สัญญากับเด็ก
ลูเวีย ปาเรเดส กาเบรรา รัฐยูกาตาน เม็กซิโก
ไม่กี่ปีก่อน ดิฉันซึมเศร้าอย่างมาก สิ่งเดียวที่ทำให้ดิฉันพบแรงจูงใจบ้างคือเพื่อนที่ดีที่สุดของดิฉันกับลูกๆ ของเธอ เราไปเดินเล่นด้วยกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งดิฉันชอบใจ แต่เมื่อเวลาล่วงไป เราเริ่มเดินเล่นน้อยลงและนานๆ ครั้งจึงจะออกไป ดิฉันเริ่มคิดถึงเพื่อนกับครอบครัวของเธอ ดิฉันมาทราบภายหลังว่าเราไม่ค่อยได้ออกไปเดินเล่นเพราะเพื่อนกับครอบครัวเธอเริ่มทำสิ่งที่พวกเขาหยุดทำมาหลายปี—นั่นคือการไปโบสถ์
วันหนึ่งพวกเขาชวนดิฉันไปรับประทานอาหารกลางวัน การได้พบพวกเขาอีกครั้งทำให้ดิฉันรู้สึกมีความสุขมาก ดิฉันบอกพวกเขาว่าคิดถึงพวกเขามาก ลูกสาววัยหกขวบของเพื่อนเสนอให้เราแก้ปัญหานั้นด้วยการไปโบสถ์ด้วยกัน เธอชวนดิฉันไปโดยไม่คิดรอบสอง
ไม่นะ! ดิฉันจะทำให้ครอบครัวนี้เข้าใจได้อย่างไรว่าการไปโบสถ์เหมาะกับพวกเขาแต่น่าเบื่อมากสำหรับดิฉัน ดิฉันไม่ได้ไปโบสถ์นานหลายปี แต่ดิฉันจะปฏิเสธเด็กได้อย่างไร ดิฉันบอกว่าดิฉันจะไป แต่ความจริงคือดิฉันไม่ตั้งใจจะรักษาสัญญาแม้แต่น้อย
วันอาทิตย์นั้น ดิฉันไปรับประทานอาหารเช้ากับคุณพ่อ เสียงโทรศัพท์มือถือของดิฉันดังไม่หยุด ทำให้ดิฉันนึกขึ้นได้ว่าดิฉันได้สัญญากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งว่าจะไปโบสถ์กับเธอ ดิฉันไม่สนใจเสียงโทรศัพท์จนคุณพ่อถามว่าทำไมไม่รับ ดิฉันยอมรับว่าเด็กคนหนึ่งชวนดิฉันไปการประชุมที่โบสถ์แต่ดิฉันไม่อยากไป ท่านยิ้มและพูดว่า “ลูเวีย อย่าทำสัญญากับเด็กถ้าลูกไม่ตั้งใจจะทำตามสัญญา” ดิฉันตัดสินใจว่าจะรักษาสัญญาของดิฉัน
เมื่อมาถึงโบสถ์ ดิฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดแปลกไป บางอย่างที่ดิฉันอธิบายไม่ถูก ดิฉันยังคงอธิบายไม่ได้ว่าเกิดขึ้นอย่างไร แต่วันอาทิตย์ถัดมา ดิฉันพบตนเองอยู่ที่โบสถ์อีกครั้ง อยู่อีกครั้งและอีกครั้ง จนดิฉันเข้าใจสิ่งที่ตนรู้สึก ซึ่งก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์
สมาชิกศาสนจักรเริ่มทำให้ดิฉันรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน นั่นทำให้ดิฉันอยากรู้เกี่ยวกับศาสนจักร ดิฉันเริ่มพบกับผู้สอนศาสนาและเริ่มมีประจักษ์พยานด้วย ผู้สอนศาสนามาเยี่ยมบ่อยขึ้นและดิฉันเข้าใจพระกิตติคุณมากขึ้นจนดิฉันรู้สึกปรารถนาจะรับบัพติศมาอย่างมาก ดิฉันรับบัพติศมาหลังจากนั้นไม่นาน เวลานี้ดิฉันมีความสุขกับพรของพระกิตติคุณ เพราะเหตุนี้ ดิฉันจึงปลื้มปีติอย่างยิ่งที่ดิฉันรักษาสัญญากับเด็กอายุหกขวบ