ภาพสะท้อน
นาฬิกา
ผู้เขียนอาศัยอยู่ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา
พระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนกันมากกับนาฬิกาที่ลูกชายดิฉันหลงใหล
เมื่อโจชัวลูกชายของดิฉันอายุราวสองขวบ เขาสนใจนาฺฬิกามากทีเดียว ถ้าเราเดินผ่านนาฬิกาในบ้าน เขาอยากให้หยุดดู เขาชอบแนบหูกับนาฬิกาและฟังเสียงติ๊กๆ ของมันเป็นพิเศษ เขาเลยช่วงที่เราไม่อาจเดินผ่านนาฬิกาโดยไม่ได้หยุดฟังเสียงติ๊กๆ ของมันมาแล้ว
ดิฉันรับรู้สิ่งที่น่าสนใจบางอย่างจากการกระทำอันเรียบง่ายดังกล่าว หนึ่ง นาฬิกาเดินตลอดเวลา ไม่เฉพาะเมื่อเราให้ความสนใจเท่านั้น สอง ทั้งที่เรารู้ว่านาฬิกามีเสียง แต่เราต้องเดินเข้าไปใกล้ๆ และเงียบมากจึงจะได้ยินเสียงติ๊กเบาๆ
พระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนกันมากกับนาฬิกาที่ลูกชายดิฉันหลงใหล พวกเราที่รับบัพติศมาและรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้วจะมีพระองค์เป็นเพื่อนตลอดเวลาหากเราดำเนินชีวิตคู่ควร พระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตกับเราเสมอ แต่บางครั้งเราปล่อยให้เสียงของโลกกลบเสียงกระตุ้นเตือนเงียบๆ ที่พระองค์ประทานแก่เรา เฉกเช่นดิฉันกับลูกชายต้องเงียบและนิ่งจึงจะได้ยินเสียงติ๊กเบาๆ ของนาฺฬิกา เราแต่ละคนต้องนิ่งจึงจะได้ยิน หรือรู้สึกถึงการกระตุ้นเตือนเงียบๆ ที่พระวิญญาณประทานแก่เรา
ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์ (1924–2015) ประธานโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า “ในพระคัมภีร์อธิบายว่าสุรเสียงของพระวิญญาณไม่ ‘ดัง’ ทั้งไม่ ‘กระด้าง’ ‘ไม่ใช่เสียงฟ้าร้อง, ทั้งมิใช่เสียงดังกึกก้อง’ แต่เป็น ‘เสียงสงบแห่งความนุ่มนวลอย่างสมบูรณ์, ราวกับว่าเป็นเสียงกระซิบ’ และสามารถ ‘เสียดแทงแม้จนถึงจิตวิญญาณทีเดียว’ และ ‘ทำให้ [ใจ] ไหม้’ (3 นีไฟ 11:3; ฮีลามัน 5:30; คพ. 85:6–7) …
“พระวิญญาณ” ประธานแพคเกอร์สอน “ไม่ทรงเรียกร้องความสนใจจากเราโดยตะโกนหรือเขย่าตัวเราแรงๆ แต่ทรงกระซิบ ทรงสัมผัสนุ่มนวลมากจนถ้าเรากังวลอยู่กับเรื่องหนึ่งเราอาจไม่รู้สึกเลย …
“บางครั้งจะบีบเราแน่นพอให้เราเอาใจใส่ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าเราไม่เอาใจใส่ความรู้สึกนุ่มนวลดังกล่าว พระวิญญาณจะทรงถอนตัวและทรงรอจนกว่าเราจะมาทูลขอและฟัง” (“The Candle of the Lord,” Ensign, Jan. 1983, 53)
เดี๋ยวนี้ทุกครั้งที่ดิฉันได้ยินเสียงติ๊กเบาๆ จากนาฬิกา ดิฉันอดไม่ได้ที่จะนึกถึงบทเรียนเรียบง่ายที่ลูกชายสอนดิฉันเกี่ยวกับการนิ่งฟังการกระตุ้นเตือนเงียบๆ ของพระวิญญาณ