2023
ท่านอยากมีความสุขไหม?
พฤศจิกายน 2023


10:21

ท่านอยากมีความสุขไหม?

จงอยู่บนเส้นทางพันธสัญญา ชีวิตท่านจะง่ายขึ้น มีความสุขมากขึ้น และเต็มไปด้วยปีติ

ท่านอยากมีความสุขไหม? อะไรทำให้ท่านไม่มีความสุข? ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า: “ถ้าท่านอยากมีทุกข์ จงทำผิดพระบัญญัติ—และอย่ากลับใจ ถ้าท่านอยากมีปีติ จงอยู่บนเส้นทางพันธสัญญา”1 มีความสุขเป็นเรื่องง่ายไม่ใช่หรือ? แค่ทำและรักษาพันธสัญญาในชีวิตท่านเท่านั้นเอง เรามาทบทวนบางสิ่งที่สามารถช่วยให้เราอยู่บนเส้นทางพันธสัญญาและทำให้เรามีความสุข

1. เส้นทางพันธสัญญาคืออะไร?

ตามที่เอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์กล่าว “คำว่า เส้นทางพันธสัญญา หมายถึงลำดับพันธสัญญาที่เรามาหาพระคริสต์และเชื่อมสัมพันธ์กับพระองค์ โดยผ่านข้อผูกมัดตามพันธสัญญานี้ เรามีสิทธิ์เข้าถึงเดชานุภาพนิรันดร์ของพระองค์ เส้นทางดังกล่าวเริ่มต้นด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการกลับใจ ตามด้วยบัพติศมาและการรับพระวิญญาณบริสุทธิ์”2 เราต่อพันธสัญญาเหล่านี้ทุกครั้งที่เรารับส่วนศีลระลึก

เริ่มต้นด้วยพันธสัญญาบัพติศมา เราทำพันธสัญญาอีกหลายอย่างตลอดชีวิตเรา เอ็ลเดอร์เรนลันด์กล่าวอีกว่า “เส้นทางพันธสัญญานำไปสู่ศาสนพิธีพระวิหาร เช่น เอ็นดาวเม้นท์พระวิหาร เอ็นดาวเม้นท์เป็นของประทานแห่งพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าที่เชื่อมความสัมพันธ์เรากับพระองค์อย่างสมบูรณ์มากขึ้น”3

2. ท่านอยู่บนเส้นทางพันธสัญญาหรือไม่?

บางครั้งเมื่อเราทำพันธสัญญา แต่ไม่รักษาพันธสัญญา เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านจะกลับสู่เส้นทางพันธสัญญาได้อย่างไร? ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างของการกลับสู่เส้นทางพันธสัญญา

หนึ่งเดือนเศษที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้รับข้อความจากอดีตผู้สอนศาสนาที่เคยรับใช้กับเรา เขาบอกว่า “ช่วงที่ผ่านมายากมาก การต้องสู้กับภาวะวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าทุกวันทำให้ผมหนักใจ และมันยากมาก ผมรู้สึกเหงาและทุกข์ใจ ผมสวดอ้อนวอนขอการนำทางจากพระบิดาบนสวรรค์มาตลอดเพื่อขอสันติสุขและความสบายใจในสิ่งที่ผมทำได้เพื่อสู้กับความยากลำบาก … ขณะสวดอ้อนวอน ผมรู้สึกถึงการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณที่บอกผมว่าผมต้องจ่ายส่วนสิบเต็ม … ผมรู้สึกถึงพระวิญญาณแรงกล้ามากและรู้สึกอยากทำทันที ด้วยความปรารถนาเช่นนั้น ผมได้รับการกระตุ้นเตือนว่า ‘ถ้าเจ้าจ่ายส่วนสิบ ทุกอย่างจะดี’ ผมยังคงดิ้นรนหาสันติสุข แต่ผมมีประจักษ์พยานในพระผู้ช่วยให้รอดและว่าโดยผ่านการเชื่อฟัง ผมจะรู้สึกและพบสันติสุขที่ผมกำลังค้นหาในใจและความนึกคิด ผมเพิ่งตัดสินใจกลับมาโบสถ์และแสวงหาพระวิญญาณในทุกสิ่งที่ผมทำ”

ตอนนี้เขาทำได้ดีมาก ท่านอาจทูลขอสันติสุขจากพระบิดาบนสวรรค์ แต่คำตอบอาจต่างจากที่ท่านคาดหวัง ตราบที่ท่านหมายมั่นจะรู้เรื่องพระผู้ช่วยให้รอดและสวดอ้อนวอนถึงพระบิดาบนสวรรค์ พระองค์จะประทานคำตอบสำหรับท่านโดยเฉพาะ

ประธานโธมัส เอส. มอนสันสอนว่า:

“บทเรียนสำคัญที่สุดที่เราจะเรียนรู้ได้ในความเป็นมรรตัยคือเมื่อพระผู้เป็นเจ้าตรัสและเราเชื่อฟัง เราจะถูกต้องเสมอ”4

“เมื่อเรารักษาพระบัญญัติ ชีวิตเราจะมีความสุขมากขึ้น มีสัมฤทธิผลมากขึ้น และซับซ้อนน้อยลง เราจะทนรับความท้าทายและปัญหาของเราได้ง่ายขึ้น และเราจะได้รับพรที่ [พระผู้เป็นเจ้าทรง] สัญญาไว้”5

เมื่อข้าพเจ้าได้รับเรียกเป็นอธิการ ระหว่างนั้นชีวิตข้าพเจ้ายากที่สุด ข้าพเจ้าเป็นพ่อวัย 30 ต้นๆ แต่ลำบากเรื่องเงินเพราะความท้าทายในครอบครัว ข้าพเจ้าหาทางออกไม่เจอ และคิดว่าความท้าทายนั้นจะไม่มีวันจบ ข้าพเจ้าเหนื่อยล้าทางการเงินและทางอารมณ์ และเริ่มสงสัยในความเข้มแข็งทางวิญญาณของตนเองด้วย ในเวลายากลำบากนั้นประธานสเตคให้การเรียกข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าก็ยอมรับการเรียกทั้งๆ ที่มันยาก

ภรรยาข้าพเจ้าก็สัมภาษณ์กับประธานสเตคด้วย แต่เธอไม่สามารถตอบรับและไม่ได้บอกปฏิเสธ แต่น้ำตาไหลตลอดเวลา เธอร้องไห้ตลอดสัปดาห์ ทูลถามพระบิดาบนสวรรค์ว่า “ทำไมต้องตอนนี้?” และ “พระองค์ทรงรู้จักทุกคนจริงๆ หรือ?” เธอไม่ได้รับคำตอบ แต่ข้าพเจ้าได้รับการสนับสนุนเป็นอธิการในวันอาทิตย์ถัดมา เธอไม่ได้ถามคำถามเหล่านั้นกับพระบิดาบนสวรรค์อีก แต่สนับสนุนข้าพเจ้าในการเรียกตลอดหกปี

ในวันอาทิตย์ที่ข้าพเจ้าพ้นหน้าที่ ภรรยาข้าพเจ้าได้ยินเสียงขณะกำลังรับศีลระลึก เสียงนั้นกระซิบบอกเธอว่า “เพราะมันยากเกินกว่าเจ้าจะเดิน เราจึงเรียกเขาเป็นอธิการเพื่อโอบอุ้มเจ้าและเดินแทนเจ้า” เมื่อนึกย้อนกลับไปในหกปีที่ผ่านมา เธอตระหนักว่าความท้าทายมากมายทุกอย่างที่ดูเหมือนไม่สิ้นสุดล้วนได้รับการแก้ไขมาตลอดทาง

เราเรียนรู้ว่าเมื่อเราคิดว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะจะรับการเรียก นั่นอาจจะเป็นเวลาที่เราต้องมีการเรียกมากที่สุด เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าทรงขอให้เรารับใช้ในการเรียกใด ไม่ว่าจะเบาลงหรือหนักขึ้น พระองค์ทรงเห็นความต้องการของเรา พระองค์จะประทานกำลังที่เราต้องการและทรงพร้อมจะเทพรให้เราเมื่อเรารับใช้อย่างซื่อสัตย์

มีอีกหลายอย่างที่จะทำให้เราเขวออกจากเส้นทางพันธสัญญา ไม่ว่าอะไรก็ตาม ไม่สายเกินกว่าจะหันใจมาขอให้พระบิดาบนสวรรค์ทรงช่วยเหลือ เอ็ลเดอร์พอล วี. จอห์นสันสอนเราว่า: “เมื่อเราติดตามซาตาน เรามอบพลังอำนาจให้เขา เมื่อเราติดตามพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ประทานพลังอำนาจให้เรา”6

กษัตริย์เบ็นจามินในพระคัมภีร์มอรมอนเป็นพยานว่า: “ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านพิจารณาถึงสภาพอันเป็นพรและเป็นสุขของคนที่รักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า. เพราะดูเถิด, พวกเขาได้รับพรในทุกสิ่ง, ทั้งฝ่ายโลกและฝ่ายวิญญาณ; และหากพวกเขายืนหยัดอย่างซื่อสัตย์จนกว่าชีวิตจะหาไม่แล้วพวกเขาจะได้รับเข้าสู่สวรรค์, เพื่อโดยการนั้นพวกเขาจะพำนักอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าในสภาพแห่งความสุขอันไม่รู้จบ”7

3. การรักษาพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านมีความสุขได้อย่างไร?

ภรรยาข้าพเจ้าบอกว่าการแต่งงานของเราใส่แอกเทียมเราเข้าด้วยกัน และเพราะเหตุนั้นเธอจึงสามารถทำสิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ตัวอย่างเช่น ตั้งแต่เด็ก เธอไม่กล้าออกนอกบ้านตอนมืด แต่เพราะข้าพเจ้าไปด้วยเธอจึงไม่กลัวอีก เธอตัวเล็กและเอื้อมหยิบของบนชั้นสูงๆ ไม่ได้นอกจากต้องใช้เก้าอี้หรือบันได แต่ข้าพเจ้าสามารถเอื้อมหยิบของบนชั้นสูงๆ ให้เธอได้เพราะข้าพเจ้าสูงกว่า การรับแอกของพระผู้ช่วยให้รอดมาไว้กับเราก็เหมือนกัน เมื่อเราใส่แอกเทียมตัวเราเข้ากับพระองค์ เราสามารถทำสิ่งที่เราทำไม่ได้ด้วยตนเอง เพราะพระองค์ทรงสามารถทำสิ่งที่เราทำให้ตนเองไม่ได้

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์กล่าวว่า: “การทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ใส่แอกเทียมเรากับพระเจ้าพระเยซูคริสต์ ประเด็นคือ พระผู้ช่วยให้รอดทรงขอให้เราไว้ใจและลากไปพร้อมกับพระองค์ แม้เราจะพยายามสุดความสามารถก็ยังไม่เท่าเทียมและเทียบไม่ได้กับพระองค์ เมื่อเราวางใจและลากภาระไปกับพระองค์ระหว่างการเดินทางในความเป็นมรรตัย แอกของพระองค์พอเหมาะ และภาระของพระองค์ก็เบา”8

ประธานเนลสันสอนด้วยว่า:

“การเทียมแอกกับพระผู้ช่วยให้รอดหมายความว่าท่านมีสิทธิ์เข้าถึงพลังความเข้มแข็งและเดชานุภาพการไถ่ ของพระองค์9

“รางวัลสำหรับการรักษาพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าคือพลังอำนาจสวรรค์—พลังอำนาจที่เพิ่มพลังให้เราต้านทานความยากลำบาก การล่อลวง และความปวดร้าวใจได้ดีขึ้น พลังอำนาจนี้ทำให้ทางของเราง่ายขึ้น คนที่ดำเนินชีวิตตามกฎที่สูงกว่าของพระเยซูคริสต์มีสิทธิ์เข้าถึงเดชานุภาพที่สูงกว่าของพระองค์”10

“การทำและรักษาพันธสัญญาทำให้ชีวิตง่ายขึ้น! แต่ละคนที่ทำพันธสัญญาในอ่างบัพติศมาและในพระวิหาร—และรักษาพันธสัญญา—มีสิทธิ์เข้าถึงเดชานุภาพของพระเยซูคริสต์มากขึ้น”11

พี่น้องชายหญิงที่รัก ท่านอยากมีความสุขไหม? จงอยู่บนเส้นทางพันธสัญญา ชีวิตท่านจะง่ายขึ้น มีความสุขมากขึ้น และเต็มไปด้วยปีติ พระผู้ช่วยให้รอดทรงเชื้อเชิญเราว่า “บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก”12 พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ผู้ทรงพระชนม์ พระองค์ทรงแบกภาระของเราและทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน