บทเรียนจากพันธสัญญาใหม่
อัครสาวกเป็นพยานของพระเยซูคริสต์—และ ท่านเป็นได้เช่นกัน!
สมมติว่าท่านกับเพื่อนคนหนึ่งกำลังรับประทานอาหารกลางวันที่โรงเรียน เพื่อนของท่านกำลังจะแกะขนมเมื่อมีคนเดินมากล่าวหาเธอว่าขโมยขนมและต้องการให้เธอเอาไป “คืน” ท่านอยู่กับเพื่อนขณะที่เธอซื้อขนม ด้วยเหตุนี้ท่านจึงหงุดหงิด ท่านบอกคนกล่าวหาว่าเพื่อนของท่านไม่ใช่ขโมย
พยานพิเศษ
การปกป้องความจริงเช่นนี้เรียกว่า “การเป็นพยาน” ในตัวอย่าง ท่านจะเป็นพยานยืนยันนิสัยที่ดีของเพื่อน ท่านสามารถเป็นพยานให้เพื่อนได้ฉันใด พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกให้เป็นพยานพิเศษของพระบุตรพระองค์พระเยซูคริสต์ฉันนั้น พระองค์ทรง “ส่ง [อัครสาวก] ออกไปพร้อมสิทธิอำนาจและความรับผิดชอบ”1 ให้สอน เป็นพยาน และรับใช้ในฐานะ “พยานพิเศษถึงพระนามของพระคริสต์ในทั่วโลก” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 107:23)
ไม่นานหลังจากพระคริสต์ฟื้นคืนพระชนม์ อัครสาวกได้รับเรียกให้เป็นพยานของพระองค์ (ดู กิจการของอัครทูต 1:8) ขณะท่านศึกษาหนังสือกิจการของอัครทูตในพันธสัญญาใหม่ ท่านสามารถอ่านตัวอย่างมากมายเมื่ออัครสาวกเป็นพยานว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า (ดู กิจการของอัครทูต 2:36; 5:27–32; 10:36–44) อัครสาวกในปัจจุบันยังคงทำการเรียกนี้ในฐานะพยานพิเศษ—เพียงฟังการประชุมใหญ่สามัญท่านก็จะเห็นว่าอัครสาวกเป็นพยานถึงพระคริสต์อย่างไร
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพยานถึงพระคริสต์
อัครสาวกบางท่านในพันธสัญญาใหม่อยู่กับพระคริสต์เมื่อพระองค์ประทับบนแผ่นดินโลกและเห็นพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ (ดู กิจการของอัครทูต 1:9–11) อัครสาวกในปัจจุบันอาจเคยเห็นพระคริสต์2 แต่การเห็นพระเยซูจริงๆ ไม่ได้ทำให้บุคคลผู้นั้นเป็นพยานถึงพระองค์ ประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธ (1876–1972) กล่าวว่า “[พระวิญญาณบริสุทธิ์] เป็นเพียงหนทางเดียวที่บุคคลหนึ่งจะรู้จริงๆ ว่าพระเยซูคือพระคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์เป็นความจริง”3 หมายความว่า ถึงแม้อัครสาวกจะเคยเห็นพระคริสต์ แต่พวกท่านรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดเพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงบอกพวกท่าน!
ท่านสามารถเป็นพยานได้
สิ่งที่น่าทึ่งกว่านั้นคือท่านได้รับสัญญาเช่นกันว่าท่านสามารถรู้ได้ว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของท่านโดยผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 46:13) นี่ไม่ใช่สิ่งที่อัครสาวกเท่านั้นจะรู้ได้! ถึงแม้ท่านไม่ได้รับเรียกให้เป็นพยานพิเศษของพระคริสต์ แต่ท่านสามารถแสวงหาประจักษ์พยานถึงพระคริสต์และเป็นพยานของพระองค์ต่อผู้คนในชีวิตท่าน ท่านสามารถทำตามพระบัญชาของพระผู้ช่วยให้รอดต่อเปโตร “เมื่อท่านหันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้อง [ชายหญิง] ของท่าน” (ลูกา 22:32)