบนสวรรค์ทรงฟังและทรงตอบคำสวดอ้อนวอนแห่งศรัทธาของท่านสำหรับการนำทางและความช่วยเหลือให้มีความอดทนในการรับใช้เพื่อพระองค์

“พระองค์จะทรงส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มาให้ท่านและผู้ที่ท่านดูแล ท่านจะได้รับการเสริมสร้างให้เข้มแข็งและได้รับการดลใจให้รู้ถึงขีดจำกัดและขอบเขตแห่งความสามารถในการรับใช้ของท่าน พระวิญญาณจะทรงปลอบโยนท่านเมื่อท่านสงสัยว่า ‘ฉันทำเพียงพอไหม’”20

เมื่อเราพิจารณาถึง “คำร้องขอเร่งด่วน” ของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา ขอให้เราถามตัวเราเองว่า “จะเป็นอย่างไรถ้าเรื่องราว ของพวกเขา คือเรื่องราว ของฉัน” ขอให้เราแสวงหาการดลใจ ทำตามความประทับใจที่เราได้รับ และเอื้อมออกไปในความเป็นหนึ่งเดียวเพื่อช่วยคนขัดสนเมื่อเรามีความสามารถและได้รับการดลใจให้ทำเช่นนั้น บางทีจะมีบางคนพูดถึงเรา ดังที่พระผู้ช่วยให้รอดตรัสถึงสตรีผู้ปฏิบัติต่อพระองค์ ว่า “นางทำสิ่งดีสำหรับเรา … หญิงคนนี้ทำสุดกำลังของนางแล้ว”21 ดิฉันเรียกสิ่งนั้นว่าพิเศษ! ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. เอมมา สมิธ, ใน Daughters in My Kingdom: The History and Work of Relief Society (2011), 14.

  2. บริคัม ยังก์, ใน Daughters in My Kingdom, 36.

  3. Daughters in My Kingdom, 36–37.

  4. บริคัม ยังก์, ใน James E. Faust, “Go Bring Them in from the Plains,” Liahona, Nov. 1997, 7; see also LeRoy R. and Ann W. Hafen, Handcarts to Zion: The Story of a Unique Western Migration 1856–1860 (1960), 139 ด้วย.

  5. Lucy Meserve Smith, in Jill Mulvay Derr and others, eds., The First Fifty Years of Relief Society: Key Documents in Latter-day Saint Women’s History (2016), 217, 218, spelling and punctuation standardized; ดู Daughters in My Kingdom, 37 ด้วย.

  6. ดู “Facts and Figures about Refugees,” unhcr.org.uk/about-us/key-facts-and-figures.html.

  7. 40 Ways to Help Refugees in Your Community,” Sept. 9, 2015, mormonchannel.org.

  8. อีเมลจาก อีเวตต์ บูกิงโก, 12 มี.ค. 2016.

  9. โรสแมรี เอ็ม. วิกซอม, “ค้นพบความเป็นพระเจ้าในตัวท่าน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 8. เอมิลี วูดแมนซี หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากความช่วยเหลือเมื่อปี 1856 ในกลุ่มรถลากวิลลี่ อธิบายถึงลักษณะแห่งสวรรค์ในวิธีนี้ (โดยผู้พูดปรับเปลี่ยนเล็กน้อย):

    หน้าที่ของเทพทั้งหลายถูกมอบหมายแก่สตรี;

    เราขออ้างดั่งน้องพี่สิ่งนี้ของประทาน:

    เพื่อทำแต่ความเมตตา [และเหมือนพระคริสต์],

    เพื่อให้พร [ในพระนามพระผู้ช่วยให้รอด] . (“ดั่งพี่น้องในไซอัน,” เพลงสวด, บทที่ 156)

  10. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “คำวิงวอนต่อพี่น้องสตรีของข้าพเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 96, 97.

  11. โมไซยาห์ 18:9.

  12. ดู โมไซยาห์ 4:27.

  13. โมไซยาห์ 4:27.

  14. เลวีนิติ 19:34.

  15. ฮีบรู 13:2.

  16. มัทธิว 25:35–36.

  17. ดู ลูกา 21:1–4.

  18. ลูกา 10:37.

  19. พิธีศพโรสแมรี เคอร์ติส ไนเดอร์, ม.ค. 2015.

  20. เฮนรีย์ บี. อายริงก์, “ผู้ดูแล,”เลียโฮนา, พ.ย. 2012, 124.

  21. มาระโก 14:6, 8.