วิธีที่ท่านจะช่วย งานพระวิหาร
ผู้เขียนอาศัยอยู่ใน ยูทาห์ สหรัฐอเมริกา
งานพระวิหารนำปีติมาให้ท่านและคนที่ท่านรัก
ท่านเคยตื่นเต้นมากกับบางสิ่งที่ท่านอดใจรอไม่ไหวหรือไม่ ท่านอาจจะตื่นเต้นที่ท่านกับน้องชายจะได้ไปดูนักกีฬาทีมโปรดของท่านลงแข่ง หรือเพื่อนสนิทของท่านอาจจะชวนท่านไปดูคอนเสิร์ตที่ตื่นตาตื่นใจ
ในทศวรรษ 1840 พระผู้เป็นเจ้าทรงฟื้นฟูความจริงพระกิตติคุณที่ทำให้โจเซฟ สมิธมีความสุขและตื่นเต้นมาก ท่านเรียนรู้ว่าโดยผ่านสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตที่ถูกต้อง ผู้คนจะได้รับบัพติศมาโดยมีตัวแทนทำให้คนที่พวกเขารักผู้ยังไม่ได้รับบัพติศมาในชีวิตนี้
หลักคำสอนเรื่องบัพติศมาแทนคนตายน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษต่อโจเซฟเพราะอัลวินพี่ชายท่านสิ้นชีวิตเมื่ออายุ 25 ปีโดยไม่ได้รับบัพติศมา โจเซฟห่วงใยอัลวินที่ถูกตัดสินให้รับทุกข์นิรันดร์เพราะเขายังไม่ได้รับบัพติศมาในชีวิตนี้
แต่โดยผ่านการเปิดเผยเรื่องความรอดสำหรับคนตาย โจเซฟเรียนรู้ว่าอัลวินจะได้รับบัพติศมาโดยตัวแทนและรอดในอาณาจักรซีเลสเชียล (ดู คพ. 137)
การแบ่งปันความจริงเรื่องบัพติศมาแทนคนตาย
ข่าวนี้ไม่เพียงทำให้ครอบครัวสมิธตื่นเต้นเท่านั้น แต่ทำให้วิสุทธิชนคนอื่นๆ ในนอวู อิลลินอยส์ตื่นเต้นด้วย วันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1840 โจเซฟ สมิธสอนเรื่องศาสนพิธีบัพติศมาแทนบรรพชนของพวกเขาที่งานศพของเซย์มัวร์ บรันสัน โจเซฟกล่าวว่าถึงเวลาต้องนำสิ่งที่วิสุทธิชนสมัยก่อนเคยทำตามหลักศาสนากลับมาปฏิบัติอีกครั้ง (ดู 1 โครินธ์ 15:29)1
เมื่อวิสุทธิชนในนอวูได้ยินว่าพวกเขาสามารถรับบัพติศมาแทนสมาชิกครอบครัวที่ล่วงลับแล้ว พวกเขาตื่นเต้นมาก “ทันทีที่ข้าพเจ้าได้ยินเรื่องนี้ จิตวิญญาณข้าพเจ้าลิงโลดด้วยปีติ” ประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ์ (1807–98) กล่าว2
พอวิสุทธิชนทราบว่าพวกเขาสามารถประกอบพิธีบัพติศมาแทนคนตาย พวกเขาต้องการทำงานให้ครอบครัวพวกเขาทันทีที่ทำได้ หลายคนเขียนบอกสมาชิกครอบครัวให้รวบรวมรายชื่อญาติผู้ล่วงลับ เพราะเวลานั้นไม่มีพระวิหาร คนหลายร้อยคนจึงต้องไปประกอบศาสนพิธีในแม่น้ำมิสซิสซิปปี
บัพติศมาแทนคนตายและท่าน
ความตื่นเต้นเกี่ยวกับงานพระวิหารและบัพติศมาแทนคนตายยังคงมีอยู่ในทุกวันนี้ มีพระวิหารทั่วโลก และงานพระวิหารเปิดประตูให้ ทุกคน ได้รับความรอด นี่เป็นของขวัญสุดวิเศษ!
เฉกเช่นวิสุทธิชนในนอวู ท่านกับเพื่อนๆ และครอบครัวสามารถทำบัพติศมาแทนผู้วายชนม์ได้ ท่านสามารถพาครอบครัวท่านไปพระวิหาร นี่หมายความว่าท่านไม่เพียงพาครอบครัว ที่มีชีวิตอยู่ ไปพระวิหารเท่านั้น แต่นำรายชื่อผู้วายชนม์ที่ท่านรักไปด้วย หากครอบครัวท่านไปพระวิหารไม่ได้ ท่านสามารถขอให้เพื่อน ผู้นำ สมาชิกโควรัมหรือสมาชิกชั้นเรียนไปกับท่าน
การไปพระวิหารกับคนที่ท่านรักทำให้เกิดปีติ การไปพระวิหารเชื่อมโยงครอบครัว ก่อเกิดสันติสุข เตือนให้เราระลึกว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงรักเราทุกคน และพระองค์ทรงมอบความรอดให้บุตรธิดาทุกคนของพระองค์
นั่นเป็นสิ่งที่เราทุกคนตื่นเต้น