2023
ปีติของท่านจะใหญ่หลวงเพียงใด
พฤศจิกายน 2023


13:48

ปีติของท่านจะใหญ่หลวงเพียงใด

บัดนี้ข้าพเจ้าขอเชิญชวนท่านให้ใช้ทักษะความรู้ควบคู่กับประจักษ์พยานที่มีมายาวนานออกไปเป็นผู้สอนศาสนา

พี่น้องที่รัก ความคิดข้าพเจ้าวันนี้อยู่ที่การรวมอิสราเอล สิ่งที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเรียกว่า “สิ่งสำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกในปัจจุบัน ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ในด้านมิติ ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ในด้านความสำคัญ ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ในด้านความสง่างาม”1

การรวมดังกล่าวเป็นการรับรู้ขั้นสูงสุดว่า “ค่าของจิตวิญญาณยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้า”2 เรียบง่ายเช่นนั้นเลย เรากำลังรวบรวมลูกๆ ของพระผู้เป็นเจ้าในวันเวลาสุดท้ายนี้เพื่อพวกเขาจะมี “พร … เทลงมาบนศีรษะพวกเขา”3 และสัญญาเรื่อง “ความมั่งคั่งแห่งนิรันดร”4 นั่นแปลว่าเราต้องมีผู้สอนศาสนาในการรวบรวมอิสราเอล—มากกว่าที่กำลังรับใช้อยู่เป็นอย่างมาก วันนี้ข้าพเจ้ากำลังพูดกับผู้อาวุโสหลายคนที่คร่ำหวอดในศาสนจักรผู้สามารถรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาได้ พระเจ้าทรงต้องการท่าน เราต้องการท่านในนิวยอร์กและชิคาโก ออสเตรเลียและแอฟริกา ประเทศไทยและเม็กซิโก และทุกหนทุกแห่ง

ข้าพเจ้าขอพาท่านกลับไปในปี 2015 ข้าพเจ้าเป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองที่ได้รับเรียกใหม่ หนึ่งในความรับผิดชอบวิเศษสุดที่เรามีในฐานะอัครสาวกคือมอบหมายผู้สอนศาสนาไปตามสนามเผยแผ่ ข้าพเจ้าเคยมีส่วนในกระบวนการนี้สมัยเป็นสาวกเจ็ดสิบ6 แต่คราวนี้ในฐานะอัครสาวก ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความหนักหน่วงของงานมอบหมายนี้ ข้าพเจ้าเริ่มด้วยการจัดเอ็ลเดอร์และซิสเตอร์หนุ่มสาวจำนวนมากไว้ในคณะเผยแผ่ทั่วโลกทีละคนร่วมกับการสวดอ้อนวอน จากนั้นก็เริ่มจัดคู่อาวุโส ตอนนั้นมี 10 คู่ในรายชื่อ ซึ่งไม่มากเลย ข้าพเจ้าแปลกใจ จึงถามเพื่อนร่วมงานจากแผนกผู้สอนศาสนาว่า “เราต้องจัดให้ตามคำขอทั้งหมดกี่คู่สัปดาห์นี้?”

เขาตอบว่า “300”

ข้าพเจ้ายังจำช่วงเวลาเงียบขรึมนั้นได้: 10 คู่สำหรับคำขอ 300 คู่

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันขอให้คู่สามีภรรยา “คุกเข่าทูลถามพระบิดาบนสวรรค์ว่านั่นใช่เวลาที่พวกเขาจะรับใช้งานเผยแผ่ … หรือไม่”7 ในบรรดาคุณสมบัติทั้งหมด ท่านกล่าวว่า “ความปรารถนา ที่จะรับใช้อาจเป็นข้อสำคัญที่สุด”8

ดังที่พระคัมภีร์กล่าว “หากเจ้ามีความปรารถนาจะรับใช้พระผู้เป็นเจ้า เจ้าก็ได้รับเรียกมายังงาน”9 งานนั้นเกี่ยวข้องกับกฎแห่งการเก็บเกี่ยวล้วนๆ เราอ่านในยอห์นว่า “ทั้งคนหว่านและคนเกี่ยวจะได้ชื่นชมยินดีด้วยกัน”10

ข้าพเจ้าเคยเห็นกฎแห่งการเก็บเกี่ยวเกิดสัมฤทธิผลในครอบครัวตนเอง

หลายปีก่อน ช่วงข้าพเจ้าไปเยี่ยมครอบครัว อธิการขอให้ข้าพเจ้าพูดปิดพิธีศีลระลึก11 ขณะลงมาจากยกพื้น สตรีคนหนึ่งเดินมาหาข้าพเจ้าพร้อมลูกๆ เจ็ดคนและแนะนำตัวว่าเธอชื่อซิสเตอร์รีเบ็กกา กุซแมน

เธอถามว่า “เอ็ลเดอร์ราสแบนด์คะ คุณรู้จักรูลอนกับเวอร์ดา ราสแบนด์ไหมคะ?”

ข้าพเจ้ายิ้มกว้างและตอบว่า “ทั้งสองคนเป็นพ่อแม่ผมครับ”

ท่านคงทราบว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร ด้วยคำอนุญาตจากรีเบ็กกาซึ่งอยู่กับครอบครัวของเธอที่นี่ในศูนย์การประชุมใหญ่ ข้าพเจ้าจะเล่าเรื่องครอบครัวของเธอ12

ซิสเตอร์เวอร์ดากับเอ็ลเดอร์รูลอน ราสแบนด์

คุณพ่อคุณแม่ข้าพเจ้า เอ็ลเดอร์รูลอนกับซิสเตอร์เวอร์ดา ราสแบนด์ รับใช้เป็นคู่อาวุโสในคณะเผยแผ่ฟลอริดา ฟอร์ตลอเดอร์เดล13 พวกท่านกำลังเผยแพร่ศาสนาและได้รับการทรงนำให้เคาะประตูบ้านของรีเบ็กกา เธอยังเป็นวัยรุ่นและชอบฟังเพลงของวงดนตรีครอบครัวออสมอนด์ โดยเฉพาะดอนนี่เพื่อนของเรา—ซึ่งอยู่กับเราที่นี่วันนี้14 เธอได้ฟังการให้สัมภาษณ์สื่อของพวกเขาและทราบว่าพวกเขาเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เธอรู้สึกว่าพวกเขามีบางอย่างไม่เหมือนใคร และคิดว่าน่าจะเป็นศาสนา รีเบ็กกาจึงใช้เวลาสองปีค้นคว้าความเชื่อของศาสนจักรในห้องสมุดโรงเรียน เมื่อคู่สามีภรรยาท่าทางใจดีมาเคาะประตูบ้านของครอบครัวเธอและแนะนำตัวว่าเป็นผู้สอนศาสนาวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เธอถึงกับอึ้ง

“คุณแม่บอกให้ดิฉันไล่พวกเขาไป” รีเบ็กกาเขียนในภายหลัง “แต่ใจดิฉันบอกว่า ‘ไม่’ ดิฉันมองหน้าพวกเขา และรู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักมากมาย นึกถึงเรื่องนี้ทีไร ดิฉันก็น้ำตาไหลและตื้นตันใจทุกที”15

รีเบ็กกาเชิญพวกเขาเข้าบ้าน และคุณพ่อคุณแม่ผู้สอนศาสนาของข้าพเจ้าก็แบ่งปันข่าวสารกับเธอและน้องสาวอีกสองคน รวมถึงคุณแม่ของเธอด้วย แม้ท่านจะคัดค้านก็ตาม

รีเบ็กกาบอกข้าพเจ้าว่า: “พ่อแม่ของคุณทั้งคู่อธิบายคำถามทุกอย่างที่เรามีได้ดีมาก ดิฉันยังคงเห็นใบหน้าพวกท่านเหมือนมีแสงล้อมรอบ เรากอดคุณแม่ของคุณทุกครั้งเมื่อท่านกลับ และท่านตั้งใจช่วยให้คุณแม่ของดิฉันรู้สึกสบายใจและรู้สึกเป็นที่เคารพเสมอ คุณพ่อของคุณมีประกายในดวงตาทุกครั้งเวลาสอนเราเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ท่านพยายามดึงคุณพ่อของดิฉันให้อยู่ในบทสนทนาด้วยและชนะใจคุณพ่อในที่สุด คุณพ่อดิฉันเป็นเชฟในคันทรีคลับและเริ่มทำอาหารเย็นให้พ่อแม่ของคุณ รวมถึงพายมะนาวของโปรดของคุณพ่อคุณด้วย”16

เมื่อเอ็ลเดอร์กับซิสเตอร์ราสแบนด์ขอให้รีเบ็กกากับครอบครัวอ่านพระคัมภีร์มอรมอน รีเบ็กกาอ่านจบในห้าวัน เธอต้องการรับบัพติศมาทันที แต่สมาชิกคนอื่นในครอบครัวเธอไม่พร้อม หลังจากสี่เดือน รีเบ็กกายืนกรานจะรับบัพติศมาและเข้าร่วมศาสนจักรที่แท้จริง เธอจำได้ว่า “ทุกอณูของจิตวิญญาณดิฉันรู้ว่าศาสนจักรนี้เป็นความจริง”17 วันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1979 ผู้สอนศาสนาให้บัพติศมารีเบ็กกาวัย 19 ปี คุณแม่ของเธอ และน้องสาวสองคน คุณพ่อข้าพเจ้าเป็นพยานที่พิธีบัพติศมา

เมื่อข้าพเจ้าพบรีเบ็กกากับครอบครัวเธอที่โบสถ์ เราถ่ายรูปครอบครัวเธอกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเอารูปถ่ายกลับบ้านไปให้คุณแม่ที่อยู่ในวัยชราดู ท่านถือรูปไว้แนบอก แล้วพูดกับข้าพเจ้าว่า “รอนนี่ วันนี้เป็นวันที่แม่มีความสุขที่สุดวันหนึ่งในชีวิต”

ครอบครัวกุซแมน ครอบครัวราสแบนด์ และครอบครัวออสมอนด์

คำตอบของคุณแม่วอนให้เกิดคำถามกับผู้อาวุโสของเราว่า: “คุณกำลังทำอะไรกับชีวิตช่วงวัยนี้?” มีหลายวิธีมากที่ผู้สอนศาสนาอาวุโสสามารถทำสิ่งที่ไม่มีใครทำได้ ท่านเป็นกำลังสำคัญในการทำดี คร่ำหวอดในศาสนจักร และอยู่ในจุดที่สามารถให้กำลังใจและช่วยลูกๆ ของพระผู้เป็นเจ้า

บางท่านอาจคิดว่า “แต่จะทิ้งหลานๆ ไปได้อย่างไร? เราคงคิดถึงช่วงสำคัญของครอบครัว วันเกิด เพื่อนฝูง และแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยงของเรา” ถ้าข้าพเจ้าถามคุณแม่ว่าทำไมท่านกับคุณพ่อไปเป็นผู้สอนศาสนา ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านจะตอบแบบนี้: “แม่มีหลาน แม่อยากให้พวกเขารู้ว่าแม่กับพ่อของลูกรับใช้ในสนามเผยแผ่ เราอยากเป็นแบบอย่างให้ลูกหลาน และเราได้รับพร ได้รับพรมากจริงๆ”

เมื่อข้าพเจ้าไปเยี่ยมคณะเผยแผ่ทั่วโลก ข้าพเจ้าได้เห็นการรับใช้อันน่าทึ่งของกองทัพผู้สอนศาสนาอาวุโสของเรา เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความสุขกับการทำตาม “พระประสงค์ของพระเจ้า” และกระทำ “กิจธุระของพระเจ้า”18

สำหรับบางท่าน และเราหวังว่าสำหรับท่านหลายพันคน การรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลาในอีกมุมหนึ่งของโลกจะเป็นที่ที่ใช่19 ส่วนท่านอื่นอาจจะอยากรับใช้งานเผยแผ่ในหน่วยงานศาสนจักรที่บ้านมากกว่า เนื่องจากปัญหาสุขภาพและสภาวการณ์อื่นๆ จึงมีคนที่ไม่สามารถรับใช้ได้ เราเข้าใจสถานการณ์เหล่านั้น และข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะหาวิธีสนับสนุนคนที่กำลังรับใช้ จงทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์และสวดอ้อนวอนให้รู้ว่าพระเจ้าทรงประสงค์ให้ท่านทำอะไร

สนามเผยแผ่ทั่วโลกกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากท่าน ประธานเนลสันพูดถึงผู้สอนศาสนาอาวุโสของเราว่า “พวกเขายังหนุ่มในจิตวิญญาณ ฉลาด และเต็มใจทำงาน”20

ในสนามเผยแผ่ ท่านมีโอกาสให้เลือกเหมือนบุฟเฟต์ ท่านอาจรับใช้ในสำนักงานคณะเผยแผ่หรือพระวิหาร, เสริมสร้างผู้สอนศาสนาหนุ่มสาว, หนุนสาขาเล็กๆ, ทำงานในศูนย์ FamilySearch หรือสถานที่ประวัติศาสตร์, สอนสถาบัน, รับใช้ด้านมนุษยธรรม, ทำงานกับคนหนุ่มสาว, ช่วยในศูนย์จัดหางานหรือฟาร์มของศาสนจักร รายละเอียดวิธีรับใช้ อะไรเหมาะกับท่านที่สุด ส่วนไหนต้องการท่าน และท่านจะเตรียมพร้อมอย่างไร ล้วนมีบอกไว้บนเว็บไซต์ “Senior Missionary (ผู้สอนศาสนาอาวุโส)”21 และท่านสามารถพูดคุยกับอธิการหรือประธานสาขาได้ด้วย

ข้าพเจ้าเคยเรียกหลายคู่ให้รับใช้และเฝ้าดูขณะแสงสว่างของพระคริสต์อาบสีหน้าของพวกเขา22 เมื่อกลับบ้านพวกเขาพรรณนาถึงการได้สนิทกับพระเจ้ามากขึ้น ได้สนิทกันมากขึ้น รู้สึกว่าพระวิญญาณของพระเจ้าเทลงมาบนพวกเขา และรู้ว่าพวกเขากำลังสร้างความแตกต่าง23 ใครเล่าจะไม่อยากได้แบบนั้น?

งานเผยแผ่อาจจะเป็นบทสำคัญที่สุดในชีวิตคู่ก็ได้ ชื่อบทที่ดีอาจจะเป็น “พระเจ้าทรงต้องการให้ข้าไป”24 ท่านอาจได้อยู่ในพื้นที่ไม่คุ้นเคย แต่อำนาจของพระวิญญาณจะทำให้ท่านรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน

คุณพ่อคุณแม่ข้าพเจ้า และอดีตผู้สอนศาสนาคู่สามีภรรยาที่กลับมาแล้ว ล้วนแสดงประจักษ์พยานถึงปีติที่พวกเขาพบในงานเผยแผ่ พระเจ้าตรัสไว้ในพระคัมภีร์ยุคสุดท้ายว่า “หากเป็นไปว่าเจ้าจะทำงานตลอดวันเวลาของเจ้าในการป่าวร้องการกลับใจแก่คนพวกนี้, และนำ, แม้จิตวิญญาณเดียวมาหาเรา, ปีติของเจ้าพร้อมกับเขาจะใหญ่หลวงเพียงใดในอาณาจักรแห่งพระบิดาของเรา!”25

อิสยาห์ให้คำอธิบายเป็นบทกวีว่าการรับใช้ในสนามเผยแผ่หมายความว่าอย่างไร พระคัมภีร์บอกเราว่าสนามหรือท้องทุ่ง “นานั้นได้แก่โลก”26 ศาสดาพยากรณ์ที่ยิ่งใหญ่สมัยโบราณท่านนี้เขียนว่า “เพราะพวก‍เจ้าจะออกไปด้วยความชื่น‍บาน และจะถูกนำพาไปโดยสวัสดิ‌ภาพ บรร‌ดาภูเขาและเนิน‍เขา จะเปล่ง‍เสียงร้อง‍เพลงต่อ‍หน้าพวก‍เจ้า และต้น‍ไม้ทั้ง‍หมดในท้อง‍ทุ่งจะตบ‍มือ”27 ภูเขา เนินเขา ท้องทุ่ง และต้นไม้อาจเปรียบได้กับประธานคณะเผยแผ่ อธิการ ผู้นำท้องถิ่น สมาชิก และคนที่แสวงหาความจริงแต่ “หารู้ไม่ว่าจะพบได้จากที่ใด”28 คนเหล่านั้นจะเป็นพยานว่าผู้สอนศาสนาอาวุโสเปลี่ยนภูมิประเทศนั้นด้วยประจักษ์พยานที่มีในพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของเรา พระเยซูคริสต์

ในฐานะอัครสาวกของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าขอให้ท่านรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาในการรวบรวมอิสราเอลและบางทีท่านอาจรับใช้อีกครั้ง เราต้องการท่าน—เราต้องการท่าน เราสำนึกคุณต่อท่านผู้อาวุโสทั้งหลายสำหรับชีวิตที่ท่านดำเนินมาและแบบอย่างที่ท่านเป็นในบ้าน วอร์ด และสเตคของท่าน บัดนี้ข้าพเจ้าขอเชิญชวนท่านให้ใช้ทักษะความรู้ควบคู่กับประจักษ์พยานที่มีมายาวนานออกไปเป็นผู้สอนศาสนา ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้คราวหน้าเมื่อข้าพเจ้านั่งมอบหมายงานให้คู่อาวุโส จะมีพวกท่านหลายร้อยคนรอจดหมายเรียกอย่างใจจดใจจ่อ

ข้าพเจ้าสัญญาด้วยว่าเมื่อท่านรับใช้ท่านจะรู้สึกถึงความรักของพระเจ้าในชีวิต ท่านจะรู้จักพระองค์ พระองค์จะทรงรู้จักท่าน และ “ปีติของท่านจะใหญ่หลวงเพียงใด”29 การอุทิศตนรับใช้พระเยซูคริสต์ของท่านจะสร้างแรงบันดาลใจและเป็นพรแก่ครอบครัวกับบรรดาหลานๆ เหลนๆ ของท่าน “สันติสุข และความรัก [จะ] เพิ่มพูน”30 ในชีวิตท่านไปอีกหลายปี ข้าพเจ้าสัญญา ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ความหวังอิสราเอล” (การให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับเยาวชนทั่วโลก, 3 มิ.ย. 2018), คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ

  2. หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:10

  3. 3 นีไฟ 10:18

  4. หลักคำสอนและพันธสัญญา 78:18

  5. ศาสนจักรมีผู้สอนศาสนาเต็มเวลา 71,000 คนในคณะเผยแผ่ 414 แห่งทั่วโลกตั้งแต่อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ไปจนถึงยุโรปและแอฟริกา เอเชีย และออสเตรเลีย/โอเชียเนีย มีผู้สอนศาสนาอาวุโสในหน่วยงานศาสนจักร 34,000 คน (ข้อมูลแผนกผู้สอนศาสนา, ก.ย. 2023)

  6. ดู โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์, “การเรียกจากเบื้องบนของผู้สอนศาสนา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2010.

  7. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ช่วงสำคัญของผู้สอนศาสนาอาวุโส,” เลียโฮนา, เม.ย. 2016.

  8. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ผู้สอนศาสนาอาวุโสและพระกิตติคุณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2004, 99.

  9. หลักคำสอนและพันธสัญญา 4:3

  10. ยอห์น 4:36

  11. ตอนนั้นข้าพเจ้าอยู่ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กำลังเข้าร่วมพิธีบัพติศมาของบรูคลีนหลานสาวและพิธีให้พรเอ็ลลาหลานสาวในเดือนเมษายนปี 2006

  12. จดหมายจากรีเบ็กกา กุซแมนถึงเอ็ลเดอร์โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์, 8 ก.ย. 2009.

  13. คุณพ่อคุณแม่ของข้าพเจ้ารับใช้ในคณะเผยแผ่ฟลอริดา ฟอร์ตลอเดอร์เดลในปี 1979

  14. ครอบครัวออสมอนด์เป็นวงนักดนตรีชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงเรื่องเพลงป๊อบ วงนี้โด่งดังที่สุดในช่วงกลางทศวรรษ 1970 และออกรายการโทรทัศน์หลายรายการ ดอนนี่กับแมรี่ยังคงทำอาชีพด้านโทรทัศน์กับการแสดง ส่วนน้องชายเป็นศิลปินคันทรีในแบรนสัน มิสซูรีมานานหลายสิบปีแล้ว

  15. จดหมายจากรีเบ็กกา กุซแมน, 8 ก.ย. 2009.

  16. จดหมายจากรีเบ็กกา กุซแมน, 8 ก.ย. 2009.

  17. จดหมายจากรีเบ็กกา กุซแมน, 8 ก.ย. 2009.

  18. หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:29

  19. ผู้สอนศาสนาอาวุโสมีโอกาสหลายแบบ คู่สามีภรรยาหรือซิสเตอร์อาวุโสสามารถระบุได้ว่าต้องการทำงานมอบหมายแบบเต็มเวลาหรือในหน่วยงานศาสนจักร สุดท้ายแล้ว ศาสดาพยากรณ์ของศาสนจักรคือคนที่ให้การเรียกสำหรับการรับใช้แบบเต็มเวลา ประธานสเตคจะให้งานมอบหมายที่ทำในหน่วยงานศาสนจักร การรับใช้จะมีช่วงเวลาตั้งแต่ 6 เดือนถึง 23 เดือน และผู้สอนศาสนาอาวุโสมีกิจกรรมที่ใช้กำลังน้อยกว่าและยืดหยุ่นได้มากกว่าผู้สอนศาสนาหนุ่มสาว ดู seniormissionary.ChurchofJesusChrist.org

  20. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ผู้สอนศาสนาอาวุโสและพระกิตติคุณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2004, 100.

  21. ดู seniormissionary.ChurchofJesusChrist.org

  22. ดู แอลมา 5:14 “สีหน้า” สามารถสะท้อนเจตคติทางวิญญาณและสภาพจิตใจของแต่ละบุคคล

  23. ดู ยูดา 1:22; โมไซยาห์ 4:20

  24. ดู “ข้าจะไปที่พระองค์บัญชา,” เพลงสวด, บทเพลงที่ 136.

  25. หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:15

  26. พระเจ้าทรงอธิบายว่า “นานั้นได้แก่โลก … ฤดูเกี่ยวได้แก่เวลาสิ้นยุค” (มัทธิว 13:38–39)

  27. ดู อิสยาห์ 55:12

  28. หลักคำสอนและพันธสัญญา 123:12

  29. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:15

  30. ยูดา 1:2