บทที่ 12
จุดประสงค์อันศักดสิทธึ้ของการแต่งงาน
เราทำอะไรได้ปางเพื่อเสริมสร้างการแต่งงานนิรันดรและ เตรียมเยาวชนให้แต่งงานในพระวิหาร?
บทนำ
ประธานฮาโรลด์ บี. ลี สอนถึงความสำคัญยิ่งของการแต่งงานในพระวิหาร และ การที่สามีภรรยาจะช่วยกันตลอดชีวิตของเขาเพื่อท่าใหํชีวิตคู่ของตนมั่นคง ดังนี้
“การแต่งงานคือการเป็นหุ้นส่วน บางคนสังเกตเห็นว่าในเรื่องราวการสร้างจาก พระคัมภีร์ไบเบิล ผู้หญิงไม่ได้สร่างจากส่วนที่เป็นสืรษะของผู้ชาย ซึ่งหมายความว่าเธอ จะปกครองเขา หรือไม่ได้สร้างจากส่วนที่เป็นเท้าของผู้ชาย เพื่อเขาจะเหยียบเธอไว้ ได้เท้าของเขา ผู้หญิงถูกนำมาจากลีข้างของผู้ชายคล้ายกับจะเน้นความจริงที่ว่า เธอ จะอยู่เคียงข้างเขาเสมอในฐานะหุ้นส่วนและคู่ชีวิต ที่แท่นแต่งงาน ท่านปฏิญาณต่อ กันนับแต่วันนั้นว่า จะช่วยกันแกํไฃปึญหาชีวิตเหมือนน้าหรือวัวสองตัวที่เทียมแอก ไปด้วยกัน เมื่อพูดถึงการแต่งงาน อัครสาวกเปาโลแนะนำว่า ‘อย่าเข้าเทียมแอก (อย่างไม่เท่าเทียมกัน)’ (2 โครืนธ์ 6:14) ถึงแม้คำแนะนำของเปาโลสัมพันธ์เป็น พิเศษกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเท่าเทียมในเรื่องความสนใจทางศาสนาและความ ปรารถนาทางวิญญาณ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามคำกล่าวเซิงรูปธรรมของท่าน เช่นเดียว กับวัวที่กำลังลากของหนักไปด้วยกันตามถนน หากตัวหนึ่งเดินโซเซ เกียจคร่าน ไม่ กระฉับกระเฉงหรือเห็นแก่ตัวและดื้อรั้นของที่บรรทุกมานั้นก็จะพินาศย่อยยับและเกิด ความเลียหายตามมา ด้วยเหตุผลคล้ายกันนี้ การแต่งงานของบางคนล้มเหลวเมื่อ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายที่ร่วมชีวิตกันไม่ช่วยกันแบกรับความรับผิดซอบ…
“แต่ที่สำคัญกว่าการ ‘เทียมแอก (อย่างเท่าเทียมกัน)’ ในเรื่องทางกายภาพ คือ การที่ท่านจะเทียมแอกอย่างเท่าเทียมกันในเรื่องทางวิญญาณ… แน่นอนว่า บ้านและ ครอบครัวที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างบ้านและครอบครัว แม่ไปคู่ความ เป็นนิรันดร และที่ลูกๆ ได้รับการต้อนรับในฐานะ ‘มรดกจากพระเจ้า’ [ดู สดุดี 127:3] จะมีโอกาสอยู่รอดมากขึ้นเพราะความศักดื้ลีทขึ้ที่อยู่ในบ้านและครอบครัว นั้น”1
คำสอนของฮาโรลด์ บี. ลี
เหตุใดการแต่งงานนิรันดรจึงจำเป็นต่อความสูงส่งของเรา?
ขอให้เราพิจารณาการแต่งงานคเงแรกที่ดำเนินการหลังจากจัดระเบียบแผ่นดินโลก พระองค์ทรงสร้างแอดัม ชายคนแรก เช่นเดียวกับบรรดาสัตว์ สัตว์ปีก และสิงมีชีวิต ทุกชนิดบนแผ่นดินโลก ต่อมาเราก็พบบันทึกนี้ “พระเจ้าตรัสว่า ไฝควรที่ซายผู้นี้จะ อยู่คนเดียว เราจะสร้างคูอุปถัมภ์ที่สมกับเขาขึ้น” หลังจากพระเจ้าทรงสร้างอีฟ พระ องค์ทรง “นำมาให้ซายนี้น ชายจึงว่า นี่แหละ กระดูกจากกระดูกของเรา เนื้อจากเนื้อ ของเราจะต้องเรียกว่าหญิง เพราะหญิงนี้ออกมาจากชาย เพราะเหตุนั้นผู้ชายจึงจาก บีตามารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน” (ปฐม กาล 2:18, 22-24)…เมื่อการแต่งงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว พระเจ้าทรงบัญชาเขาให้ “มีลูกดกมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน” (ปฐมกาล 1:28)
นี่คือการแต่งงานที่พระเจ้าทรงดำเนินการให้กับมนุษย์อมตะสองคนเพราะร่างกาย ของเขาไม่อยู่ภายใต้ความตายจนกระทั้งบาปเข้ามาในโลก พระองค์ทรงทำให้ทั้งสอง คนเป็นหนึ่ง ไม่เพียงสำหรับกาลเวลา หรือช่วงเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น แต่เป็นหนึ่ง ตลอดนิรันดร…สำหรับพวกเขาความตายไม่ใช่การหย่าขาด แต่เป็นเพียงการแยก จากกันชั่วคราว การที่๒คืนชีวิตสู่ความเป็นอมตะสำหรับพวกเขาหมายถึงการรวมกัน ใหม่ และการเชื่อมผนึกนิรันดรโดยไม่แยกจากกันอีกเลย “เพราะว่าคนฑงปวงต้อง ตายเกี่ยวเนื่องกับอาต้มฉันใด คนทั้งปวงจะกลับไต่ชีวิตเกี่ยวเนื่องกับพระคริสต์ฉัน นั้น” (1 โครีนธ์ 15:22)
ล้าท่านตั้งใจฟ้งคำอธิบายเรื่องการแต่งงานคเงแรกนี้ ท่านก็พร้อมจะเข้าใจการ เปีดเผยที่ประทานให้กับศาสนาจักรในชั่วอายุของเรา มีความว่า
“หากชายแต่งภรรยาโดยคำของเราซึ่งเป็นกฎของเรา และโดยพันธสัญญาใหม่ และเป็นนิจและผนึกมันไว้กับคนทั้งสองโดยพระวิญญาณอันศักตั้สิทขึ้แห่งคำสัญญา โดยคนที่รับการชโลม ผู้ที่เรากำหนดอำนาจนี้และกุญแจฐานะปุโรหิตนี้ให้…มันจะ เป็นไปกับเขาในทุกสิงอะไรก็ตามที่ผู้รับใข้ของเราให่ไว้กับเขาในกาลเวลาและตลอด ชั่วนิรันดร และจะมีผลบังคับเต็มที่เมื่อเขาออกไปจากโลก และเขาจะผ่านพวกเทพ และพวกพระผู้เป็นเจ้าซึ่งประจำอยู่ที่นั้น ไปสู่ความสูงส่งและรัศมีภาพของเขาในทุก สิงดังที่ผนึกไว้บนคืรษะของเขา” (คำสอนและพันธสัญญา 132:19)…
การแต่งงานสำหรับกาลเวลาและนิรันดรเป็นประตูแคบและทางแคบ (ตามที่พูด ไว้ในพระคัมภีร์) “ที่นำไปสู่ความสูงส่งและความต่อเนื่องของบรรดาชีวิต…และมี น้อยคนที่พบมัน” แต่ “ประตูกว้างและทางที่นำไปสู่ความตายกว้าง และมีคนเป็นอัน มากที่ไปทางนั้น” (คำสอนและพันธสัญญา 132:22, 25) หากซาตานและพลพรรค ของเขาสามารถซักนำท่านไปตามถนนกว้างของการแต่งงานทางโลกซึ่งสินสุดลงด้วย ความตาย เขาก็ท่าให้ท่านพลาดโอกาสสำหรับความสุขนิรันดรไนระดับสูงสุดโดยผ่าน การแต่งงานและการเพิ่มตลอดนิรันดร ตอนนี้ ท่านคงเข้าใจกระจ่างแล้วว่าทำไม พระเจ้าทรงประกาศว่า เพื่อให้บรรลุถึงระดับสูงสุดของรัศมีภาพชั้นสูง บุคคลนั้นต้อง เข้าสู่พันธสัญญาใหม่และเป็นนิจของการแต่งงาน หากเขาไม่ท่า เขาจะบรรลุไม่ได้ (คำสอนและพันธสัญญา 131:1-3)2
ผู้ที่ทำตัวให้มีคำควรและเข้าสู่พันธสัญญาใหม่และเป็นนิจของการแต่งงานในพระ วิหารเพื่อกาลเวลาและตลอดนิรันดรผู้นั้นกำลังวางสิลามุมเอกก้อนแรกให้กับบ้านแห่ง ครอบครัวนิรันดรในอาณาจักรชั้นสูงซึ่งจะคงอยู่ตลอดกาล รางวัลของเขาคือ จะมี “รัศมีภาพเพิ่มเติมบนสิรษะชองเขาตลอดกาลและตลอดไป” (ดู เอบราแฮม 3:26)3
สามีภรรยาทำอะไรได้บ้างเพื่อให้การแต่งงานในพระวิหาร มั่นคงตลอดชีวิตของเขา?
หาก [คนหนุ่มสาว] จะตัดสินใจทันทีที่แต่งงานว่า นับแต่นี้เป็นตันไป เขาจะตั้งใจทำ ทุกสิงที่อยู่ในอำนาจเพื่อให้อีกฝ่ายพอใจในเรื่องที่ถูกต้อง แม้ยอมสละความพอใจ ของตนเอง ความอยากของตนเอง ตลอดจนความปรารถนาของตนเอง ปัญหาของ การปรับตัวในชีวิตสมรสจะคลี่คลายไปได้เอง และบ้านของเขาจะเป็นบ้านที่มีความสุข อย่างแท้จริง ความรักอันยิ่งใหญ่สร้างอยู่บนการเสียสละอันยิ่งใหญ่ และบ้านที่แสดง หลักธรรมแห่งการเสียสละเพื่อความผาสุกของอีกฝ่ายให้เห็นทุกวัน คือบ้านที่ยึดมั่น ในความรักอันยิ่งใหญ่4
มีความปีติยินดี และที่แน่ ๆ คือ มีความห่วงกังวลมากยิ่งกว่าที่ท่านเคยรู้จักรออยู่ เบื้องหน้า โปรดระลึกว่าความรักอันยิ่งใหญ่สร้างอยู่บนการเสียสละอันยิ่งใหญ่ ความ ตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำให้อีกฝ่ายพอใจในเรื่องที่ลูกต้องจะสร้างรากฐานอันมั่นคงให้กับ บ้านที่มีความสุข ความตั้งใจแน่วแน่เพื่อความผาสุกของกันและกันเป็นเรื่องของทั้ง สองฝ่าย ไม่ใช่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเฉพาะตัวเอง สามีภรรยาต้องรู้ว่าตนเองมี ภาระรับผิดชอบที่จะสอนกันและกัน เวลานี้มีอยู่สองสิงที่โจมดีความมั่นคงของบ้านยุค ปัจจุบัน มั่นคือ สามีหนุ่มไม่เข้าใจภาระหน้าที่อันสมบูรณ์ของเขาในการคํ้าจุนครอบดรัว และภรรยาสาวหลบหนีความรับผิดชอบในหน้าที่อันสำคัญของการเลี้ยงดูลูก และดูแลบ้าน5
การแต่งงานเต็มไปด้วยความสุขอันล้นพันทว่าตามมาด้วยความรับผิดชอบอัน หนักหน่วงที่สุดเท่าที่จะให้แก่ชายหญิงในชีวิตมดะนึ่ได้ แรงผลักตันจากสวรรค์ ภายในชายจริงหญิงแท้ทุกคนที่ปลุกเร่าความเป็นเพื่อนกับเพศตรงข้ามเป็นแรงผลัก ดันอันศักดี้สิทธี้ ที่พระผู้สร้างทรงให้ใว้เพื่อจุดประสงค์อันศักดสิทขึ้ ไม่ใช่เพื่อสนอง แรงกระตุ้นทางชีววิทยาหรือความใคร่ของเนื้อหนังในความสัมพันธ์ตามอำเภอใจ แต่ ได้รับการสงวนไว้ให้เป็นวิธีแสดงความรักที่แท้จริงในการแต่งงานที่ศักดสิทธ6
ข้าพเจำเคยกล่าวกับคู่หนุ่มสาวที่แท่นแต่งงานหลายต่อหลายครั้งว่า อย่าปล่อย ให้ความใกลํซดสนิทสนมที่อ่อนโยนชองชีวิตแต่งงานชาดการยับยั้งชั่งใจ ขอให้ความ คิดของท่านเจิดจ้าดังแสงอาทิตย์ ขอให้คำพูดของท่านบริสุทขึ้สะอาด และขอให้ความ สัมพันธ์ของท่านเป็นแรงบันดาลใจและเชิดซู่ใจหากท่านอยากให่ชีวิตรักหวานชื่น ตลอดการแต่งงานของท่าน7
บางครั้ง เมื่อเราเดินทางไปทั่วศาสนาจักร สามีภรรยาที่แต่งงานในพระวิหารแล้ว แต่เข้ากันไม่ได้จะมาหาเราและถามว่า จะดิกว่าไหมหากเขาเลิกรากันแล้วต่างคนต่าง ไปหาคู่ที่ถูกใจกว่านี้ เรากล่าวกับทุกคู่ว่า เมื่อใดก็ตามที่สามีภรรยาซึ่งแต่งงานใน พระวิหาร พูดว่าเขาเบื่อหน่ายกัน แสดงให้เห็นซัดว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั่งสองฝ่าย ไม่ชื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาพระวิหาร ทุกคู่ที่แต่งงานในพระวิหารและชื่อสัตย์ต่อพันธ-สัญญาจะรักกันมากขึ้น และความรักจะมีความหมายลึกขึ้งในวันครบรอบแต่งงานปี ที่ห้าสิบมากกว่า วันที่เขาแต่งงานกันในพระนิเวศของพระเจ้า ท่านอย่าเข้าใจผิดใน เรื่องนี้8
ผู้ที่ไปยังแท่นแต่งงานด้วยความรักในหัวใจ เรากล่าวกับเขาตามความจริงว่า หาก เขาจะชื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาที่ท่าไว้ในพระวิหาร อีกห้าสิบปีให้หลัง เขาจะพูดให้กัน ฟังว่า “ตอนที่เราแต่งงาน เราไม่รู้เลยว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร แต่ตอนนี้เรารู้แล้ว เพราะเหตุว่าเราคิดถึงกันและกันมากขึ้น!” และจะเป็นเช่นนั้นหากเขาทำตามคำแนะ นำของผู้นำและเชื่อฟังคำแนะนำอันศักดสิทขึ้ที่ให้เว้ในพิธีการพระวิหาร เขาจะ เติบโตอย่างสมบูรณ์มากขึ้นในความรักแม้จนถึงความบริบูรณ์แห่งความรักในที่ประ ทับของพระเจ้า9
ความผิดพลาด ข้อบกพร่อง และความฉาบฉวยของสิงดึงดูดทางกายภาพเทียบ ไม่ได้เลยกับเนื้อแท้ของอุปนิสัยอันดึชื่งคงทนและงดงามมากขึ้นตามกาลเวลา ท่าน อาจจะหลงใหลได้ปลื้มอยากอยู่ในบ้านอันแสนสุขของท่านหลังจากล่วงเลยวัยหนุ่ม สาวไปนานแล้วก็ได้หากท่านมัวแต่มองหาคุณสมบัติที่งามพร้อมในกันและกัน ซึ่ง ต้องอาศัยการซัดเกลาความสำเร็จและความล้มเหลว ความสำบากและความสุขเท่านั้น จึงจะเกิดประกายแวววาวที่ส่องแสงเจิดจ้าแม้ท่ามกลางคืนอันมีดมีดที่สุด10
![couple washing dishes](https://www.lds.org/bc/content/shared/content/images/gospel-library/manual/35892/35892_all_012_01-washing_dishes.jpg)
ผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงานนิรันดรในเวลานี่ได้รับคำแนะนำอะไร?
พวกท่านบางคนยังไม่มีคู่ชีวิตอยู่ในบ้านของท่านเวลานี้บางคนสูญเสียภรรยาหรือ สามี หรือท่านอาจจะยังไม่พบคู่ชีวิต มีบางคนในกลุ่มของท่านเองที่เป็นสมาชิกที่ยอด เยี่ยมที่สุดของศาสนาจักร—ซื่อสัตย์ กล้าหาญ พยายามดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติ ของพระเจ้า ช่วยสร้างอาณาจักรบนแผ่นดินโลก และรับใช้เพื่อนมนุษย์ของท่าน
ชีวิตมีหลายสิงให้กับท่าน จงเข้มแข็งในการเผชิญการกัาทายของท่าน มีหลายวิธี ที่จะพบความสำเร็จ ทั้งในการรับใช้ผู้ที่ท่านรัก ในการทำภาระหน้าที่ที่อยู่ตรงหน้า ท่านเป็นอย่างดี ทั้งในงานอาชีพหรือในบ้าน ศาสนาจักรเป็ดโอกาสมากมายให้ท่าน ได้ช่วยจิตวิญญาณให้พบความปีติยินดีแห่งชีวิตนิรันดรโดยเริ่มที่ตัวท่านเองก่อน
อย่าปล่อยให้ความเวทนาตัวเองหรือความห้อแห้สินหวังกวักมือเรียกท่านออกจาก วิถีทางที่ท่านรู้ว่าถูกต้อง จงหันความคิดของท่านไปสู่การช่วยเหลือผู้อื่น พระดำรัส ของพระอาจารย์มีความหมายต่อท่านเป็นพิเศษ “ผู้ที่จะเอาชีวิตของตนรอดจะกลับ เสียชีวิต แต่ผู้ที่สู้เสียชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เราก็จะไดํชีวิตรอด” (ม’ทธิว 10:39)11
พระเจ้าทรงพิพากษาเราไม่เฉพาะการกระทำของเราเท่าทั้น แต่เจตนาของใจเรา ด้วย…ด้วยเหตุนี้ [สตรี] ที่ไม่ได้รับพรของการเป็นภรรยาและมารดาในชีวิตนี้-ผู้ที่ กล่าวในใจตนว่า หากฉันท่าได้ ฉันจะทำ หรือฉันจะให้หากฉันมี แต่ฉันใหํไม่ได้เพราะ ฉันไม่มี—พระเจ้าจะประทานพรท่านประหนึ่งว่าท่านได้ทำแล้ว และโลกหน้าจะซดเชย ให้กับคนที่ปรารถนาพรอันชอบธรรมในใจเขาซึ่งเขาไม่สามารถมีได้ เพราะไม่ใช่ ความผิดของเขา12
ท่านผู้เป็นภรรยาที่อยากให้สามีแข็งขันในศาสนาจักร โดยปรารถนาจะให้เขาอยู่ ที่นึ่วันนี้แทนที่จะอยู่กับความขมขื่นในใจ โดยสงสัยว่าจะ ท่าอะไรได้บ้างเพื่อสักวัน หนึ่ง…เขาจะอยู่กับท่านในพระนิเวศของพระผู้เป็นเจ้า และท่านผู้เป็นสามีที่ปรารถนา ให้ภรรยาอยู่กับท่าน เรากล่าวกับท่านว่า หากท่านจะซื่อสัตย์ต่อความไว้วางใจที่มอบ ให้ หากท่านจะรักสามีของท่านและรักภรรยาของท่าน และสวดอ้อนวอนอยู่เสมอทุก เช้าคา ทั้งกลางวันและกลางคืน จะมีอำนาจหนึ่งมาสู่ท่านในฐานะสมาชิกของศาสนา-จักรโดยอำนาจของพระวิญญาณบร็สุทขึ้ ซึ่งท่านที่ได้รับบ้พติศมาและซื่อสัตย์มีสิทธึ้ ได้รับอำนาจนั้นจะทำให้ท่านสามารถทลายการต่อด้านในคู่ชีวิตของท่านและนำเขา ใกล้ชิดศาสนามากขึ้น13
บางท่านอาจตัดสินใจแต่งงานนอกศาสนาจักรโดยหวังอยู่ในใจว่าจะเปลี่ยนใจคู่ ชีวิตของท่านให้เลื่อมใสทรรศนะทางศาสนาของท่านได้โอกาสที่ท่านจะมีความสุขใน ชีวิตแต่งงานจะมากขึ้นหากท่านทำให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสนั้นเกิดขึ้นก่อนแต่งงาน14
เราทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยให้คนหนุ่มสาวเข้าใจถึงพรของการแต่งงาน ในพระวิหารและเตรียมรับพรเหล่านี้?
แน่นอนว่า ประสิทธิผลของครอบครัวสิทธิซนยุคสุดท้ายขึ้นอยู่กับรูปแบบการแต่ง งานที่กำหนดไร้ในครอบคร้วนั้น โดยปกติแล้ว การแต่งงานที่นี่และเวลานี้เกี่ยวพันกับ โลกนี้เป็นอันดับแรก การแต่งงานสำหรับนิรันดรจะมีมุมมองและรากฐานที่ต่างออก ไปโดยสินเชิง…
…แน่นอน เราทราบดีว่าการไปพระวิหารโดยปราศจากการเตรียมที่ถูกต้องในทุก ต้านย่อมทำให้เราไม่ไต้รับพรที่แสวงหา การแต่งงานนิรันดรขึ้นอยู่กับความพร้อมและ การให้คำมั่นสัญญาซึ่ง—พร้อมด้วยเอ็นดาวเม้นท้และพิธีการ—จะเป็ดประตูสวรรค์ เพื่อให้พรมากมายหลั่งไหลมาสู่เราไต้
…การแต่งงานในพระวิหารไม่ใช่แค่สถานที่ที่พิธีเกิดขึ้น แต่เป็นการกำหนดทิศทาง ทั้งหมดให้กับชีวิต การแต่งงาน และครอบครัว การแต่งงานในพระวิหารเป็นจุดสูงสุด ของการสร้างทัศนคติต่อศาสนาจักร ความบรีสุทขึ้ และส้มพันธภาพส่วนตัวของเรา กับพระผู้เป็นเจ้า—และอีกหลายสิง ดังนั้น การสั่งสอนเรื่องการแต่งงานในพระวิหาร เท่านั้นยังไม่พอ การสังสรรค์ในครอบครัว เซมีนารี สถาบันศาสนา และองค์การช่วย ต้องท่าให้บรรลุเป้าหมายนี้—ไม่ใช่แต่แนะน่าดักเตือนอย่างเดียว—แต่แสดงให้เห็น ว่าความเชื่อและเจตคติที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงานในพระวิหาร คือ สิงที่จะก่อให้เกิด ชีวิตในแบบที่คนส่วนใหญ่ต้องการเพื่อตัวเองจริง ๆ ทั้งที่นี่และในนิรันดร ล้าทำอย่าง ถูกต้องเราจะแสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่าง “ของบรีสุทขึ้และของสาธารณ์” ไต้ [ตู เอเสเดียล 44:23] เพื่อว่าสัญชาตญาณอันแรงกล้าตามธรรมชาติของความเป็น มารดาจะแจ่มชัดในเยาวชนหญิงที่สองจิตสองใจระหว่างสัญชาตญาณอันบรีสุทขึ้นี้ กับเส้นทางแห่งการแสวงหาความพิงพอใจ ด้วยวิจารณญาณที่เป็นจริงผนวกกับการ แนะน่าสั่งสอน เราสามารถแสดงให้เยาวชนชายเห็นไต้ว่าเส้นทางของโลก—ไม่ว่าจะ ดึงตูดใจมากเพียงใดก็ตาม และไม่ว่าพวกหนุ่มเจ้าสำราญของโลกจะฉลาดเพียงใดก็ ตาม—เป็นเส้นทางแห่งความเศร้าสลดใจเป็นเส้นทางซึ่งในที่สุดจะทำลายความใฝ่ฝืน ในส่วนลึกเหล่านั้นที่เขามีต่อครอบครัวของตนเองและต่อความสุขของการเป็นบิดา15
แม้ว่าการแต่งงานในพระวิหารจะไม่แล้ใฃป๋ญหาทุกอย่างของชีวิต แต่สำหรับทุก คนที่เข้าพระวิหารอย่างมีค่าควร แน่นอนว่าการแต่งงานของเขาจะกลายเป็นท่าเรือ แห่งความปลอดภัยและเป็นสมอของจิตวิญญาณเมื่อมรสุมแห่งชีวิตพัดกระหนา อย่างรุนแรง…
เป็นเวลาร่วมยี่สิบปีที่ประสบการณ์ของข้าพเจ้าอุดมไปด้วยความสุขใจเมื่อไต้เห็น บ้านที่ประสบความสำเร็จที่สุดของศาสนาจักรทุก ๆ สุดสัปดาห์ และตรงกันข้าม ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเห็นบ้านที่ไม่มีความสุขเกือบจะทุกสัปดาห์ด้วย จากประสบการณ์ ที่ข้าพเจ้ามีฑำใหิได้ข้อสรุปที่ชัดเจนบางประการด้งนี้ หนึ่ง บ้านที่มีความสุขที่สุดคิอ บ้านที่บิดามารดาแต่งงานในพระวิหาร สอง การแต่งงานในพระวิหารจะประสบความ สำเร็จที่สุดหากสามีภรรยาเข้าสู่พิธีการอันคักดีสิทธ์ของพระวิหารด้วยความสะอาด และบรึสุทธ์ในร่างกาย ความคิด และจิตใจ สาม การแต่งงานในพระวิหารจะคักดีสิทธ์ ที่สุด เมื่อแต่ละฝ่ายมีความเข้าใจเป็นอย่างดีในจุดประสงค์ของเอ็นดาวเน้นห์อันคักดี้ สิทธ์ และภาระหน้าที่ต่อจากนั้นของสามีภรรยาในการทำตามคำแนะนำที่ได้รับใน พระวิหาร ส์ บิดามารดาที่เห็นว่าพันธสัญญาพระวิหารเป็นเรื่องไม่สลักสำคัญ คงคาด หวังจากลูกไต่ไม่มากนักเพราะตัวอย่างที่เลวของเขา
สมัยนี้ สิงที่นิยมทำกัน การหลอกลวง การเสแสร้ง และเสน่ห์ดึงดูดของโลกทำให้ แนวคิดอันศักดี้สิทธ์เรื่องครอบครัวและการแต่งงานบิดเบือนไปมาก ไม่เว้นแม้แต่ พิธีแต่งงาน พรเป็นของมารดาผู้ซาญฉลาดที่วาดภาพเหมือนของฉากชีวิตอันคักดี้-สิทธ์ เพื่อให้ลูกสาวเห็นห้องผนึกที่งดงามราวสรวงสวรรค์ซึ่งกันเราจากสิงทางโลกทั้ง หมด เบื้องหน้าพ่อแม่และญาติสนิทคือเจ้าบ่าวเจ้าสาววัยเยาว์ที่งดงามประสานมือ กันบนแท่นคักดีสิทธ์ ขอบพระฑัยพระผู้เป็นเจ้าสำหรับมารดาผู้แสดงให้ลูกสาวของ เธอเห็นว่าที่นึ่ซึ่งใกล้เคียงสวรรค์บนแผ่นดินโลกมากที่สุด ใจสิ่อกับใจ ในความรักที่ ทั้งสองฝ่ายมีต่อกันอันเป็นจุดเริ่มด้นของความเป็นหนึ่งซึ่งไม่พรั่นพรึงแม้ต้องตก ระกำลำบาก ปวดร้าว หรือผิดหวัง และที่นึ่ยังมีพลังอันทรงประสิทธิภาพให้กับความ สำเร็จสูงสุดของชีวิต!16
พระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์ให้ครอบครัวของสิทธิซนยุคสุดห้ายได้รับพร ทรง อยากให้เขามีความสุขที่นึ่และมีรากฐานสำหรับความสูงส่งในอาณาจักรชั้นสูงในโลก ที่จะมาถึง17
ข้อแนะนำสำหรับการศึกษาและการสนทนา
-
คู่แต่งงานทำอะไรได้บ้างเพื่อทำให้พันธสัญญาของการแต่งงานนิรันดร์มีความสํ คัญสูงสุดในชีวิตประจำวันของเขา? การแต่งงานนิรันดรควรส่งผลต่อวิธีที่คู่ สมรสปฏิบัติต่อกันและต่อลูก ๆ อย่างไร?
-
เราจะสอนลูก ๆ ถึงความสำคัญของการแต่งงานนิรันดรได้อย่างไร?
-
ทำไม “ความรักอันยิ่งใหญ่สร้างอยู่บนการเสียสละอันยิ่งใหญ่”? ความไม่เห็นแก่ ตัวเสรึมสรำงการแต่งงานอย่างไร?
-
คนที่คู่ชีวิตของเขาไม่แข็งขันในศาสนาจักรจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเสริมสร้างการ แต่งงานของตนเอง? คนที่ยังไม่ได้แต่งงานจะทำใหิชีวิตของเขายมไปด้วยการ แสดงความรักและการเสียสละแบบพระผู้เป็นเจ้าได้อย่างไร?
-
“เข้าเทียมแอก (อย่างเท่าเทียมกัน)” ในการแต่งงานหมายความว่าอะไร?
-
คู่แต่งงานจะ “เติบโตอย่างสมบูรณ์มากขึ้นในความรักแม้จนถึงความบริบูรณ์แห่ง ความรักในที่ประทับของพระเจ้า” ได้อย่างไร?