บทที่ 9
บทฑิ 9: การเอาใจใส่ผู้นำข่าวสารที่แท้จริง ของพระเยซูคริสต์
เราจะทำตามศาสดาที่มีชีวิตอยู่อย่างชื่อสัตย์มากขึ้นได้อย่างไร?
บทน่า
ฮาโรลด์ บี. ลี ดำรงตำแหน่งประธานศาสนาจักรคนที่สิบเอ็ดเมื่อประธานโจเซฟ หิเลดิง สมิธ เลียชีวิตในเดือนกรกฎาคมปี 1972 ไม่นานหลังจากนั้น ประธานลีได้ เข้าไปในห้อง ๆ หนึ่งของพระวิหารซอลท์เลคซึ่งมีภาพประธานศาสนาจักรสิบคนที่ เคยดำรงดำแหน่งก่อนหน้าท่านแขวนอยู่ “ที่นั้น ขณะครุ่นคิดร่วมกับการสวดอ้อนาอน” ท่านเล่า “ข้าพเจ้ามองดูภาพผู้คนของพระผู้เป็นเจ้า—พวกท่านบริสุทยิ้ซึ่อสัตย์ และเป็นบุคคลที่ประเสริฐของพระผู้เป็นเจ้า—ซึ่งก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งการ เรียกคล้ายกับข้าพเจ้า” ท่านพิจารณาทบทวนบุคลิกลักษณะและความสำเร็จของ ศาสดาแต่ละท่านในสมัยการประทานสุดท้ายนี้ จนมาถึงภาพสุดท้าย “ศาสดาไจเซฟ หิเลดิง สมิธมีใบหน้ายิ้มละไม ท่านเป็นผู้น่าและศาสดาที่ยึดมั่นความจริง…ดูราวกับ ว่าในขณะนั้น ท่านกำลังส่งคทาแห่งความชอบธรรมมาให้ข้าพเจ้าพร้อมกับพูดว่า ‘ท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้นเถิด’…
“ด้วยประจักษ์พยานที่ทรงพลังยิ่งกว่าการมองเห็น ข้าพเจ้าทราบดังที่พระเจ้าทรง ประกาศว่า ‘กุญแจของอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าถูกมอบให้มนุษย์บนแผ่นดินโลก [จากศาสดาไจเซฟ สมีธ ผ่านผู้ดำรงตำแหน่งต่อจากนั้นเรื่อยมาจนถึงบีจจุบัน] และ จากนั้นพระกิตติคุณจะออกไปถึงที่สุดของแผ่นดินโลก’” [ค.พ. 65:2]1
ประธานศาสนาจักรเป็นมนุษย์คนเดียวบนแผ่นดินโลกที่ได้รับมอบอำนาจให้ใช้ กุญแจทั้งหมดของฐานะปุโรหิต ศาสดายุคสุดท้ายสอนว่า “เมื่อประธานศาสนาจักร เจ็บป่วยหรือไม่สามารถทำงานในหน้าที่ได้เต็มความสามารถ ที่ปรึกษาของท่านพร้อม กับตัวท่านซึ่งประกอบกันเป็นโควรัมฝ่ายประธานสูงสุด จะเป็นผู้ดำเนินงานของฝ่าย ประธาน คำถามสำคัญ นโยบาย โครงการ หรือหลักธรรมจะได้รับการพิจารณาด้วย การสวดอ้อนวอนในสภาโดยคณะที่ปรึกษาในฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัคร สาวกสิบสอง การตัดสินใจที่มาจากฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสอง ไม่มีเรื่องใดที่ไม่เป็นเอกฉันท์ โดยดำเนินตามรูปแบบที่ได้รับการดลใจนี้ ศาสนาจักร จะก้าวไปข้างหน้า โดยไม่มีอุปสรรค”2
ในฐานะสมาซิกของศาสนาจักรของพระเจ้า เรามั่นใจได้เต็มที่ในการนำทางของ ศาสดาที่มีชีวิตอยู่ ผู้ซึ่งประธานลีเรียกว่า “ผู้นำข่าวสารที่แท้จริง” ของพระเจ้า ประธานลีสอนว่า “หากลูกของพระเจ้า ซึ่งได้แก่ทุกคนที่อยู่บนโลกนี้ ไม่ว่าจะมี สัญชาติ สิผิว หรือศาสนาใดก็ตาม จะเอาใจใส่เสียงร้องเรียกของผู้นำข่าวสารที่แท้ จริงแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์…ทุกคนจะเห็นพระเจ้าและรู้ว่าพระองค์ทรง เป็นอยู่”3
โดยทำตามศาสดาของพระเจ้า เราจะมาถึงจุดหมายปลายทางสุดท้าย หรือที่ประ ทับของพระบิดาบนสวรรคได้อย่างปลอดภัย
คำสอนของฮาโรลด์ บี. ลี
ประธานศาสนาจักรเป็นผู้รักษาอาณาจักรของพระเจ้าในทางใด?
จงระลึกไว้เสมอว่าประมุขของศาสนาจักรนี่ไม่ใช่ประธานศาสนาจักร ประมุขของ ศาสนาจักรนี้คอพระเจ้าและพระอาจารย์ พระเยซูคริสต์ ผู้ทรงครองและปกครอง… ในสภาพที่สับสนวุ่นวายเข่นนี้ เรามั่นใจได้ว่าพระองค์ทรงนำทางเราอยู่ ข้าพเจ้าพูด เซ่นนี้ ก็เพื่อเราจะไม่ลืม4
“[พระเยซู] ทรงเป็นศีรษะของกาย คอ คริสตจักร พระองค์ทรงเป็นปฐม เป็นผู้ แรกที่ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย เพื่อพระองค์จะได้ทรงเป็นเอกในสรรพสิงทั้ง ปวง” (โคโลสี 1:18) อย่างไรกีด เป็นความจริงที่ว่า ในแต่ละสมัยการประทานเมื่อ พระกิตติคุณของพระองค์อยู่บนแผ่นดินโลกและศาสนาจักรของพระองค์โต้รับการ สถาปนา พระเจ้าทรงแต่งทั้งและทรงมอบอำนาจให้แก่มนุษย์คราวละหนึ่งคนในแต่ ละสมัยการประทานโดยมีตำแหน่งเป็นประธานศาสนาจักร หรือศาสดา ผู้พยากรณ์ และผู้เป็ดเผยของศาสนาจักร ตำแหน่งตังกล่าว หรือ การประสาทอำนาจตังกล่าว ไม่ ได้ทำให้บุคคลนั้นเป็น “ประมุขของศาสนาจักร” ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นของพระเยซูคริสต์ แต่ทำให้บุคคลตังกล่าวเป็นกระบอกเสียงของพระผู้เป็นเจ้าและเป็นผู้กระทำแทน พระองค์ พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับผู้คนของพระองค์โดยแนะน่าสั่งสอนผ่านทางท่าน เพื่อให้หรือยับยั้งหลักธรรมและพิธีการ หรือเพื่อเตือนถึงการพิพากษา…
…ประธานศาสนาจักรเป็นผู้รักษาพระนิเวศหรืออาณาจักรของพระเจ้า ท่านได้รับ มอบกุญแจทั้งหมด ภายใต้การน่าของพระเจ้า ท่านมอบกุญแจแห่งอำนาจให้แก่ สมาชิกคนอื่น ๆ ของศาสนาจักรเพื่อบัพติศมา สั่งสอนพระกิตติคุณ วางมือบนคืรษะ ของผู้ป่วย ควบคุมหรือสอนในตำแหน่งต่างๆ มืเพียงไม่กี่คนที่ท่านมอบอำนาจให้ ประกอบพิธีการในพระวิหาร หรือประกอบการแต่งงานในนั้น “เพื่อผูกบนแผ่นดิน โลกและในสวรรค์”5
ศาสดาได้รับการดลใจและการแตงตั้งจากสวรรค์ให้เป็นผู้เปิดเผยและผู้แปลพระ ดำริและพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ท่านถือกุญแจอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าใน สมัยของเรา ซึ่งเป็นกุญแจเดียวกับที่มอบให้เปโตรในฐานะหัวหน้าทางโลกของศาส- นาจักรในสมัยของท่าน6
ข้าพเจ้าจะขออ่านบางสั่งที่ [ประธานเจ. รูเป็น คลารัก จูเนียรั] เขียนไว้ไนโอกาส หนึ่งให้ท่านฟัง: “เราต้องจำไว้เสมอ…ว่าเฉพาะประธานศาสนาจักร ผู้เป็นมหาปุโรหิต ควบคุมผู้เดียวเท่านั้นที่…มืสิทธ1ด้รับการเปิดเผยสำหรับศาสนาจักร ทั้งการเป็ดเผย ใหม่หรือที่แกํไขเปลี่ยนแปลง หรือมือำนาจดีความพระคัมภีร์เพื่อจะผูกมัดศาสนา จักร…ท่านเป็นกระบอกเสียงเพียงคนเดียวของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลกสำหรับ ศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิซนยุคสุดท้าย ซึ่งเป็นศาสนาจักรที่แท้จริงเพียง แห่งเดียว ท่านเป็นคนเดียวที่จะประกาศให้ผู้คนของท่านทราบถึงพระดำริและพระ ประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดในศาสนาจักรใดในโลกมีสิทธี้และ อภิสิทธี้อันสูงล่งนี้” [Church News, 31 July 1954, 10]7
บุคคลเดียวที่ได้รับมอบอำนาจให้น่าคำสอนใหม่ๆ ออกมาคือ ประธานศาสนา จักร เมื่อท่านทำเซ่นนั้น ท่านจะประกาศว่าคำสอนนั้นเป็นการเปิดเผยจากพระผู้เป็น เจ้า โดยสภาอัครสาวกสิบสองจะยอมรับและได้รันการสนับสนุนจากศาสนาจักร8
ประธานศาสนาจักรได้รับเลือกอย่างไร?
สำหรับผู้ที่ถามว่า ประธานศาสนาจักรได้รับเลือกอย่างไร? คำตอบที่ถูกต้องและ ซัดเจนน่าจะเป็นข้อความที่ยกมาจากหลักแห่งความเชื่อข้อห้า นั่นคือ “เราเชื่อว่า มนุษย์ต้องได้รับการเรียกจากพระผู้เป็นเจ้า โดยการพยากรณ์ และโดยการปรกมือ โดยผู้มีอำนาจ เพื่อให้สอนพระกิตติคุณและปฏิบัติพิธีการตามนั้น”
จริง ๆ แล้ว การเรียกบุคคลหนึ่งเป็นประธานศาสนาจักรเริ่มด้นเมื่อบุคคลนั้นได้ รับเรียก วางมือแต่งตั้ง และมอบหน้าที่ให้เป็นสมาชิกในโควรัมอัครสาวกสิบสอง การเรียกดังกล่าวโดยการพยากรณ์ หรืออีกนัยหนึ่ง โดยการดลใจจากพระเจ้ามาถึง บุคคลที่ถึอกุญแจของฝ่ายประธาน รวมทั้งการแต่งตั้งและมอบหน้าที่ในเวลาต่อมา โดยการวางมือด้วยอำนาจเดียวกันนั้น จะวางอัครสาวกแต่ละท่านไวํในโควรัมฐานะ ปุโรหิตของชายสิบสองคนที่ดำรงตำแหน่งอัครสาวก
อัครสาวกแต่ละท่านที่ได้รับการวางมือแต่งตั้งภายใต้มือของประธานศาสนาจักรผู้ ถือกุญแจแห่งอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าพร้อมทั้งอัครสาวกทุกท่านที่ได้รับการวางมือ แต่งตั้งไปแล้ว จะได้รับอำนาจฐานะปุโรหิตที่จำเป็นต่อการดำรงตำแหน่งทั้งหมดใน ศาสนาจักร แม้ดำแหน่งฃองฝ่ายประธานดูแลศาสนาจักรหากเขาได้รับการเรียกโดยผู้มี อำนาจควบคุมและได้รับการสนับสนุนจากเสืยงของสมาชิกในที่ประชุมของศาสนาจักร
…ทันทีหลังจากประธานเสียชีวิต กลุ่มรองลงมาคือโควรัมอัครสาวกสิบสอง จะ กลายเป็นผู้มีอำนาจควบคุม โดยประธานอัครสาวกสิบสองจะทำหน้าที่รักษาการ ประธานศาสนาจักรโดยอัตโนมัติ จนกว่าประธานศาสนาจักรจะได้รับการวางมือแต่ง ตั้งและได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการในดำแหน่งฃองท่าน…
สมาชิกทุกคนในฝ่ายประธานสูงสุด และอัครสาวกสิบสองได้รับการสนับสนุนอยู่ เป็นประจำในฐานะ “ศาสดา ผู้พยากรณ์ และผู้เป็ดเผย”…นี่หมายความว่า อัครสาวก คนใดคนหนึ่งที่ได้รับเลือกและได้รับการวางมือแต่งตั้งเช่นทั้น จะควบคุมดูแลศาสนา จักรได้หาก “ได้รับเลือกโดยองค์ประชุม [ซึ่งติความให้หมายถึงโควรัมอัครสาวกสิบ สอง] ถูกกำหนดและแต่งตั้งไว้กับดำแหน่งนั้น และได้รับการสนับสนุนโดยความ มั่นใจ ศรัทธา และการสวดอ้อนวอนของศาสนาจักร” อ้างจากการเป็ดเผยในเรื่องนี้ มีเงื่อนไขหนึ่ง มั่นก็คือ บุคคลนั้นจะต้องเป็นสมาชิกอาวุโส หรือประธานขององค์ ประชุมนั้นด้วย (ดู ค.พ. 107:22)9
เมื่อข้าพเจ้าดำรงตำแหน่งสมาชิกอ่อนอาวุโสในสภาอัครสาวกสิบสองข้าพเจ้าได้รับ อนุญาตให้เข้าร่วมในการจัดระเบียบใหม่ครั้งแรกของศาสนาจักรเมื่อประธาน [สีเบอร์] เจ. แกรนท์เสียชีวิต…ขณะที่ประธาน [คนใหม่] แต่งตั้งที่ปรึกษา และทั้งสามท่านเข้า แทนตำแหน่งที่ว่างลง ข้าพเจ้าได้รับพยานในใจว่าบุรุษเหล่านี้คือผู้ที่พระเจ้าทรงต้อง การให้เป็นฝ่ายประธานของศาสนาจักร ข้าพเจ้ามั่นใจราวกับว่า ความจริงนั้นยังกังวาน อยู่ในหูข้าพเจ้า
…สมาชิกของศาสนาจักรนี้จะไม่เปลี่ยนใจเลื่อมใสอย่างแห้จริงจนกว่าเขาจะมื ความเชื่อมั่นว่า เขาถูกนำไปในทางที่ถูกต้อง และมืดวามเชื่อมั่นว่าคนเหล่านี้ของ พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ที่ได้รับการดลใจและได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องโดยพระหัตถ์ ของพระผู้เป็นเจ้า10
[พระเจ้า] ทรงเป็ดเผยกฎและพระองค์ทรงคัดเลือก ทรงเลือก หรือทรงแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ และทรงมืสิทธี้ที่จะตำหนิ แกํไข หรือแม้ถอดถอนคนเหล่านั้นตามความ พอพระทัยของพระองค์ ด้วยเหตุนี้จีงจำเป็นต้องมี [การติดต่อลื่อสาร] อย่างต่อเนื่อง ผ่านการเป็ดเผยโดยตรงระหว่างพระองค์กับศาสนาจักร เพื่อเป็นการกล่าวน่าสำหรับ ข้อเท็จจริงที่ว่านี้ เราจะพูดถึงตัวอย่างของทุกยุคทุกสมัยตามที่บันทึกไวํในพระคัมภีร์ ระเบียบการปกครองนี้เริ่มตันในสวนอีเด็น พระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งตั้งแอตัมให้ปก ครองแผ่นดินโลกและประทานกฎแก่ท่าน ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่แอตัมถึงโนอา และ ตั้งแต่โนอาถึงเม็ลคิเซเด็ค เอบราแฮม ไอแซค เจคอบ โจเซฟ โมเสส ซามูเอลศาสดา ยอห์น พระเยซู และอัครสาวกของพระองค์ ทุกคนที่กล่าวมาล้วนได้รับเลือกจาก พระเจ้าไม่ใช่จากผู้คน
เป็นความจริงที่ว่าผู้คนมีสิทธิมเสิยงในการปกครองอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า แต่ประการแรก เขาจะมอบอำนาจไม่ได้ ทั้งเขาจะเอาอำนาจนี๋ไปไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ผู้คนไม่ได้เลือกอัครสาวกสิบสองของพระเยซูคริสต์ ทั้งเขาจะตัดสิทธิคนเหล่านั้น จากการเป็นอัครสาวกโดยเสืยงข้างมากไม่ได้ ตังการปกครองอาณาจักรที่มีมาแต่ โบราณฉันใด ปัจจุบันก็ได้รับการหื่เนฟูฉันนั้น ผู้คนไม่ได้เลือกโจเซฟ สมิธ ศาสดา และอัครสาวกที่ยิ่งใหญ่ยุคปัจจุบัน แต่พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกท่านแบบเดียวกับที่ ทรงเลือกคนอื่นก่อนหน้าท่าน คือเลือกโดยภาพที่มาปรากฏ และโดยสุรเสิยงของ พระองค์จากสวรรค์11
ขณะพิจารณาความรับผิดชอบนี้ [ในฐานะศาสดา] และ’ใกล้ซดกับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ ใหญ่มานานหลายปี ข้าพเจ้ามีจิตสำนึกว่าบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งนี้อยู่ภายใต้การควบ คุมอย่างต่อเนื่องของพระ องค์ผู้ที่เรารับใช้ พระองค์จะไม่ทรงยอมให้บุคคลใน ตำแหน่งนี้นำศาสนาจักรออกนอกทาง ท่านมั่นใจได้ไนเรื่องนั้น เมื่อข้าพเจ้าคิดถึงขั้น ตอนที่ชายคนหนึ่งก้าวเข้าสํตำแหน่งผู้น่าในศาสนาจักร ข้าพเจ้าคิดถึงประสบการณ์ สามสิบเอ็ดปีครึ่งของตนเอง และสภาวการณ์ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตข้าพเจ้า—ช่าง เป็นกระบวนการหล่อหลอมที่หนักหนาสาหัสเหลือเกิน! เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงใน ฝ่ายประธานสูงสุด ข้าพเจ้าเปรียบเทียบสิงนี้กับวิธีที่พรรคการเมืองนำประธานาธิบดี สหรัฐขึ้นดำรงตำแหน่ง หรือการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ จะเห็นว่าตามแผนของ พระเจ้า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นโดยไม่มีความอาฆาตแค้น ไม่มีการทะเลาะ วิวาท แผนถูกเตรียมไว้และพระเจ้ามีทรงท่าสิงใดผิดพลาด พระองค์ทรงบอกเรา เช่นนั้น12
ทำไมเราต้องทำตามศาสดา?
ขอให้วันนี้เป็นวันที่เราจะใคร่ครวญอย่างจริงจัง และระลึกถึงสิงที่พระเจ้าทรง บอกเราไว้แล้ว เวลานี้ศาสดาของพระองค์อยู่บนแผ่นดินโลก และหากท่านอยาก ทราบการเปีดเผยครั้งล่าสุดที่มาถึงคนกลุ่มนี้ ขอให้ท่านเปีดดูรายงานการประชุมใหญ่ ครั้งล่าสุด และอ่านอย่างลี่ล้วนโดยเฉพาะสิงที่ฝ่ายประธานสูงสุดพูดไว้…ท่านจะพบ พระดำรัสล่าสุดและดีที่สุดซึ่งมาจากพระบิดาบนสวรรค์ของเรา เราไม่ต้องอาศัยสิง ที่อยู่ในงานมาตรฐานของศาสนาจักรแต่อย่างเดียว นอกเหนือจากสิงที่พระคัมภีร์ บอกเรา เรายังมีสิงที่ศาสดาในปึจจุบันกำลังบอกเราที่นี่และเวลานี้ และ สิงนี้มีไว้เพื่อ เราหากเราอยากจะรอดบนเขาไซอัน เมื่อภยันตรายเหล่านี้มาถึง จงฟ้งและเซึ่อฟ้ง13
ทุกวันนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ซั้นผู่ใหญ่ของเราพูดตามขอบเขตของอำนาจ มักจะมีบาง คนลุกขึ้นท้าทายและพูดว่า “ผมจะพบอำนาจอย่างที่คุฌนำมาอ้างในคำพูดของคุณไต้ ที่ไหน?” เราอยากจะบอกว่า “ขอใท้คุฌกลับไปอ่านอ้อยคำของผู้นำคนบิจจุบันของ ศาสนาจักรในเรื่องนี้ และคุณจะพบอำนาจทั้งหมดที่คุณต้นหา เพราะนี่คือวิธีของ พระเจ้า ศาสดาของพระองค์อยู่ที่นี่ และเวลานี้การเปีดเผยเป็นที่ต้องการและประจักษ์ ซัดเท่ากับที่เคยเป็นมาในทุกสมัยการประทานของพระกิตติคุณบนแผ่นดินโลก”14
เวลานี้ ความปลอดภัยเพียงอย่างเดียวที่เรามีในฐานะสมาซิกของศาสนาจักรนี้ คือ ปฏิบัติตามสิงที่พระเจ้าตรัสกับศาสนาจักรในวันที่ศาสนาจักรไต้รับการจัดทั้ง อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เราต้องเรียนรู้ที่จะเอาใจใส่พระคำและพระบัญญัติที่พระ เจ้าจะประทานผ่านศาสดาของพระองค์ “ดังที่เขาไต้รับมัน โดยเดินอยู่ในความ บรีสุทธทั้งมวลต่อหน้าเรา…ด้วยสุดความอดทนและศรัทธาราวกับมาจากปากของเรา เอง” [ค.พ. 21:4-5] มีบางสิงที่ต้องอาศัยความอดทนและศรัทธา ท่านอาจจะไม่ ชอบสิงที่มาจากเจ้าหน้าที่ของศาสนาจักร ซึ่งอาจตรงข้ามกับความคิดเห็นทางการ เมืองของท่าน ความคิดเห็นทางสังคมของท่าน และซัดกับชีวิตทางสังคมของท่าน แต่หากท่านพีงสิงเหล่านี้ ราวกับมาจากปากของพระเจ้าพระองค์เอง ด้วยความ อดทนและศรัทธา คำสัญญาคือ “ประตูนรกจะไม่ชนะเจ้า แท้จริงแล้ว และพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าจะทรงท่าใท้อำนาจแห่งความมีดกระจายไปต่อหน้าเจ้า และทำให้ท้อง ฟ้าสั่นเพื่อผลดีแก่เจ้า และรัศมีภาพของพระนามของพระองค์” (ค.พ. 21:6)15
สำหรับสิทธิซนยุคสุดท้ายทุกหนแห่ง คำสัญญานี้ [ใน ค.พ. 21:4-6] จะเป็นของ ท่านหากท่านจะทำตามผู้นำที่พระเจ้าทรงกำหนดไวํในศาสนาจักร โดยเอาใจใส่คำ แนะนำของผู้นำเหล่านั้นด้วยความอดทนและศรัทธา16
จงเชื่อถือคำแนะนำของประธานศาสนาจักร หากมีความซัดแย้ง จงฟังและท่าตาม ประธานหากท่านต้องการเดินในความสว่าง17
หากผู้คนของเราต้องการการนำทางที่ปลอดภัยในช่วงเวลา [อันยุ่งเหยิง] แห่งความ หลอกลวงและการปล่อยข่าวเท็จ เขาต้องทำตามผู้นำและแสวงหาการนำทางจากพระ วิญญาณของพระเจ้า ทั้งนี้เพื่อจะไดํไม่ตกเป็นเหยื่อของนักจัดการที่ชาญฉลาดซึ่ง พยายามใช่วิธีตบตาคนเพื่อดึงความสนใจและซักนำผู้ติดตามกลุ่มหนึ่งให้ทำตามความ นึกคิดและเจตนาที่ซั่วร่ายในบางครั้งของเขา18
มีคนเป็นอันมากในสมัยของพระอาจารย์ที่ไม่ยอมรับว่าพระองค์ทรงเป็นพระบุตร ของพระผู้เป็นเจ้า มีบางคนพูดว่า “เขาก็เป็นแค่ลูกของโยเซฟช่างไม้” บ้างก็พูดว่า “เขาเป็นนายผี” ซึ่งหมายถึงลูกของมาร เมื่อพระองค์ทรงกระทำการอัศจรรย์บาง อย่าง เขากลับพูดว่า “พระองค์ทรงเป็นคนขี้เมา” หมายความว่าพระองค์เพิ่งจะทรง ดื่มเหล้าองุ่นอย่างแรงมา มีเพียงไม่กี่คนที่พูดว่า “พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์พระ บุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” (มัทธิว 16:16) เหตุใดทุกคนจึงไม่เห็นว่าพระ องค์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า?
เราร้องเพลงว่า “ฉันหวังว่าจะได้อยู่กับพระอีกครา เมื่อพระองค์ทรงอุ้มกุมาราไวั ในออมพาหา” [ดู “I Think When I Read That Sweet Story” Children’s Songbook, 56] พวกเราหลายคนไม่ยอมรับพระองค์ เขาจึงยอมรับคำสอนที่มาจาก ครูสอนความชอบธรรมที่ได้รับการดลใจจากพระผู้ช่วยให้รอดองค์เดียวกันไม่ได้ เมื่อเรายอมรับผู้ที่เป็นตัวแทนของพระองค์ที่นี่ไม่ได้ ก็คงไม่ง่ายนักที่จะยอมรับพระ อาจารย์หากพระองค์ทรงปรากฏ…
เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้สอนศาสนา กลุ่มผู้สอนศาสนาของเราเคยไปที่คุกคาร์เทจกับ ประธานคณะเผยแผ่ เรารู้สิกประทับใจมากกับบรรยากาศของสถานที่ที่ศาสดาและ ไฮรัมพิ่ขายของท่านพลีชีวิตเป็นมรณสักขี เราขอให้ประธานคณะเผยแผ่เล่าเหตุการณ์ ที่น่าไปสู่มรณสักขี ข้าพเจ้ารู้สิกประทับใจอย่างยิ่งเมื่อประธานคณะเผยแผ่กล่าวว่า “เมื่อศาสดาโจเซฟ สมีธ เลียชีวิต มีคนเป็นอันมากที่ตายทางวิญญาณไปพร้อมกับ ท่าน เป็นเช่นนั้นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในการบริหารอาณาจักรของพระผู้ เป็นเจ้า เมื่อบริคัม ยัง เลียชีวิต มีคนเป็นอันมากที่ตายทางวิญญาณไปพร้อมกับท่าน พร้อมกับจอห์น เทย์เลอร์ และการเลียชีวิตของประธานศาสนาจักรทุกท่าน”…
บางครั้aเราตายทางวิญญาณและแยกตัวออกจากความสว่างอันบริสุทธทางวิญญาณ และลืมว่าปัจจุบัน ที่นี่และเวลานี้ เรามีศาสดา19
เหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวคนหนึ่งในยุโรปตอนเหนึอถ่ายทอดให้พีงอาจเป็นคำอรรถา อธิบายถึงฐานะของผู้น่าข่าวสารจากสวรรค์ที่เป็นตัวแทนของพระเจ้าในทุกสมัยการ ประทานของพระกิตติคุณบนโลกนี้ นักท่องเที่ยวของเรากำลังล่องเรือจากกรุงสต็อค โฮล้ม ประเทศสวีเดน เข้าไปในทะเลบอลคิก ในการล่องเรือนั้น เรือต้องผ่านเกาะ ต่างๆ พันกว่าเกาะ ขณะยืนอยู่บนดาดฟ้าส่วนหน้าของลำเรือ นักท่องเที่ยวรูลีกว่า ตนเองกำลังจะหมดความอดทนเนื่องด้วยเห็นว่านั้นเป็นเส้นทางที่ไม่น่าสนใจ ทำไม ไม่ใช้เส้นทางใกล้เกาะนี้หรือเส้นทางอื่นซึ่งน่าสนใจมากกว่าเกาะที่คนน่าร่องเลือกไว้? เขาพึมพำกับตัวเองอย่างค่อนข้างจะหงุดหงิดว่า “คนนำร่องหัวโบราณครํ๋าครึนี่เป็น ยังไงนะ เขาไม่รู้ทิศรู้ทางหรือยังไง” หันใดนั้นเขาก็เห็นเครื่องหมายที่ทำไว้ตามเส้น ทาง ซึ่งเหมือนด้ามไม้กวาดโผล่ขึ้นมาจากนั้า มืคนสำรวจช่องทางเหล่านี้อย่างละเอียด และทำผังเส้นทางที่ ปลอดภัยที่สุดไว้สำหรับเดินเรือ เส้นทางชีวิตสู่ความเป็นอมตะ และชีวิตนิรันดร์ก็เป็นเช่นนี้แหละ “วิศวกรของพระผู้เป็นเจ้า” ทำผังเส้นทางที่ ปลอดภัยที่สุดและมืดวามสุขที่สุดไว้แล้วตามพิมพ์เชียวที่ทำไว้ในสวรรค์ และเตือน เราล่วงหน้าถึงเขตอันตราย20
พระเจ้าจะทรงกระตุ้นเตือนผู้รับใช้ของพระองค์ให้นำศาสนาจักรอย่างถูกต้อง ศาสดาของพระองค์จะได้รับการดลใจจากพระเจ้าเพื่อพูดกับสมาชีกของศาสนาจักร “นี่เป็นหนทาง จงเดินในทางนี้” (อิสยาห์ 30:12) แมํในภาวะวิกฤตซึ่งเกิดขึ้นในช่วง ที่เรามีชีวิตอยู่ ตามที่ทำนายไว้ในการเป็ดเผยยุคปืจจุบัน ภาพที่พระเจ้าทรงประสงค์ จะให้เราเห็นคือ ภาพของความมั่นคงและความสามัคคี ท่านคงจำที่พระองค์ตรัสกับ สานุคืษค์ของพระองค์ใต้ “แต่สานุคืษย์ของเราจะยืนอยู่ในที่ศักดี้สิทขึ้และจะไม่หวั่น ไหว” (ค.พ. 45:32)21
ข้อ แนะนำ สำหรับการสีกษา และการสนทนา
-
ใครเป็นประมุขที่แท้จริงของศาสนาจักร? พระเจ้าประทานค่าแนะนำสั่งสอนแก่ ศาสนาจักรโดยผ่านใคร?
-
คำสอนใหม่ออกมาสู่ศาสนาจักรอย่างไร?
-
ประธานศาสนาจักรเตรียมรับความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงนี้อย่างไร? พระเจ้า ทรงขึ้ฑางการเสือกประธานศาสนาจักรอย่างไร?
-
ศาสดาที่มืชีวิตอยู่ให้คำแนะนำใดที่เป็นพรแก่ชีวิตของท่านโดยเฉพาะ?
-
ท่านคิดว่าทำไมบางคนจึงยกย่องศาสดาในอดีตแด่ไม่ยกย่องศาสดาที่มืชีวิตอยู่? อะไรคือผลของการไม่เอาใจใส่คำของศาสดาที่มืชีวิตอยู่หรือการท้าทายอำนาจ ของท่าน?
-
มืคำสัญญาอะไรใหิไว้กับคนที่เอาใจใส่ถ้อยคำและบัญชาของศาสดาที่มืชีวิตอยู่?