ข่าวศาสนจักร

อัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ปฏิบัติศาสนกิจต่อวิสุทธิชนทั่วโลก

ในวันแห่งการให้อภัยทั่วโลกในเดือนกรกฎาคม ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน แบ่งปันข่าวสารเรื่องการให้อภัยบนโซเชียลมีเดีย “การให้อภัยไม่เพียงเป็นการกระทําครั้งเดียวแต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องอาศัยความอดทน ความเห็นอกเห็นใจ และความเข้าใจ” ท่านกล่าว “การให้อภัยคนที่ทําร้ายท่านไม่ง่ายเสมอไป ท่านสามารถได้รับความเข้มแข็งจากพระเยซูคริสต์”

ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์ ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานสูงสุดกระตุ้นคนหนุ่มสาวทั่วโลกระหว่างการให้ข้อคิดทางวิญญาณในวันที่ 21 พฤษภาคมให้รักษามุมมองนิรันดร์ไว้ขณะพวกเขาจัดการกับ “ช่วงเวลาตึงเครียด” ในปัจจุบัน

“ไม่ว่าเราจะมีความแตกต่างในตนเองอย่างไรในความหลากหลายของการสร้างของพระบิดาในสวรรค์ของเรา พระองค์ทรงรักเราทุกคน และในแผนแห่งความสุขอันสมบูรณ์แบบของพระองค์มีที่ให้ทุกคน” ประธานโอ๊คส์กล่าว “เราแสดงความรักที่เรามีต่อพระองค์โดยรักษาพระบัญญัติของพระองค์ รวมถึงการรักบุตรธิดาของพระองค์ด้วย”

ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์ ที่ปรึกษาที่สองในฝ่ายประธานสูงสุดกระตุ้นให้วิสุทธิชนยุคสุดท้ายเข้าพระวิหารซาราโทกาสปริงส์ ยูทาห์ในวันที่ 13 สิงหาคมเพื่อตอบรับพระนิเวศน์แห่งใหม่ของพระเจ้าด้วยศรัทธาและพลัง

สมาชิกศาสนจักร “ได้รับพระวิหารแห่งนี้เป็นเครื่องหมายแห่งความไว้วางใจจากพระเจ้า … และความเชื่อมั่นของพระองค์ว่า [พวกเขา] จะตอบรับด้วยศรัทธาและพลังมากขึ้น” ประธานอายริงก์กล่าว “พระวิหารแห่งนี้เป็นที่ที่ท่านสามารถดึงพลังแห่งพันธสัญญาพระวิหารมาใช้ได้บ่อยขึ้น พระองค์ทรงทราบจิตใจท่าน พระองค์ทรงทราบว่าท่านปรารถนาจะได้รับการยกระดับจิตใจและเป็นคนชอบธรรมมากขึ้น—ขณะที่โลกขัดแย้งกันและชั่วร้ายมากขึ้น”

เมื่อสมาชิกพูดถึงและแบ่งปันข่าวสารเรื่องการฟื้นฟู คนอื่นๆ จะรู้สึกถึงความจริงของคําพูดของพวกเขา ประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด รักษาการประธานโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าว “สิ่งน่าทึ่งที่สุดในประวัติศาสตร์โลกเกิดขึ้นในป่าศักดิ์สิทธิ์ในปี 1820” ท่านกล่าว “ฟ้าสวรรค์เปิด”

เมื่อพูดกับสมาชิกและผู้สอนศาสนาในโทรอนโต ออนแทรีโอในเดือนเมษายน ประธานบัลลาร์ดแสดงประจักษ์พยานถึงการเรียกเป็นศาสดาพยากรณ์ของโจเซฟ สมิธ “คงเป็นสิ่งที่ทะลุทะลวงจิตวิญญาณของเขา—ตั้งแต่กระหม่อมถึงฝ่าเท้า—เมื่อท่านได้ยินพระบิดาบนสวรรค์ทรงเรียกชื่อท่านว่า ‘โจเซฟ นี่คือบุตรที่รักของเรา จงฟังท่าน!’ [ดู โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:17] นั่นคือข่าวสารของเรา” ท่านบอกผู้สอนศาสนา

ในเดือนเมษายน เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ ไปเยือนฝรั่งเศส อียิปต์ และอิสราเอล ท่านเข้าร่วมการประชุมศีลระลึกในอียิปต์ พูดกับนักศึกษาที่ศูนย์เยรูซาเล็มมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ และไปเยือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

“ช่างเป็นความรู้สึกปีติยินดีเกินจะบรรยายได้ที่พระเจ้าประทานให้ข้าพเจ้าเป็นสานุศิษย์คนหนึ่งของพระองค์ในเวลานี้” ท่านกล่าว “แน่นอนว่าเราทุกคนต้องเป็นสานุศิษย์ และเราต้องดําเนินชีวิตตามพันธสัญญาที่เราทําไว้

“แต่การอยู่ที่นี่และเป็นพยานในฐานะสานุศิษย์ดังที่อัครสาวกทำในสมัยโบราณ เป็นสิ่งที่ทําให้ใจข้าพเจ้าอบอุ่นและยกข้าพเจ้าขึ้นสู่สภาพที่ไม่อาจจินตนาการได้ และด้วยความรู้สึกอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างยิ่ง ข้าพเจ้ารู้สึกว่าพระเจ้าทรงวางใจให้ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงพระองค์และพระนามของพระองค์ ช่างเป็นปีติที่ได้เดินตรงที่เพื่อนอัครสาวกของเราเคยอาศัยและเดิน”

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์ อุทิศบ้านที่ได้รับการบูรณะของโจเซฟและเอ็มมา สมิธในเคิร์ทแลนด์ โอไฮโอเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม เอ็ลเดอร์เบดนาร์บอกกลุ่มคนประมาณ 300 คน รวมถึงบุคคลสำคัญในชุมชนและผู้นำทางศาสนาว่า “บ้านหลังนี้เป็นมากกว่าอาคารที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของโจเซฟและเอ็มมา สมิธอย่างแท้จริง—สถานที่ซึ่งพวกท่านอยู่ด้วยกันเป็นระยะเวลานานที่สุดก่อนมรณกรรมของโจเซฟ”

เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล.คุก พูดที่การประชุมใหญ่ประจําปีของมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ในเดือนสิงหาคม ท่านตั้งข้อสังเกตว่าผู้เชี่ยวชาญเรื่องวุฒิภาวะทางจิตแนะนําว่าการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาช่วยให้มีกระบวนการด้านวุฒิภาวะสำหรับการเรียนรู้ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมสําหรับการศึกษาที่สูงขึ้น

นักเรียนบีวายยูมากกว่าสองในสามคนเคยรับใช้งานเผยแผ่ เอ็ลเดอร์คุกกล่าว “นั่นคิดเป็นอดีตผู้สอนศาสนามากกว่า 21,000 คน ขึ้นอยู่กับภาคการศึกษา ลองนึกถึงความเข้มแข็งที่นักเรียนบีวายยูเหล่านี้มีทั่วโลก ในทางกลับกัน ให้พิจารณาว่าประสบการณ์ในงานเผยแผ่ของพวกเขาเสริมสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ในวิทยาเขตนี้อย่างไร”

ระหว่างการไปเยือนนิวซีแลนด์และออสเตรเลียในเดือนพฤษภาคม เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน เชื้อเชิญให้วิสุทธิชนยุคสุดท้ายในนิวซีแลนด์เตรียมพร้อมสำหรับการอุทิศพระวิหารโอกแลนด์ในปี 2024 โดยการเป็นคนบริสุทธิ์และเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้น

ท่านเชื้อเชิญให้พวกเขาถามตนเองว่า “ฉันจะทําอะไรได้บ้างที่จะทําให้ฉันเป็นคนที่บริสุทธิ์ขึ้น เป็นเครื่องพลีบูชาและของประทานที่ดีขึ้นเพื่อถวายแด่พระเจ้าในวันอุทิศนั้น?”

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น เป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ระหว่างงานมอบหมายในเอเชียในเดือนกันยายน “ประสบการณ์ของข้าพเจ้าในฐานะอัครสาวกของพระเจ้าเป็นพยานแก่ข้าพเจ้าว่าพระเยซูคือพระคริสต์และพระองค์ทรงนําทางงานของพระองค์บนโลกนี้ผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์และผ่านอัครสาวกของพระองค์” ท่านกล่าว เอ็ลเดอร์แอนเดอร์เซ็นอยู่ในภาคเอเชียเหนือของศาสนจักรเพื่อประชุมและปฏิบัติศาสนกิจต่อวิสุทธิชนยุคสุดท้ายในเกาหลี มองโกเลีย และญี่ปุ่น

วันที่ 22 เมษายน เอ็ลเดอร์โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์ เข้าพบรองประธานาธิบดีแห่งแอฟริกาใต้ พอล มาชาไทล์ รองประธานาธิบดีแห่งแอฟริกาใต้ นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำศาสนจักรได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐรุ่นระดับอาวุโสเช่นนี้ในแอฟริกาใต้

ผู้นำได้ไตร่ตรองถึงวิธีที่ศาสนจักรได้ช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของมนุษย์และเพิ่มศักยภาพให้กับผู้คนในแอฟริกาใต้ โดยมีมูลค่าความช่วยเหลือเป็นจำนวนเงิน 240 ล้านแรนด์ (มากกว่า 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตั้งแต่ปี 2018 เงินบริจาคมีตั้งแต่การบรรเทาภัยพิบัติไปจนถึงการสนับสนุนโครงการริเริ่มการจ้างงานเยาวชน โครงการเกษตรยังชีพ และการแทรกแซงความรุนแรงที่เกี่ยวกับเพศสภาพ

เอ็ลเดอร์ราสแบนด์กล่าวว่าท่านหวังว่าความพยายามเหล่านี้จะแสดงให้เห็นว่าศาสนจักรอยู่ “ที่นี่ในระยะยาว เราทําเช่นนี้เพื่อทําตามพระบัญญัติข้อสําคัญสองข้อของพระเจ้า นั่นคือ รักพระผู้เป็นเจ้าและรักเพื่อนมนุษย์ของเรา”

ระหว่างการเยือนไอซ์แลนด์ สก็อตแลนด์ และอังกฤษเดือนกันยายน เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสัน เน้นความจําเป็นที่วิสุทธิชนยุคสุดท้ายจะต้อง “มีจิตใจเดียวและความคิดเดียว” (โมเสส 7:18) โดยมี “ชีวิตที่มีพระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลาง” โดยทำทุกสิ่งที่เราทำได้เพื่อติดตามพระองค์ เอ็ลเดอร์สตีเวนสันพร้อมเลซาภรรยาท่านไปเยือนเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์เมื่อวันที่ 7 กันยายนก่อนมุ่งหน้าไปเอดินเบอระ สกอตแลนด์ และนอร์ทแฮมพ์ตัน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 9–10 กันยายน

ที่การให้ข้อคิดทางวิญญาณในแมริออทเซ็นเตอร์ระหว่างสัปดาห์การศึกษาของมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์ ให้โอวาทเชิงลึกว่าการสังเกต เหตุผล และศรัทธาทำงานร่วมกันเพื่อเอื้อต่อการเปิดเผยอย่างไร การสังเกต เหตุผล และศรัทธาไม่น่าเชื่อถือโดยตัวมันเอง เอ็ลเดอร์เรนลันด์สอน ทั้งสามอย่างนี้ต้องทํางานด้วยกัน

“ความเชื่อ ‘ที่ไม่มีการพฤตินั้น’ [ยากอบ 2:20] จะไม่ขยายตัวมันเอง ศรัทธาจะเติบโตโดยการสังเกตและการใช้เหตุผลเท่านั้น ควบคู่กับงานทางวิญญาณอื่นๆ นอกจากนี้ การสังเกต เหตุผล และศรัทธามักเป็นสิ่งที่ต้องทําก่อนไม่เพียงเพื่อรับการเปิดเผยส่วนตัวเท่านั้นแต่เพื่อเข้าใจการเปิดเผยนั้นด้วย”

วันที่ 15 มิถุนายน เอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กอง เข้าพบท่านชีค อุสมานนูฮูชารุบูตู ผู้นำอิหม่ามแห่งชาติ และประมุขศาสนาอิสลามแห่งสาธารณรัฐกานา การประชุมเกิดขึ้นที่บ้านพักของประมุขศาสนาอิสลามในเมืองอักกรา

เอ็ลเดอร์กองแบ่งปันว่าศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเห็นคุณค่าของอาดัมกับเอวา บิดามารดาคู่แรกของเรา เช่นเดียวกับชาวมุสลิม “เราก็เชื่อเช่นกันว่าเรามาจากบิดามารดาเดียวกันและควรอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวเดียวกัน” เอ็ลเดอร์กองตั้งข้อสังเกตว่าเราถูกนำโดยศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน ซึ่งคำสอนของท่านคล้ายคลึงกับคำสอนของอิหม่าม “ศาสดาพยากรณ์ของเราสอนเราให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัย ท่านสอนว่าเราทุกคนควรเป็นผู้สร้างสันติ ท่านสอนว่าเราควรช่วยให้เยาวชนของเราได้รับการศึกษาและการอบรมเพื่อพวกเขาจะประสบความสำเร็จในชีวิต และท่านสอนเราให้เสริมพลังสตรีและอนุชนรุ่นหลังของเรา ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยินจากท่านทุกวันนี้”

เอ็ลเดอร์ยูลิซีส ซวาเรส เดินทาง 10 วันไปยังชิลี อุรุกวัย และอาร์เจนตินาในเดือนมิถุนายน ในอาร์เจนตินาท่านพูดในการประชุมระหว่างศาสนาสัมภาษณ์กับนักข่าวชื่อดังชาวอาร์เจนตินา และการปฏิบัติศาสนกิจต่อสมาชิกของศาสนจักร

“สันติภาพเริ่มต้นจากการเคารพในเอกลักษณ์ของแต่ละคน” เอ็ลเดอร์ซวาเรสกล่าวแก่คนที่มารวมกันในการประชุมระหว่างศาสนาโลกและการสนทนาระหว่างวัฒนธรรมในบัวโนสไอเรส “แนวคิดเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม แต่แนวคิดนั้นยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในโลกที่ผันผวนและเปลี่ยนแปลง สิทธิมนุษยชนช่วยขจัดความไม่สมดุลของสิทธิพิเศษ ความมั่งคั่ง และโอกาส และสิทธิเหล่านั้นจะต้องถูกนำไปใช้ในระดับสากล”