2019
การสนับสนุนผู้สอนศาสนาที่กลับบ้านก่อนกำหนด
กรกฎาคม 2019


ดิจิทัลเท่านั้น: คนหนุ่มสาว

การสนับสนุนผู้สอนศาสนาที่กลับบ้านก่อนกำหนด

เกร็ดความรู้เพื่อส่งเสริมการเยียวยาในหมู่ผู้สอนศาสนาทื่กลับบ้านก่อนกำหนด

เรื่องน่าสนใจที่สุดเรื่องหนึ่งจากพระคัมภีร์มอรมอนคือนักรบ 200 คนของฮีลามันผู้ได้รับบาดเจ็บในสงคราม (ดู แอลมา 57:25) ผมเห็นความคล้ายคลึงระหว่างนักรบ 200 คนนั้นกับผู้สอนศาสนายุคปัจจุบันที่กลับบ้านก่อนกำหนดด้วยเหตุผลบางประการ

ถึงแม้ 200 คนออกจากบ้านไปด้วยความใจกล้าที่สุด แต่พวกเขากลับต้องถูกหามออกนอกสนามรบ ผมหวังว่าพวกเขาจะเห็นตนเองเป็นคนกล้า โดยสละทั้งหมดแล้ว แต่ผมเดาว่าพวกเขากำลังสงสัยตนเองและมีคำถามว่าทำไมพวกเขาไม่ได้รับความคุ้มครองเหมือนเพื่อนๆ

เฉกเช่นนักรบของฮีลามัน ผู้สอนศาสนาที่กลับจากงานเผยแผ่ก่อนกำหนดมักมองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาอาสาออกไปใน “สงคราม” โดยสละทั้งหมดเยี่ยงวีรบุรุษ พวกเขาเตรียมทำงานเผยแผ่ เปี่ยมด้วยศรัทธาและความปรารถนาจะรับใช้พระเจ้า เมื่อพวกเขา “ได้รับบาดเจ็บ” (ตัวอย่างเช่น ประสบปัญหาสุขภาพกายหรือสุขภาพจิต หรือแม้แต่การล่วงละเมิด) พวกเขามักจดจ่อกับสิ่งที่ตนทำไม่สำเร็จและรู้สึกผิดหวัง อับอาย หรือท้อแท้ พวกเขาอาจสงสัยการดลใจที่นำพวกเขาให้รับใช้ ผู้สอนศาสนาเหล่านี้อาจกังวลว่าคนอื่นจะมองพวกเขาอย่างไรหรือแม้กระทั่งพระเจ้าทรงมองพวกเขาอย่างไร พวกเขาอาจรู้สึกเหมือนตนล้มเหลวหรือไม่เป็นที่ยอมรับหรืออาจตัดสินตนเองในทางลบ

ผู้สอนศาสนาที่กลับบ้านก่อนแผนที่กำหนดไว้ต้องการให้ครอบครัว มิตรสหาย ผู้นำ และสมาชิกวอร์ดพร้อมใจกันช่วยพวกเขา “เยียวยา” ต่อไปนี้เป็นเกร็ดความรู้บางประการทั้งสำหรับผู้สอนศาสนาที่กลับมาและสมาชิกครอบครัวของพวกเขา ผู้นำศาสนจักร มิตรสหาย ตลอดจนสมาชิกวอร์ด

สำหรับบุคคลที่พวกเขารัก: 6 สิ่งที่ท่านทำได้เพื่อช่วยผู้สอนศาสนาเหล่านี้เยียวยา

  1. หยิบยื่นความรัก เพื่อปลอบโยน ปลอบขวัญ และดูแลผู้สอนศาสนาแต่ละคนที่กลับมา และครอบครัวของเขาเหมือนท่านจะทำให้กับนักรบที่ได้รับบาดเจ็บในสงคราม ขอบคุณพวกเขาสำหรับการรับใช้ โดยกระตุ้นให้พวกเขาจดจ่อกับสิ่งที่พวกเขาทำ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้ทำ

  2. เรียกเขาว่า “อดีตผู้สอนศาสนา” ไม่ใช่ “ผู้สอนศาสนาที่กลับก่อนกำหนด” หรือ “ผู้สอนศาสนาที่ถูกปลดก่อนกำหนด” คำพูดที่ระมัดระวังจะช่วยให้การเยียวยาและการบำบัดที่จำเป็น

  3. ฟังพวกเขา เพื่อให้มองเห็นว่าท่านจะช่วยได้ดีที่สุดอย่างไร

  4. สนับสนุนบิดามารดาของพวกเขา นั่นอาจจะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่สุดที่จะส่งผลต่อกระบวนการเยียวยาผู้สอนศาสนา จงระวังอย่าละเลยความต้องการด้านอารมณ์ของบิดามารดาของผู้สอนศาสนาที่กลับมา

  5. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ หากจำเป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตสามารถช่วยให้ผู้สอนศาสนาที่กลับมาปรับตัวเข้ากับชีวิตที่บ้านและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ หากมีศูนย์ให้คำปรึกษาครอบครัวแอลดีเอส ศูนย์จะให้คำปรึกษาฟรีหกครั้งตามคำขอของผู้สอนศาสนาที่กลับบ้านก่อนกำหนด

  6. แสวงหาการนำทางฝ่ายวิญญาณ อย่าดูถูกพลังของการสวดอ้อนวอน จงสวดอ้อนวอนขอการนำทางให้รู้ว่าท่านจะสนับสนุนพวกเขาและทำตามความต้องการของพวกเขาได้อย่างไร

สำหรับอดีตผู้สอนศาสนา: ความจริง 5 ข้อที่พึงจดจำขณะท่านเยียวยา

  1. พระผู้เป็นเจ้าทรงรักท่าน เราทุกคนประสบความทุกข์ยากในเวลาต่างกันระหว่างการเดินทางในชีวิตมรรตัยของเรา ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ไม่ใช่วัคซีนป้องกันความทุกข์ยาก—แต่เป็นหลักธรรมที่จะช่วยให้ท่านผ่านพ้นความทุกข์ยากไปได้ เพราะการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ พระคริสต์จึงทรงมีเดชานุภาพไม่เพียงชำระเราให้สะอาดจากบาปเท่านั้นแต่ประทานการปลอบประโลม ความเข้าใจ การเยียวยา และการสนับสนุนให้เราเช่นกัน (ดูคำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญของเอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์เรื่อง “เหมือนภาชนะแตก”)

  2. พระคัมภีร์พูดถึงการเยียวยา พระผู้เป็นเจ้าตรัสผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ และวิธีหนึ่งในหลายๆ วิธีที่เราเข้าถึงคือผ่านการศึกษาพระคัมภีร์อย่างจริงใจและการประยุกต์ใช้ อ่านเรื่องนักรบของฮีลามัน และคนอื่นๆ ที่ได้รับบาดเจ็บในการเดินทางผ่านชีวิตเพื่อหาความเข้าใจ มองหาตัวอย่างอื่นที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงปฏิบัติศาสนกิจและช่วยเยียวยาคนที่พยายามทำตามพระองค์ในอดีต

  3. การรับใช้ช่วยท่านเยียวยา พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้ท่าน “ทำงานอย่างทุ่มเท” ในอุดมการณ์ดี (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 58:27) เพราะนั่นคือสิ่งที่จะช่วยท่านเยียวยา มองออกไปรอบตัวและสวดอ้อนวอนขอโอกาสรับใช้ผู้อื่น

  4. การสวดอ้อนวอนจะเปิดดวงตาของท่าน แสดงความกตัญญูต่อพระบิดาบนสวรรค์ พระองค์ทรงต้องการช่วยให้ท่านเยียวยา ทูลขอให้พระองค์ทรงทำให้ท่านเข้มแข็งและเปิดดวงตาของท่านให้มองเห็นสิ่งที่พระองค์ทรงทำอยู่แล้วเพื่อเป็นพรและเยียวยาท่าน และทูลขอให้ท่านมีพลังมองออกไปรอบตัวเพื่อเป็นพรแก่ผู้อื่น

  5. คนอื่นอาจไม่เข้าใจ ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจสถานการณ์ของท่าน และพวกเขาอาจจะพูดบางอย่างเพราะความเขลา แต่อย่าปล่อยให้สิ่งนี้ทำให้ท่านท้อแท้! มุ่งแสดงความกตัญญูต่อคนที่ให้กำลังใจท่าน และสวดอ้อนวอนขอให้ทรงช่วยท่านให้อภัยผู้อื่นถ้าพวกเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ของท่านอย่างถ่องแท้