2023
พระเยซูคริสต์ทรงเป็นสมบัติล้ำค่า
พฤศจิกายน 2023


12:24

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นสมบัติล้ำค่า

จดจ่อที่พระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา “เป้าหมาย” ที่เราควรมอง และสมบัติล้ำค่าที่สุดของเรา

ในปี 1907 เศรษฐีชาวอังกฤษชื่อจอร์จ เฮอร์เบิร์ต เอิร์ลที่ห้าแห่งคาร์นาร์วอน1 ย้ายไปอียิปต์และเริ่มหันมาสนใจเรื่องโบราณคดี เขาไปหาฮาเวิร์ด คาร์เตอร์ นักอียิปต์วิทยาที่มีชื่อเสียงและขอร่วมมือด้วย คาร์เตอร์จะดูแลการขุดค้นทางโบราณคดี ส่วนคาร์นาร์วอนจะจัดหาเงินทุน

พวกเขาสำรวจด้วยกันสำเร็จไปหลายที่ จากนั้นก็ได้รับอนุญาตให้ขุดค้นในหุบเขากษัตริย์ใกล้เมืองลักซอร์ปัจจุบัน ที่นี่เคยมีคนพบสุสานของฟาโรห์หลายคน พวกเขาตัดสินใจหาสุสานของกษัตริย์ตุตันคามุน ตุตันคามุนขึ้นครองบัลลังก์อียิปต์เมื่อ 3,000 กว่าปีก่อน และครองราชย์นาน 10 ปีก่อนสิ้นพระชนม์กะทันหัน2 ทราบกันว่าพระองค์ถูกฝังอยู่ในหุบเขากษัตริย์3 แต่ไม่มีใครทราบตำแหน่งสุสาน

คาร์เตอร์กับคาร์นาร์วอนใช้เวลาห้าปีค้นหาสุสานของตุตันคามุน แต่หาไม่พบ ในที่สุดคาร์นาร์วอนจึงบอกคาร์เตอร์ว่าเขาต้องยุติการค้นหาที่ไร้ผลเช่นนี้ คาร์เตอร์วิงวอนขอขุดค้นอีกสักระยะ และคาร์นาร์วอนยอมตกลงให้เงินสนับสนุน

คาร์เตอร์ทราบดีว่าพวกเขาขุดค้นอย่างมีแบบแผนทั่วผืนหุบเขากษัตริย์แล้ว—ยกเว้นบริเวณที่ตั้งแคมป์ของตนเอง หลังจากขุดที่นั่นได้ไม่กี่วันก็พบบันไดขั้นแรกๆ ที่พาลงไปสุสาน4

ในที่สุดเมื่อคาร์เตอร์มองเข้าไปในห้องมุขของสุสานตุตันคามุน เขาเห็นทองคำเต็มไปหมด หลังจากทำรายการสิ่งของที่อยู่ในห้องนั้นสามเดือน พวกเขาก็เปิดห้องฝังศพที่ถูกปิดตายในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1923—เมื่อ 100 ปีที่แล้ว นี่เป็นการค้นพบทางโบราณคดีที่โด่งดังสุดของศตวรรษที่ 20

ในช่วงหลายปีที่ค้นหาไม่ได้ผลนั้น คาร์เตอร์กับคาร์นาร์วอนมองข้ามสิ่งที่อยู่ใต้เท้าของตนเอง ราวห้าศตวรรษก่อนพระผู้ช่วยให้รอดประสูติ เจคอบศาสดาพยากรณ์พระคัมภีร์มอรมอนเรียกการมองข้ามคุณค่าหรือการประเมินค่าสิ่งใกล้ตัวต่ำไปว่า “การมองข้ามเป้าหมาย” เจคอบเห็นล่วงหน้าว่าผู้คนของเยรูซาเล็มจะจำพระเมสสิยาห์ตามคำสัญญาไม่ได้เมื่อพระองค์เสด็จมา เจคอบพยากรณ์ว่าพวกเขาจะเป็นคน “หมิ่นถ้อยคำแห่งความแจ้งชัด … และ [จะ] แสวงหาสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้. ดังนั้น, เพราะความมืดบอดของพวกเขา, ซึ่งความมืดบอดนั้น [จะ] เกิดจากการมองข้ามเป้าหมาย, พวกเขาจึงจำเป็นต้องตก”5 อีกนัยหนึ่งคือ พวกเขาจะสะดุด

คำทำนายของเจคอบพิสูจน์แล้วว่าถูกต้อง ระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจของพระเยซู หลายคนมองข้ามเป้าหมาย มองข้ามพระองค์ พวกเขามองเลยพระผู้ช่วยให้รอดของโลกไป แทนที่จะยอมรับบทบาทของพระองค์ในการทำให้แผนของพระบิดาบนสวรรค์ลุล่วง แต่กลับประณามและตรึงกางเขนพระองค์ พวกเขามองหาและรอให้คนอื่นนำความรอดมาให้

เหมือนคนเหล่านั้นในเยรูซาเล็ม และเหมือนคาร์เตอร์กับคาร์นาร์วอน เราอาจมีแนวโน้มที่จะมองข้ามเป้าหมายได้เช่นกัน เราต้องระวังแนวโน้มนี้เกลือกเราจะพลาดพระเยซูคริสต์ในชีวิตไปและไม่เห็นพรมากมายที่ทรงมอบให้ เราต้องการพระองค์ เราได้รับคำแนะนำให้วางใจ “อย่างเต็มที่ในคุณงามความดีของพระองค์ผู้ทรงอานุภาพที่จะช่วยให้รอด”6

พระองค์คือเป้าหมายของเรา ถ้าเราจินตนาการผิดๆ ว่าจำเป็นต้องมีบางอย่างมากกว่าที่พระองค์ทรงมอบให้ เท่ากับเราปฏิเสธหรือลดขอบเขตและพลังที่พระองค์ทรงสามารถมีในชีวิตเรา พระองค์ทรงอ้างสิทธิ์แห่งความเมตตาและประทานความเมตตานั้นแก่เรา7 พระองค์ทรงเป็น “แหล่ง [สูงสุดที่เราควรมองหา] เพื่อการปลดบาป [ของเรา]”8 พระองค์ทรงเป็นผู้วิงวอนพระบิดาแทนเราและทรงสนับสนุนสิ่งที่พระบิดาทรงต้องการตลอดมา นั่นคือ ให้เรากลับไปหาพระองค์ในฐานะทายาทในอาณาจักร ในถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์แอลมา เราต้อง “กวาดสายตาดูและเริ่มเชื่อในพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า, ว่าพระองค์จะเสด็จมาไถ่ผู้คนของพระองค์, และว่าพระองค์จะทรงรับทุกขเวทนาและสิ้นพระชนม์เพื่อชดใช้บาปของ [พวกเรา]; และว่าพระองค์จะทรงลุกขึ้นจากบรรดาคนตายอีก, ซึ่งจะทำให้เกิดการฟื้นคืนชีวิต”9 พระเยซูคริสต์ทรงเป็นสมบัติล้ำค่าของเรา

พระผู้ช่วยให้รอดประทานหลายวิธีให้เราตั้งใจจดจ่ออยู่กับพระองค์ รวมถึงให้โอกาสเรากลับใจทุกวัน บางครั้งเราประเมินค่าพรที่ทรงมอบให้นี้ต่ำเกินไป เมื่อข้าพเจ้าอายุแปดขวบ คุณพ่อให้บัพติศมาข้าพเจ้า หลังจากนั้นข้าพเจ้าจับมือท่านขณะกำลังจะข้ามถนนที่พลุกพล่าน ข้าพเจ้าไม่ได้สนใจและก้าวลงจากขอบถนนตอนรถบรรทุกคันใหญ่แล่นผ่านมาพอดี คุณพ่อกระชากข้าพเจ้ากลับขึ้นมาบนขอบถนน ถ้าท่านไม่ทำอย่างนั้นข้าพเจ้าคงถูกรถชนไปแล้ว เพราะรู้ตัวว่าเป็นเด็กนิสัยซุกซน ข้าพเจ้าจึงคิดว่า “ถูกรถชนตายน่าจะดีกว่าเพราะคงไม่มีวันสะอาดเท่าตอนนี้เพราะเพิ่งได้รับบัพติศมามาหมาดๆ”

ตอนอายุแปดขวบ ข้าพเจ้าเข้าใจผิดว่าน้ำบัพติศมาล้างบาปออกไปแล้ว ไม่ใช่เลย ในหลายปีตั้งแต่รับบัพติศมา ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่าบาปถูกชำระล้างโดยเดชานุภาพของพระเยซูคริสต์ผ่านการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระองค์เมื่อเราทำและรักษาพันธสัญญาบัพติศมา10 จากนั้นเราจะยังสะอาดได้ผ่านของประทานแห่งการกลับใจ ข้าพเจ้าเรียนรู้เช่นกันว่าศีลระลึกนำวัฏจักรคุณธรรมอันทรงพลังเข้ามาในชีวิต ทำให้เรารักษาการปลดบาปเอาไว้ได้11

เฉกเช่นสมบัติล้ำค่าที่อยู่ใต้เท้าคาร์เตอร์กับคาร์นาร์วอน พรอันล้ำค่าของศีลระลึกก็มีให้ทุกครั้งที่เราเข้าร่วมการประชุมศีลระลึก เราได้รับสัญญาว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงเป็นเพื่อนเราตลอดเวลาถ้าเรารับศีลระลึกแบบที่ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่รับบัพติศมาและการยืนยัน ด้วยใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิดและตั้งใจแน่วแน่ว่าจะดำเนินชีวิตตามพันธสัญญาบัพติศมานั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์จะประทานพรให้เรามีอำนาจการชำระให้บริสุทธิ์ของพระองค์เพื่อเราจะสามารถรักษาการปลดบาปไว้ได้ตลอดเวลา สัปดาห์ต่อสัปดาห์12

รากฐานทางวิญญาณของเราจะแข็งแกร่งขึ้นผ่านการกลับใจและโดยการเตรียมตัวอย่างมีสติและรับส่วนศีลระลึกอย่างมีค่าควร ด้วยรากฐานแข็งแกร่งทางวิญญาณเท่านั้นเราจึงจะสามารถรับมือกับฝน ลม และน้ำท่วมในเชิงอุปมาที่เราเผชิญในชีวิตได้13 ในทางกลับกัน รากฐานทางวิญญาณของเราอ่อนแอลงเมื่อเราสมัครใจขาดการประชุมศีลระลึกหรือเมื่อเราไม่จดจ่อกับพระผู้ช่วยให้รอดระหว่างศีลระลึก เราอาจ “ถอนตัว [เรา] ไปจากพระวิญญาณของพระเจ้า [โดยไม่ตั้งใจ], จนพระองค์ไม่มีที่อยู่ใน [เรา] เพื่อทรงนำ [เรา] ไปในวิถีแห่งปัญญาเพื่อ [เรา] จะได้รับพร, ความรุ่งเรือง, และการปกปักรักษา”14

เมื่อเรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่กับเรา เราจะได้รับการดลใจและการนำทางให้ทำและรักษาพันธสัญญาอื่นๆ เช่น พันธสัญญาที่เราทำในพระวิหาร การทำเช่นนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับพระผู้เป็นเจ้าลึกซึ้งขึ้น15 ท่านอาจสังเกตเห็นว่ามีประกาศสร้างพระวิหารใหม่หลายแห่งในช่วงไม่กี่ปีมานี้เพื่อให้พระวิหารอยู่ใกล้สมาชิกมากขึ้น16 ความย้อนแย้งก็คือ ยิ่งไปพระวิหารได้ง่ายขึ้น เราก็ยิ่งฉาบฉวยง่ายขึ้นต่อการเข้าพระวิหาร เมื่อพระวิหารอยู่ไกล เราวางแผนเวลาและทรัพยากรเพื่อเดินทางไปนมัสการที่นั่น เราให้ความสำคัญกับการเดินทางเหล่านี้

แต่เมื่อพระวิหารอยู่ใกล้แค่เอื้อม เรากลับปล่อยให้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ขัดขวางไม่ให้ไป และพูดกับตัวเองว่า “ไว้ค่อยไปคราวหน้า” การอยู่ใกล้พระวิหารทำให้การกำหนดเวลาเข้าพระวิหารมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่ความยืดหยุ่นนั้นสามารถทำให้เรามองข้ามคุณค่าของพระวิหารง่ายขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น เราย่อม “มองข้ามเป้าหมาย” พลางด้อยค่าโอกาสที่จะเข้าใกล้พระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้นในพระนิเวศน์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ความมุ่งมั่นในการเข้าพระวิหารอย่างน้อยควรหนักแน่นเมื่อพระวิหารอยู่ใกล้พอๆ กับเมื่ออยู่ไกล

หลังจากคาร์เตอร์กับคาร์นาร์วอนขุดค้นในหุบเขากษัตริย์หมดแล้วทุกที่เพื่อหาสุสานตุตันคามุน พวกเขาถึงรู้ตัวว่ามองข้ามบางอย่างไป เราไม่จำเป็นต้องลงแรงหาสมบัติล้ำค่าของเราอย่างที่พวกเขาทำมาระยะหนึ่งแล้วไร้ผล เราไม่จำเป็นต้องขอคำแนะนำจากแหล่งอื่นที่ผิดธรรมดา โดยให้คุณค่ากับความแปลกใหม่ของแหล่งที่มาและคิดว่าคำแนะนำเช่นนั้นจะแจ่มแจ้งกว่าที่เราสามารถได้รับจากศาสดาพยากรณ์ผู้ถ่อมใจของพระผู้เป็นเจ้า

ตามที่บันทึกในพันธสัญญาเดิม เมื่อนาอามานหาวิธีรักษาโรคเรื้อน เขาโกรธมากเมื่อถูกขอให้ไปจุ่มตัวเจ็ดครั้งในแม่น้ำธรรมดาที่อยู่ใกล้ๆ แต่เขาถูกชักชวนให้ทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์เอลีชา แทนที่จะพึ่งพาความคิดอุปาทานของตนเองว่าปาฏิหาริย์ควรเกิดขึ้นอย่างไร ผลก็คือ นาอามานรักษาหาย17 เมื่อเราวางใจศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าบนโลกทุกวันนี้และทำตามคำแนะนำของท่าน เราจะพบความสุข และเราก็จะรักษาหายได้เช่นกัน เราไม่ต้องมองหาที่อื่น

พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอให้ท่านจดจำและจดจ่ออยู่กับพระเยซูคริสต์เสมอ พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา “เป้าหมาย” ที่เราควรมอง และสมบัติล้ำค่าที่สุดของเรา เมื่อท่านมาหาพระองค์ ท่านจะได้รางวัลเป็นพลังในการผจญความท้าทายของชีวิต ความกล้าในการทำสิ่งถูกต้อง และความสามารถในการทำพันธกิจของท่านในชีวิตมรรตัยให้ลุล่วง เห็นค่าโอกาสในการกลับใจ สิทธิพิเศษของการรับส่วนศีลระลึก พรของการทำและรักษาพันธสัญญาพระวิหาร ความสุขใจของการนมัสการในพระวิหาร และปีติของการมีศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต

ข้าพเจ้าเป็นพยานอย่างจริงจังและแน่นอนว่าพระผู้เป็นเจ้าพระบิดานิรันดร์ทรงเป็นพระบิดาบนสวรรค์ของเราและทรงพระชนม์อยู่ พระเยซูคือพระคริสต์ ทรงเป็นสหายของเราจากสวรรค์ผู้ทรงเมตตาและปราดเปรื่อง18 และนี่คือศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์ ขอบคุณสำหรับศรัทธาและความซื่อสัตย์ของท่าน ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้ท่านได้รับพร ความรุ่งเรือง และการปกปักรักษา ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. ชื่อเต็มของท่านเอิร์ลที่ห้าของคาร์นาร์วอนคือจอร์จ เอ็ดเวิร์ด สแตนโฮป โมลีเน็กซ์ เฮอร์เบิร์ต

  2. ผลสแกนด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ในปี 2005 พบว่าฟาโรห์ตุตันคามุนอาจมีกระดูกขาข้างหนึ่งหักจนอาจติดเชื้อและเสียชีวิต

  3. ฟาโรห์แห่งอาณาจักรใหม่ของอียิปต์ส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ในหุบเขากษัตริย์ สุสานเหล่านั้นส่วนใหญ่ถูกคนสมัยก่อนค้นพบและถูกปล้น

  4. เรื่องราวการค้นพบสุสานตุตันคามุนหลักๆ มาจาก Eric H. Cline, “King Tut’s Tomb,” Archaeology: An Introduction to the World’s Greatest Sites (2016), 60–66.

    หลายปัจจัยมีส่วนช่วยให้คาร์เตอร์กับคาร์นาร์วอนเลือกได้ว่าจะขุดค้นจุดไหน—และไม่ขุดค้นจุดไหน—ในหุบเขากษัตริย์ บริเวณรอบที่ตั้งแคมป์ดูแล้วไม่น่าขุดค้นในทันที พื้นที่สามเหลี่ยมนั้นเป็นช่องทางให้ผู้มาเยือนเข้าไปในสุสานของรามเสสที่หกได้ ด้วยเหตุนี้การขุดเจาะที่นั่นจึงยุ่งยากเป็นพิเศษ ตามคำพูดของคาร์เตอร์ พื้นที่ดังกล่าวถูกบดบังด้วย “กระท่อมคนงานที่สร้างหยาบๆ จำนวนหนึ่งซึ่งอาจจะใช้โดยคนงานในสุสานรามเสส … [และ] ดินสามฟุตที่อยู่ใต้กระท่อมเหล่านั้น” ซึ่งดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีกระท่อมด้านบนทางเข้าสุสาน (ดู Howard Carter and A. C. Mace, The Tomb of Tut-ankh-Amen: Discovered by the Late Earl of Carnarvon and Howard Carter, vol. 1 [1923], 124-–128, 132)

    ดูเรื่องราวอื่นๆ ของการค้นพบสุสานตุตันคามุนได้ที่ Zahi Hawass, Tutankhamun and the Golden Age of the Pharaohs (2005); Nicholas Reeves, The Complete Tutankhamun: The King, the Tomb, the Royal Treasure (1990), 80–83; และ Nicholas Reeves and Richard H. Wilkinson, The Complete Valley of the Kings: Tombs and Treasures of Egypt’s Greatest Pharaohs (1996), 81–82.

  5. เจคอบ 4:14

  6. 2 นีไฟ 31:19

  7. ดู โมโรไน 7:27–28

  8. 2 นีไฟ 25:26

  9. แอลมา 33:22

  10. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:52

  11. ดู David A. Bednar, “Teach to Build Faith in Jesus Christ” (address given at the seminar for new mission leaders, June 23, 2023); Rachel Sterzer Gibson, “Teach to Build Faith in Jesus Christ, Elder Bednar Instructs,” Church News, June 23, 2023, thechurchnews.com.

  12. อย่างไรก็ตาม ศีลระลึกไม่ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นช่องทางให้เรารับการปลดบาปโดยเฉพาะ (ดู James E. Talmage, The Articles of Faith, 12th ed. [1924], 175) บุคคลจะจงใจทำบาปตอนค่ำวันเสาร์และคาดหวังว่าทั้งหมดที่เขาต้องทำคือกินขนมปังหนึ่งชิ้นและดื่มน้ำหนึ่งถ้วยในวันอาทิตย์แล้วจะสะอาดทันตาไม่ได้ แต่ผลการชำระให้บริสุทธิ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถชำระทุกคนที่กลับใจด้วยใจจริงและด้วยเจตนาแท้จริงให้สะอาดได้

  13. ดู 3 นีไฟ 18:12–13

  14. โมไซยาห์ 2:36

  15. ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า: “พระผู้เป็นเจ้าทรงมีความรักเป็นพิเศษให้กับทุกคนที่ทำพันธสัญญากับพระองค์ในน้ำบัพติศมา และความรักนั้นลึกซึ้งขึ้นเมื่อเราทำพันธสัญญาเพิ่มเติมและรักษาอย่างซื่อสัตย์” (“การเลือกเพื่อนิรันดร” [การให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับคนหนุ่มสาวทั่วโลก, 15 พ.ค. 2022], คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ) พันธสัญญาหลายอย่างบนเส้นทางพันธสัญญาไม่ได้เป็นลำดับต่อเนื่องกันเท่านั้น แต่เป็นการเพิ่มเติมและส่งเสริมกันด้วย พันธสัญญาทำให้สายสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้าใกล้ชิดขึ้นและแข็งแรงขึ้น สายสัมพันธ์เช่นนั้นช่วยให้เราเปลี่ยนสภาพไปจนถึงจุดที่รูปลักษณ์ของพระองค์อยู่ในสีหน้าของเราและหัวใจของเราเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งและถาวร (ดู แอลมา 5:14)

  16. ประธานเนลสันอธิบายว่าพระเจ้าทรง “ทำให้พระวิหารของพระองค์เข้าถึงได้มากขึ้น ทรงเร่งความเร็วที่เรากำลังสร้างพระวิหาร ทรงเพิ่มความสามารถของเราในการช่วยรวบรวมอิสราเอล และทรงทำให้เราแต่ละคนขัดเกลาทางวิญญาณง่ายขึ้น” (“มุ่งความสำคัญที่พระวิหาร,” เลียโฮนา, พ.ย. 2022, 121)

  17. ดู 2 พงศ์กษัตริย์ 5:9–14

  18. ดู “ฉันรู้พระผู้ไถ่ทรงพระชนม์,” หนังสือเพลงสวด, บทเพลงที่ 59.