2017
เล็งตรงกลาง
มกราคม 2017


ข่าวสารจากฝ่ายประธานสูงสุด

เล็ง ตรงกลาง

Woman shooting bow and arrow

ภาพถ่าย © Serg Myshkovsky/Getty Images

เมื่อไม่นานมานี้ข้าพเจ้าเฝ้าดูคนกลุ่มหนึ่งฝึกยิงธนู แค่ดูก็ทำให้ข้าพเจ้าเห็นชัดว่าหากท่านต้องการสันทัดเรื่องคันธนูกับลูกธนูท่านต้องใช้เวลาและการฝึกฝน

ข้าพเจ้าคิดว่าท่านไม่สามารถมีชื่อเสียงด้านการเป็นนักยิงธนูที่ประสบความสำเร็จได้ถ้าท่านยิงใส่ผนังเปล่าแล้ววาดรูปเป้าไว้รอบๆ ลูกธนู ท่านต้องฝึกศิลปะของการหาเป้าและยิงถูกเป้า

การวาดเป้า

การยิงธนูออกไปก่อนแล้ววาดรูปเป้าทีหลังอาจดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย แต่บางครั้งตัวเราสะท้อนพฤติกรรมเช่นนั้นในสภาวการณ์อื่นของชีวิต

ในฐานะสมาชิกศาสนจักร บางครั้ง เรามีแนวโน้มจะยึดติดกับโปรแกรม ประเด็น และแม้หลักคำสอนพระกิตติคุณที่ดูเหมือนน่าสนใจ สำคัญ หรือเราพอใจ เราถูกล่อลวงให้วาดเป้าไว้รอบๆ โดยทำให้ตัวเราเชื่อว่าเรากำลังเล็งตรงกลางเป้าพระกิตติคุณ

เป็นเรื่องง่ายที่จะทำเช่นนั้น

ตลอดทุกยุคทุกสมัยเราได้รับคำแนะนำและการดลใจที่ยอดเยี่ยมจากศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า เราได้รับคำแนะนำและความกระจ่างจากสิ่งพิมพ์และหนังสือคู่มือต่างๆ ของศาสนจักรเช่นกัน เราเลือกพระกิตติคุณหัวข้อที่เราชื่นชอบได้สะดวก วาดเป้ายิงไว้รอบๆ และอวดอ้างว่าเราค้นพบจุดศูนย์กลางของพระกิตติคุณแล้ว

พระผู้ช่วยให้รอดทรงให้ความกระจ่าง

นี่ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะยุคเราเท่านั้น สมัยก่อนผู้นำทางศาสนาใช้เวลาส่วนใหญ่เรียบเรียงรายชื่อ จัดอันดับ และโต้เถียงกันว่าในพระบัญญัติหลายร้อยข้อนั้นข้อใดสำคัญที่สุด

วันหนึ่งนักวิชาการศาสนากลุ่มหนึ่งพยายามดึงพระผู้ช่วยให้รอดเข้ามาในการโต้เถียงของพวกเขา พวกเขาทูลขอให้พระองค์ทรงแสดงความคิดเห็นว่าทรงเห็นด้วยกับข้อใด

“ท่านอาจารย์” พวกเขาทูลถาม “ในธรรมบัญญัตินั้น พระบัญญัติข้อไหนสำคัญที่สุด?”

เราทุกคนทราบว่าพระเยซูตรัสตอบอย่างไร “จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน

“นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก

“ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง

“ธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้”1

โปรดสังเกตประโยคสุดท้าย “ธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะ ทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้”

พระผู้ช่วยให้รอดไม่เพียงแสดงให้เราเห็นเป้าเท่านั้น แต่ทรงกำหนดใจกลางเป้าด้วย

ยิงถูกเป้า

ในฐานะสมาชิกของศาสนจักร เราทำพันธสัญญาว่าจะยอมรับพระนามของพระเยซูคริสต์ไว้กับตัวเรา ความนัยในพันธสัญญานั้นคือการเข้าใจว่าเราจะขวนขวายเรียนรู้เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า รักพระองค์ เพิ่มพูนศรัทธาของเราในพระองค์ ถวายเกียรติพระองค์ เดินในทางพระองค์ และยืนหยัดแน่วแน่ในฐานะพยานของพระองค์

ยิ่งเราเรียนรู้เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าและรู้สึกถึงความรักที่ทรงมีต่อเรามากเพียงใด เราจะยิ่งตระหนักว่าการเสียสละอันไม่มีขอบเขตของพระเยซูคริสต์นั้นเป็นของประทานอันสูงค่าของพระผู้เป็นเจ้า และความรักของพระผู้เป็นเจ้าดลใจเราให้ใช้เส้นทางของการกลับใจอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้เกิดปาฏิหาริย์ของการให้อภัย กระบวนการดังกล่าวเปิดทางให้เรามีความรักและความเห็นใจคนรอบข้างมากขึ้น เราเรียนรู้ที่จะมองข้ามฉายานาม เราจะต่อต้านการล่อลวงให้กล่าวหาหรือตัดสินผู้อื่นจากบาป ข้อบกพร่อง ข้อด้อย ความโน้มเอียงทางการเมือง ความเชื่อมั่นทางศาสนา สัญชาติ หรือสีผิวของพวกเขา

เราจะมองทุกคนที่เราพบว่าเป็นลูกของพระบิดาบนสวรรค์—พี่น้องชายหญิงของเรา

เราจะเอื้อมไปหาผู้อื่นด้วยความเข้าใจและความรัก—แม้คนที่อาจรักได้ไม่ง่ายนัก เราจะโศกเศร้ากับคนที่โศกเศร้าและปลอบโยนคนที่ต้องการการปลอบโยน2

และเราจะตระหนักว่าเราไม่จำเป็นต้องเครียดเกินเหตุกับความไม่แน่ใจในเป้าพระกิตติคุณที่ถูกต้อง

พระบัญญัติข้อสำคัญสองข้อคือเป้า ธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะทั้งหมดขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้3 เมื่อเรายอมรับเช่นนี้ สิ่งดีอื่นทั้งหมดจะลงตัว

ถ้าสิ่งที่เรามุ่งเน้นในเบื้องต้น ความคิด และความพยายามของเรามีศูนย์รวมอยู่ที่การเพิ่มพูนความรักของเราต่อพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพและการแสดงน้ำใจต่อผู้อื่น เราจะรู้ได้ว่าเราได้พบเป้าที่ถูกต้องแล้วและกำลังเล็งตรงกลางเป้า—กลายเป็นสานุศิษย์ที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์