2017
หลักธรรมของศาสดาพยากรณ์เกี่ยวกับความซื่อสัตย์
มกราคม 2017


หลักธรรมของศาสดาพยากรณ์เกี่ยวกับ ความซื่อสัตย์

จากคำปราศรัยให้ข้อคิดทางวิญญาณเรื่อง “ท่านจะอยู่ตรงไหนใน 20 ปีข้างหน้า” ที่มหาวิทยาลัยบริคัม ยังก์–ไอดาโฮ วันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ดูบทความเต็มเป็นภาษาอังกฤษที่ web.byui.edu/devotionalsandspeeches

ท่านจำเป็นต้องตัดสินใจและให้คำมั่นสัญญาอะไรบ้างเวลานี้และในอนาคตเพื่อช่วยให้ท่านซื่อสัตย์ต่อไป

Woman reading

20 กว่าปีที่แล้ว ข้าพเจ้าเสร็จสิ้นการรับใช้เป็นประธานคณะเผยแผ่ในอเมริกาใต้ ข้าพเจ้ากับรอนดาภรรยาเห็นชัยชนะครั้งใหญ่เช่นเดียวกับเรื่องน่าสลดใจในชีวิตผู้สอนศาสนาของเราในช่วง 20 ปีหลังจากนั้น

ผู้สอนศาสนาส่วนใหญ่ของเราได้รับการผนึกอย่างมีความสุขในพระวิหาร เลี้ยงดูลูกๆ ที่ชอบธรรม ส่งพวกเขาไปเป็นผู้สอนศาสนา และรับใช้อย่างซื่อสัตย์ในการเรียกต่างๆ ของฐานะปุโรหิตและองค์การช่วยในศาสนจักร แต่มีบางคนแข็งขันน้อย บ้างก็แต่งงานและหย่าร้าง บ้างก็รับปัพพาชนียกรรมจากศาสนจักร

อะไรทำให้เกิดความต่างเช่นนั้นในชีวิตอดีตผู้สอนศาสนาของเรา พวกเขาจะทำอะไรต่างจากนั้นได้บ้างเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องสลดใจกับตนเอง แล้วท่านเล่า ท่านจะอยู่ตรงไหนใน 20 ปีข้างหน้า ท่านจำเป็นต้องตัดสินใจและให้คำมั่นสัญญาอะไรบ้างเวลานี้และในอนาคตเพื่อช่วยให้ท่านซื่อสัตย์ต่อไป

ข้าพเจ้าขอเสนอหลักธรรม 10 ข้อที่จะช่วยท่าน

1 บำรุงเลี้ยงประจักษ์พยานของท่านอยู่เสมอ

ประสบการณ์อันเปี่ยมด้วยพระวิญญาณของงานเผยแผ่วางรากฐานของศรัทธาที่สามารถเป็นพรแก่ท่านชั่วชีวิต รากฐานของศรัทธาจะลดลงได้ก็ต่อเมื่อท่านเพิกเฉยหรือทำบาป

เมื่อไม่นานมานี้ข้าพเจ้าสัมภาษณ์อดีตผู้สอนศาสนาคนหนึ่งที่แข็งขันน้อยและอ้างว่าหมดศรัทธาไปแล้ว ข้าพเจ้าถามเขาว่าเขาสวดอ้อนวอนและศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนเหมือนที่ทำตอนเป็นผู้สอนศาสนาหรือเปล่า เขาตอบว่าเปล่าเพราะเขาหมดศรัทธาในโจเซฟ สมิธ

ข้าพเจ้ารู้สึกถึงการกระตุ้นเตือนให้ถามเขาว่า “คุณดูสื่อลามกหรือเปล่า” เขาตอบว่าดู ข้าพเจ้าบอกเขาว่านั่นแหละที่ทำให้เขาสูญเสียประจักษ์พยาน

ข้าพเจ้าอธิบายว่าประจักษ์พยานไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพยานต่อจิตวิญญาณของเราถึงความจริงของพระกิตติคุณและศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟู เมื่อเราไม่สวดอ้อนวอนและศึกษาพระคัมภีร์ อิทธิพลของพระวิญญาณในชีวิตเราย่อมอ่อนลง เราจะต้านการล่อลวงได้น้อยลง เมื่อเราทำบาปและไม่สะอาด เราย่อมสูญเสียความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ไปด้วย เมื่อไม่มีพยานต่อเนื่องของพระวิญญาณ เรามักจะคิดว่าเราไม่มีประจักษ์พยานและอาจไม่มีเลย

เราต้องบำรุงเลี้ยงประจักษ์พยานของเราอยู่เสมอ การบำรุงเลี้ยงนั้นมาจากการสวดอ้อนวอนส่วนตัว การศึกษาพระคัมภีร์ทุกวัน—โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระคัมภีร์มอรมอน—และรับใช้ในศาสนจักรตลอดชีวิตเรา

2 ทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกที่มีชีวิต

ข้าพเจ้าจะทบทวนคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ที่สามารถช่วยให้ท่านมีชีวิตแต่งงานที่เป็นสุข มีครอบครัวที่ซื่อสัตย์ และชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ข้าพเจ้าหมายถึง “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” ข้าพเจ้าจะแบ่งปันข้อความสำคัญบางตอนในถ้อยแถลงนั้น ซึ่งออกโดยฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองในปี ค.ศ. 1995 เราสนับสนุนท่านเหล่านี้ในฐานะศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผย พวกท่านเป็นกระบอกเสียงสำหรับพระผู้เป็นเจ้าแก่บุตรธิดาของพระองค์บนแผ่นดินโลก

ในวันจัดตั้งศาสนจักร พระผู้เป็นเจ้าตรัสเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ดังนี้ “เพราะคำของเขาเจ้าจงรับ, ราวกับมาจากปากเราเอง, ด้วยความอดทนอย่างที่สุดและศรัทธา” ต่อจากนั้นพระเจ้าทรงสัญญาพรทางโลกและพรนิรันดร์เมื่อเราทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ “เพราะโดยทำสิ่งเหล่านี้ประตูแห่งนรกจะเอาชนะเจ้าไม่ได้; แท้จริงแล้ว, และพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำให้พลังแห่งความมืดกระจายไปต่อหน้าเจ้า, และทำให้ฟ้าสวรรค์สั่นสะเทือนเพื่อความดีของเจ้า, และรัศมีภาพของพระนามของพระองค์” (คพ. 21:5–6)

นับเป็นพรอย่างยิ่งในยามยากเช่นนี้

3 รับการผนึกในพระวิหารและรักษาพันธสัญญาของท่าน

Couple outside temple

บนสุด: ภาพถ่ายด้านนอกพระวิหารมะนิลา ฟิลิปปินส์

ศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผย “ประกาศว่าการแต่งงานระหว่างชายและหญิงได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้าและว่าครอบครัวเป็นศูนย์กลางต่อแผนของพระผู้สร้างเพื่อจุดหมายปลายทางนิรันดร์ของบุตรธิดาของพระองค์” พวกท่านเพิ่มเติมว่า “แผนแห่งความสุขจากพระผู้เป็นเจ้าทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวดำเนินต่อไปหลังความตาย ศาสนพิธีและพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ทำให้เกิดความเป็นไปได้สำหรับแต่ละบุคคลที่จะกลับไปยังที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อที่ครอบครัวจะเป็นหนึ่งเดียวชั่วนิรันดร์”1

การตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดที่ท่านทำในชีวิต “คือแต่งงานกับคนที่ถูกต้อง ในสถานที่ถูกต้อง โดยผู้มีอำนาจถูกต้อง”2 และรักษาพันธสัญญาพระวิหารของท่านหลังจากนั้น ไม่มีความสูงส่งหากปราศจากการผนึกในพระวิหาร

เพื่อให้คู่ควรกับความสูงส่ง สามีภรรยาต้องเข้าสู่ “พันธสัญญาใหม่และเป็นนิจ, และ [ต้อง] ผนึกไว้กับพวกเขาโดยพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสัญญา, โดยเขาผู้ที่รับการเจิม”—ศาสดาพยากรณ์ ถ้าเรารักษาพันธสัญญาพระวิหาร เราจะ “สืบทอดบัลลังก์, อาณาจักร, มณฑล, และอำนาจ, อำนาจการปกครอง, ยอดสูงสุดและห้วงลึกทั้งปวง … และรัศมีภาพในสิ่งทั้งปวง … ซึ่งรัศมีภาพนี้จะเป็นความสมบูรณ์และความต่อเนื่องของพงศ์พันธุ์ทั้งหลายตลอดกาลและตลอดไป” (คพ. 132:19; ดู ข้อ 7 ด้วย)

การผนึกในพระวิหารมีคำสัญญาถึงพรนิรันดร์ในชีวิตหน้าและเป็นไปได้มากขึ้นว่าชีวิตแต่งงานจะมีความสุขในชีวิตนี้ ในฐานะบุตรหรือธิดาที่ได้รับการอุทิศถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าแล้ว ท่านได้ทำพันธสัญญาว่าจะมาแผ่นดินโลกเวลานี้เพื่อเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า การสร้างอาณาจักรรวมถึงการแต่งงานในพระวิหารของท่านเองด้วย

4 ร่วมมือกับพระผู้เป็นเจ้าในการนำลูกทางวิญญาณของพระองค์มายังแผ่นดินโลก

Family with child on bike

ถ้อยแถลงเรื่องครอบครัวกล่าวว่า “พระบัญญัติข้อแรกที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่อาดัมและเอวาเกี่ยวข้องกับศักยภาพของคนทั้งสองที่จะเป็นบิดามารดาในฐานะสามีและภรรยา เราประกาศว่าพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าที่ให้บุตรธิดาของพระองค์ขยายเผ่าพันธุ์และเพิ่มพูนให้เต็มแผ่นดินโลกยังมีผลบังคับ”

ครอบครัวทุกวันนี้เล็กกว่าครอบครัวรุ่นก่อน—แม้แต่ครอบครัวแอลดีเอส เรามักจะหาเหตุประวิงเวลาหรือจำกัดจำนวนบุตรที่เรามี ตัวอย่างเช่น “เราต้องเรียนให้จบก่อน” หรือ “เราต้องได้งานที่ดีกว่านี้ เราจะได้มีเงินมากขึ้น” หรือ “ทำไมต้องทำให้ชีวิตแต่งงานหมดสนุกด้วยการมีลูกเล่า”

ท่านได้รับพรให้มีประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ ท่านมีพรของนิรันดรมอบให้ลูกๆ ของท่าน อย่ามัวแต่คิดว่าท่านต้องจัดหาทุกสิ่งทางโลก ของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดที่ท่านจะมอบให้ลูกๆ ของท่านได้คือการได้รับทุกสิ่งทางวิญญาณในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

เมื่อท่านหารือกับคู่สมรสร่วมกับการสวดอ้อนวอนเรื่องการมีบุตร จำไว้ว่าท่านเป็นคนหนุ่มสาวผู้มีสิทธิกำเนิดอันสูงส่ง โปรดอย่าตัดพระผู้เป็นเจ้าออกจากการตัดสินใจของท่าน จงใช้สิทธิ์นั้นให้กำเนิดบุตรธิดาทางวิญญาณให้มากเท่าที่พระผู้เป็นเจ้าทรงพร้อมจะส่งมาให้ครอบครัวท่าน คนเหล่านี้เป็นบุตรธิดาของพระองค์มานานก่อนพวกเขาจะเป็นลูกของท่าน

ด้วยศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าและถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ จงเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีข้อแก้ตัวหรือไม่ลังเลและสร้างครอบครัวนิรันดร์ของท่าน

5 อย่าหมกมุ่นกับสื่อลามกหรือพฤติกรรมผิดศีลธรรมอื่นๆ

ถ้อยแถลงกล่าวต่อไปว่า “เด็กๆ มีสิทธิ์ที่จะเกิดภายในพันธะของการสมรสที่จะได้รับการเลี้ยงดูโดยบิดามารดาที่เคารพคำสาบานของการแต่งงานด้วยความจงรักภักดีอย่างสมบูรณ์.”

ความจงรักภักดีอย่างสมบูรณ์หมายถึงซื่อสัตย์ต่อคู่สมรสของท่านทั้งกายและใจ สื่อลามกและความสัมพันธ์ออนไลน์เป็นตัวอย่างของความไม่จงรักภักดีทางใจ เมื่อคู่สมรสข้องเกี่ยวกับสื่อลามก เท่ากับเขาละเมิดความไว้วางใจอันศักดิ์สิทธิ์และลึกซึ้งที่สุด คู่สมรสที่เป็นผู้บริสุทธิ์รู้สึกว่าตนถูกทรยศหักหลัง ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในชีวิตแต่งงานเสื่อมถอย ผลเก็บเกี่ยวของการเป็นชู้ถูกหว่านไว้ในแปลงเพาะสื่อลามก

ข้าพเจ้าขอแบ่งปันความรู้สึกบางอย่างจากชายคนหนึ่งที่ได้รับการผนึกในพระวิหารแล้วแต่สูญเสียครอบครัวเพราะสื่อลามกและความสัมพันธ์ออนไลน์กับผู้หญิงอื่น เขาเขียนด้วยความเศร้าว่า “ผมไม่ใส่ใจคำพูดที่ผมได้รับในปิตุพร ซึ่งกล่าวว่าซาตานจะไม่มีอำนาจในชีวิตคุณเว้นแต่คุณจะยอม ผมให้ซาตานมาก และเขาค่อยๆ รับและใช้อำนาจนั้นทำลายชีวิตผมกับภรรยาและลูกๆ ผมรักพวกเขาสุดหัวใจ และยังรักเหมือนเดิม และจะรักตลอดไป แต่ความรักนั้นไม่มากพอจะทำลายอำนาจที่ผมเต็มใจให้ซาตานเข้ามาทำลายชีวิตผม คำสอนของศาสนจักรให้วิธีที่ [เรา] จะกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์เมื่อครอบครัวได้รับการผนึกเพื่อกาลเวลาและนิรันดรถ้าผมจะฟังและเอาใจใส่ แต่ผมกลับไม่ฟัง”

น่าสลดใจเหลือเกิน

6 สอนและดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณในบ้านของท่าน

ถ้อยแถลงสอนสิ่งที่เราต้องทำเพื่อจะมีความสุขในบ้านของเรา “ความสุขในชีวิตครอบครัวส่วนมากจะสำเร็จได้เมื่อมีพื้นฐานบนคำสอนของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ การแต่งงานและครอบครัวที่ประสบความสำเร็จได้รับการสถาปนาและธำรงไว้ด้วยหลักธรรมแห่งศรัทธา การสวดอ้อนวอน การกลับใจ การให้อภัย ความเคารพ ความรัก ความเห็นอกเห็นใจ การทำงานและกิจกรรมนันทนาการที่ดีงาม”

เมื่อข้าพเจ้ากับภรรยาแต่งงานกันใหม่ๆ เราพยายามหลายครั้งเพื่อสร้างนิสัยของการอ่านพระคัมภีร์ด้วยกันทุกวันเป็นครอบครัว ในที่สุดเราก็ทำจนเป็นนิสัยทุกวันเมื่อลูกคนโตของเราอายุราวเจ็ดขวบ การอ่านตอนเช้ายังคงเป็นสิ่งแรกที่เราทำอย่างซื่อสัตย์เรื่อยมานับแต่นั้น เมื่อสร้างนิสัยนั้นกับลูกคนอื่นแล้ว ลูกที่อายุน้อยกว่าก็อยากจะมีส่วนร่วมเมื่อพวกเขาโตพอ บ่อยครั้งที่เราต้องอ่านก่อน 6 โมงเช้าเพราะเซมินารีเช้าตรู่

คู่แต่งงานใหม่อยู่ในสถานะที่ต้องเริ่มประเพณีครอบครัวที่ชอบธรรมของตน—จัดการศึกษาพระคัมภีร์เป็นครอบครัวทุกวัน สวดอ้อนวอนเป็นครอบครัว และเตรียมลูกๆ ให้พร้อมสำหรับงานเผยแผ่และการแต่งงานในพระวิหาร

7 ให้เกียรติบทบาทของบิดาและมารดาในการเลี้ยงดูบุตรธิดา

Family in Uruguay

ถ้อยแถลงมีคำแนะนำสำคัญบางประการเช่นกันเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกๆ “มารดารับผิดชอบเบื้องต้นในการเลี้ยงดูบุตรธิดา ในความรับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ บิดาและมารดามีหน้าที่ช่วยเหลือกันในฐานะเป็น หุ้นส่วนเท่าๆ กัน

บางครั้งบิดาหรือมารดาอาจรู้สึกว่าเขาหรือเธอเลี้ยงและอบรมสั่งสอนบุตรธิดาได้ดีกว่า ศาสดาพยากรณ์ในสมัยการประทานนี้สอนซ้ำหลายครั้งว่าสามีและภรรยาสร้างการเป็นหุ้นส่วนในชีวิตแต่งงาน การตัดสินใจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวควรทำร่วมกันและด้วยความปรองดอง

หุ้นส่วนเท่าๆ กันต้องเป็นหุ้นส่วนเท่าๆ กัน หารือกันและสวดอ้อนวอนด้วยกัน รับการนำทางจากพระวิญญาณเพื่อให้รู้วิธีที่ได้ผลมากที่สุดในการเลี้ยงดูบุตรธิดาด้วยกัน การตัดสินใจของท่านมีผลต่อจุดหมายนิรันดร์ของพวกเขา

8 ใช้สิทธิ์เสรีทางศีลธรรมเลือกติดตามพระผู้ช่วยให้รอด

การตัดสินใจว่าท่านจะอยู่ตรงไหนในอีก 20 ปีข้างหน้าหรือ 20 ศตวรรษข้างหน้าขึ้นอยู่กับท่านทั้งหมด ท่านมีอิสระที่จะเลือก แต่ผลนิรันดร์มาจากการเลือกของท่าน เพราะการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์จึงทรง “ไถ่ [มนุษย์] จากการตก [และ] พวกเขาย่อมเป็นอิสระตลอดกาล, รู้จักแยกแยะดีชั่ว; กระทำด้วยตนเอง และมิถูกกระทำ, นอกจากเป็นไปโดยโทษของกฎในวันสุดท้ายและสำคัญยิ่ง, ตามพระบัญญัติซึ่งพระผู้เป็นเจ้าประทานไว้.

“ดังนั้น, มนุษย์เป็น … อิสระที่จะเลือกเสรีภาพและชีวิตนิรันดร์, โดยผ่านพระผู้เป็นสื่อกลางที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์, หรือจะเลือกการเป็นเชลยและความตาย, ตามการเป็นเชลยและอำนาจของมาร; เพราะเขาแสวงหาเพื่อจะให้มนุษย์ทั้งปวงเศร้าหมองเหมือนตัวเขา” (2 นีไฟ 2:26–27; เน้นตัวเอน)

ซาตานเกลียดท่านเพราะคนแบบท่านและสิ่งที่ท่านเป็น เขาต้องการทำให้ท่านเศร้าหมองเหมือนตัวเขา พระเยซูคริสต์ทรงรักท่าน พระองค์ทรงจ่ายค่าบาปของท่าน พระองค์ทรงสละพระชนม์ชีพเพื่อท่าน พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้ท่านติดตามพระองค์และกลับใจหากจำเป็น เมื่อท่านเลือกติดตามพระผู้ช่วยให้รอด ท่านจะมี “สันติสุขในโลกนี้และชีวิตนิรันดร์ในโลกที่จะมาถึง”3

9 พัฒนาศรัทธาเพื่ออดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่

Family praying

ศรัทธาเกิดขึ้นเมื่อท่านเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเจ้า ศาสดาพยากรณ์นีไฟสอนว่า “ดังนั้น, ท่านต้องมุ่งหน้าด้วยความแน่วแน่ในพระคริสต์, โดยมีความเจิดจ้าอันบริบูรณ์แห่งความหวัง, และความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าและต่อมนุษย์ทั้งปวง. ดังนั้น, หากท่านจะมุ่งหน้า, ดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์, และอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่แล้ว, ดูเถิด, พระบิดาตรัสดังนี้: เจ้าจะมีชีวิตนิรันดร์” (2 นีไฟ 31:20)

ประธานโธมัส เอส. มอนสันกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ในการประชุมใหญ่สามัญว่า “อนาคตสดใสเท่าศรัทธาของท่าน”4 นี่รวมถึงศรัทธาที่จะอดทนและเอาชนะอุปสรรคทั้งมวล รวมทั้งความขุ่นข้องหมองใจ การทรยศหักหลัง และความผิดหวัง ศรัทธาที่จะอดทนจะกำหนดจุดหมายของท่าน แม้จุดหมายนิรันดร์ของท่าน

10 ยอมให้ความประสงค์ของท่านเป็นไปตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า

ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงสัมผัสจิตวิญญาณท่านด้วยความปรารถนาจะทำดีขึ้น เป็นคนดีขึ้นและทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตของเรา ข้าพเจ้าหวังให้ท่านรู้สึกปรารถนาจะเพิ่มพลังคำมั่นสัญญาของท่านว่าจะเป็นทั้งหมดที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดล่วงหน้าให้ท่านเป็น

“พี่น้องชาย [หญิง] ทั้งหลาย, เราจะไม่ก้าวต่อไปในอุดมการณ์อันสำคัญยิ่งเช่นนั้นหรือ? จงก้าวไปข้างหน้าและอย่าถอยกลับ. ความกล้าหาญ, … และก้าวต่อไป, ต่อไปถึงชัยชนะ ! … ฉะนั้น, ให้เรา, ในฐานะศาสนจักรหนึ่งและผู้คนกลุ่มหนึ่ง, และในฐานะวิสุทธิชนยุคสุดท้าย, ถวายเครื่องถวายบูชาในความชอบธรรมแด่พระเจ้า” (คพ. 128:22, 24)

เครื่องถวายบูชาที่แต่ละท่านจะถวายพระผู้เป็นเจ้าได้คืออะไร คือของขวัญชิ้นหนึ่งที่พระองค์จะไม่มีวันเรียกร้องจากท่าน คือการถวายความประสงค์ของเราตามพระประสงค์ของพระองค์ คือการวางสิทธิ์เสรีของท่านไว้บนแท่นบูชาส่วนตัว

Lectures on Faith ตอนหนึ่งที่เขียนโดยเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่รุ่นแรกในสมัยการประทานนี้กล่าวว่า “ศาสนาที่ไม่เรียกร้องการเสียสละอะไรเลยไม่มีพลังอำนาจมากพอจะก่อให้เกิดศรัทธาอันจำเป็นต่อชีวิตและความรอด”5

สิทธิ์เสรีของท่านคือสิ่งหนึ่งที่เป็นของท่านอย่างแท้จริงที่ท่านสามารถถวายเป็นเครื่องถวายบูชาแด่พระผู้เป็นเจ้าได้ ท่านจะเป็นเหมือนพระองค์เมื่อท่านสมัครใจทำให้ความประสงค์ของท่านเป็นของพระองค์

ข้าพเจ้าสรุปด้วยพยานของข้าพเจ้าถึงพระผู้ช่วยให้รอด เมื่อท่านใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ ยอมให้ความประสงค์ของท่านเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ ทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ และเชื่อฟังการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณ ท่านจะเปี่ยมด้วยศรัทธา มีความสุข และประสบความสำเร็จ

อ้างอิง

  1. “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก,” เลียโฮนา, พ.ย. 2010, 165; เน้นตัวเอน.

  2. บรูซ อาร์. แมคคองกี, “Agency or Inspiration?” New Era, Jan. 1975, 38.

  3. กอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์, Caesar, Circus, or Christ? Brigham Young University Speeches of the Year (Oct. 26, 1965), 8; ดู รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “Spiritual Capacity,” Ensign, Nov. 1997, 16 ด้วย.

  4. โธมัส เอส. มอนสัน “จงรื่นเริงเถิด,” เลียโฮนา, พ.ค. 2009, 113.

  5. Lectures on Faith (1985), 69.