เมื่อจับแน่นแล้วเจ็บ

เจฟฟ์ เบอร์เดอร์ส

รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา

วันที่ร้อนมากวันหนึ่งของเดือนกรกฎาคม ผมช่วยพี่เขยก่อกำแพงกันดิน โครงการนี้ทำให้ผมต้องขุดรากต้นเชอรี่ที่กำลังออกดอกและขวางอยู่

“ง่าย” ผมคิด

ผมรวบรวมเครื่องมือที่ต้องใช้และขุดรอบๆ รากเพื่อจะดึงรากออกมา จากนั้นจึงหยิบเลื่อยมาตัดรากโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง รากเล็กตัดง่าย แต่เมื่อขยับไปตัดรากใหญ่ ผมรู้ทันทีว่าไม่ง่าย รากอันหนึ่งตัดยากเป็นพิเศษ

ผมกัดฟันและตั้งใจจะตัดรากนั้นให้ได้ เหงื่อไหลลงมาที่คอเนื่องจากดวงอาทิตย์อยู่เหนือศีรษะพอดีขณะผมจับเลื่อยแน่นขึ้น เลื่อยสั่นจนตัวผมสั่น ผมรู้สึกว่ามือขวา—มือที่กดปุ่มเลื่อย—เริ่มแสบเพราะความเจ็บปวด ผมไม่สนใจความเจ็บปวดและเลื่อยต่อ

ในที่สุดก็ตัดรากได้ ผมปล่อยปุ่มและรู้สึกพอใจอย่างยิ่งกับชัยชนะ แต่ขณะถอดถุงมือผมสังเกตเห็นหนังหลุดออกจากมือ

ขณะนึกถึงประสบการณ์นี้ ผมตระหนักว่าการจับเลื่อยก็เหมือนจับราวเหล็กให้แน่น พระคัมภีร์บอกเราว่าต้องจับราวเหล็กให้แน่นขณะเราดำเนินชีวิต แต่เพียงเพราะเราจับให้แน่นไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ประสบชั่วขณะของความเจ็บปวด มือผมเจ็บขณะจับเลื่อย ในทำนองเดียวกัน เราจะผ่านพ้นการทดลองและความยากลำบากเมื่อเราจับราวเหล็กให้แน่นอยู่เสมอ

พระบิดาบนสวรรค์ทรงทราบว่าการเดินทางกลับไปหาพระองค์จะเต็มไปด้วยภยันตราย นั่นคือสาเหตุที่พระองค์ประทานพระคัมภีร์และถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ไว้ช่วยเรา เมื่อเราจับสิ่งเหล่านี้ให้แน่นขณะประสบการทดลองและความยากลำบากในความเป็นมรรตัย วันหนึ่งเราจะกลับไปที่ประทับของพระองค์

เมื่อเรากลับไปหาพระองค์ เราจะสามารถมองดูมือเราซึ่งจับราวเหล็กไว้แน่นแม้จะมีความเจ็บปวดหรือความยุ่งยากบางครั้งก็ตาม เราจะรู้ว่าด้วยความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์และโดยผ่านเดชานุภาพการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ เราจับแน่น ไม่ว่าจะพบเจออุปสรรคอะไรก็ตาม