2017
พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกผมอีกครั้ง
สิงหาคม 2017


เสียงวิสุทธิชนยุคสุดท้าย

พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกผมอีกครั้ง

ภาพ
scientist

ภาพประกอบโดย แคโรลีน วิบเบิร์ต

หลังจากผมเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมกลายเป็นนักวิจัยวิทยาศาสตร์ เพราะได้รับการฝึกฝนแบบวิทยาศาสตร์ผมจึงยอมรับเฉพาะสิ่งที่สัมผัสและพิสูจน์ได้เท่านั้น ผมดำเนินชีวิตโดยปราศจากอิทธิพลของพระผู้เป็นเจ้าในชีวิต ผมจึงเชื่อว่าไม่มีพระผู้เป็นเจ้า

แต่แล้ว เช้าวันหนึ่งผมได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าลูกชายผมประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจากรถยนต์ ระหว่างทางไปโรงพยาบาล ผมรู้สึกว่าต้องกล่าวคำสวดอ้อนวอนของพระเจ้าซึ่งผมเคยเรียนรู้ในวัยเด็ก ผมจำไม่ได้ แต่ผมรู้สึกว่าต้องสวดอ้อนวอน

ถึงแม้พระผู้เป็นเจ้าเคยเรียกผม แต่เมื่อวิกฤตบรรเทาและลูกชายผมหายเป็นปกติ ผมก็ยังใช้ชีวิตโดยไม่มีพระองค์เหมือนเดิม

หลายปีต่อมาผมเริ่มออกเดทกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อรูบี เธอเป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายแต่เธอไม่แข็งขัน เราอยู่ด้วยกันสามปีเธอก็เริ่มรู้สึกอยากไปโบสถ์ เธอจะขอให้ผมไปด้วย แต่ผมปฏิเสธทุกครั้ง

วันหนึ่งผู้สอนศาสนามาบ้านเรา พวกเขาให้พระคัมภีร์มอรมอนและฝากงานมอบหมายให้ผมอ่าน ผมอ่านสิ่งที่พวกเขาขอแต่ไม่รู้สึกอะไร ผมไปโบสถ์ด้วยแต่สงสัยตลอดเวลา ถึงกระนั้นผมก็ยังรู้สึกว่าต้องอ่านพระคัมภีร์มอรมอนต่อไป พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกผมอีกครั้ง

เมื่ออ่านต่อเนื่อง ผมเริ่มรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้จริง ศรัทธาของผมเติบโต เมื่อผมอ่านถึง 3 นีไฟ 13:9–13 และอ่านคำสวดอ้อนวอนของพระเจ้า ผมเปี่ยมด้วยพระวิญญาณ ผมสะอื้นออกมา พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกผมครั้งที่สาม คราวนี้ผมฟัง

ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าเติบโต ผมอยากรู้มากขึ้น ไม่นานผมก็อ่านงานมาตรฐานครบทุกเล่ม ผมยังคงไปโบสถ์ และหลังจากผมกับรูบีแต่งงาน ผมรับบัพติศมา ผมจะไม่มีวันลืมปีติที่รู้สึกเมื่อผมได้รับการยืนยันเป็นสมาชิกของศาสนจักร

ปัจจุบันผมยังเป็นนักวิจัยวิทยาศาสตร์เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ผมเห็นพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าในทุกสิ่ง ผมเห็นด้วยกับแอลมาผู้กล่าวว่า “ทุกสิ่งชี้ให้เห็นว่ามีพระผู้เป็นเจ้า; แท้จริงแล้ว, แม้แผ่นดินโลก, และสิ่งทั้งปวงที่อยู่บนพื้นผิวของมัน, แท้จริงแล้ว, และการเคลื่อนไหวของมัน, แท้จริงแล้ว, และดาวพระเคราะห์ทั้งหมดด้วยซึ่งเคลื่อนไปตามปรกติวิสัยเป็นพยานว่ามีพระผู้สร้างสูงสุด” (แอลมา 30:44)

พิมพ์