การเรียนรู้ทั้งจิตวิญญาณ
พระเจ้าทรงกำลังดำเนินการด้วยเดชานุภาพในศาสนจักรของพระองค์เพื่อให้ท่านได้รับการศึกษาที่พระองค์ทรงต้องการให้ท่านได้รับ
ข่าวสารนี้สำหรับเยาวชนและคนหนุ่มสาวในศาสนจักรของพระเจ้า หลายปีก่อนข้าพเจ้าเกิดความรู้สึกแรงกล้าเกี่ยวกับท่านและเกี่ยวกับช่วงเวลานี้ ประหนึ่งข้าพเจ้าเห็นเด็กในปฐมวัยทั่วโลก ข้าพเจ้ารู้ว่าพวกเขาจะทำและรักษาพันธสัญญากับพระเจ้า ข้าพเจ้ารู้ว่าพระเจ้าจะทรงอวยพรให้พวกเขามีโอกาสได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งทั้งทางวิญญาณและทางโลก และยกพวกเขาขึ้นเป็นกองทัพอันเกรียงไกรเพื่อสร้างอาณาจักรของพระองค์และเตรียมแผ่นดินโลกให้พระองค์เสด็จกลับมา
ท่านคือเด็กเหล่านั้น และนี่เป็นช่วงเวลาของท่าน
นี่เป็นช่วงเวลาอันสำคัญยิ่งในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยโอกาสให้ท่านได้เรียนรู้ เติบโต อีกทั้งประสบปีติและความสุข มีความท้าทายสำคัญๆ แน่นอน แต่โดยผ่านพลังการไถ่และการเสริมสร้างความเข้มแข็งอันเนื่องจากการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ โดยผ่านพระกิตติคุณที่น่าชื่นชมยินดีของพระองค์ ศาสนจักรที่แท้จริงและดำรงอยู่ของพระองค์ พระเจ้ายังคงเปิดประตูและทรงเตรียมทางให้ท่านได้กลับใจ เรียนรู้อย่างลึกซึ้ง เติบโตทางวิญญาณ และเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระองค์มากขึ้น พระเจ้าทรงกำลังเตรียมอาณาจักรและผู้คนของพระองค์ให้พร้อมรับการเสด็จกลับของพระองค์ คนรุ่นใหม่อย่างท่านกำลังมีบทบาทสำคัญในงานใหญ่นี้
นี่เป็นช่วงเวลาของปาฏิหาริย์ เทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้การเรียนรู้และการศึกษาเฟื่องฟู ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงทั้งสำหรับความรู้ทางโลกและทางวิญญาณ พระเจ้าทรงกำลังดำเนินการด้วยเดชานุภาพในศาสนจักรของพระองค์เพื่อให้ท่านได้รับการศึกษาที่พระองค์ทรงต้องการให้ท่านได้รับ
นี่คือทุกส่วนของพระบัญชาที่พระเจ้าประทานแก่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ (1805–1844) ในช่วงเริ่มต้นการฟื้นฟู “เป็นความประสงค์ของเราที่เจ้าจะ … ได้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์, และเรื่องประเทศต่าง ๆ, และเรื่องอาณาจักรต่าง ๆ, เรื่องกฎของพระผู้เป็นเจ้าและมนุษย์, และทั้งหมดนี้เพื่อความรอดของไซอัน” (คพ. 93:53)
พระบัญชานี้ถือเป็นความเร่งด่วนในช่วงเวลาของเราเมื่อพระเจ้าทรงเร่งงานของพระองค์ บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะฉวยโอกาสใช้การศึกษาที่อยู่ตรงหน้าท่าน และใช้ศักยภาพเพื่อการเรียนรู้และการเติบโตที่อยู่ในตัวท่านให้เป็นประโยชน์
ถ้อยคำเหล่านี้ของประธานโธมัส เอส. มอนสันควรดังแว่วอยู่ในหูเราทุกวัน
“ข้าพเจ้าขอให้ท่านศึกษาหาความรู้”1
“พรสวรรค์ของท่านจะเพิ่มขึ้นเมื่อท่านศึกษาและเรียนรู้”2
“แต่ละท่าน … มีโอกาสให้เรียนรู้และเติบโต จงขยายความรู้ของท่าน ทั้งทางปัญญาและทางวิญญาณ จนเต็มศักยภาพอันสูงส่งของท่าน”3
การเรียนรู้เชิงลึก
การเรียนรู้ที่ช่วยให้แต่ละท่านขึ้นถึง “ระดับสูงสุดของศักยภาพอันสูงส่งของท่าน” คือสิ่งที่ข้าพเจ้าเรียกว่า การเรียนรู้เชิงลึก การเรียนรู้ทั้งจิตวิญญาณ—ความนึกคิด จิตใจ ร่างกาย และวิญญาณอมตะ การเรียนรู้เชิงลึกประยุกต์ใช้ได้กับความรู้ทุกประเภท ไม่ว่าทางวิญญาณหรือทางโลก การเรียนรู้จะลึกซึ้งเมื่อการเรียนรู้นั้นเพิ่มพลังความสามารถให้ท่านทำสามสิ่งนี้ (1) รู้และเข้าใจ (2) ลงมือทำสิ่งชอบธรรมและเกิดผล (3) เป็นเหมือนพระบิดาบนสวรรค์ของเรามากขึ้น4
ดังที่พระเจ้าทรงสอนศาสดาพยากรณ์โจเซฟ การเรียนรู้เชิงลึกต้องทำในวิธีของพระเจ้า ผ่านการเปิดเผยและการดลใจในแสงสว่างของพระคริสต์ โดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผ่านการศึกษาอย่างขยันหมั่นเพียรและกระตือรือร้น และการสอนกันโดยมีพระคุณของพระเยซูคริสต์อยู่ด้วย ทั้งหมดนั้นเป็นจริงกับความรู้ทุกประเภท ต่อไปนี้เป็นพระบัญชาของพระเจ้าเกี่ยวกับการเรียนรู้เชิงลึก
“เจ้าจงแสวงหาอย่างขยันหมั่นเพียรและสอนถ้อยคำแห่งปัญญาให้กัน; แท้จริงแล้ว, เจ้าจงแสวงหาถ้อยคำแห่งปัญญาจากบรรดาหนังสือดีที่สุด; แสวงหาการเรียนรู้, แม้โดยการศึกษาและโดยศรัทธาด้วย” (คพ. 88:118)
“เจ้าจงสอนอย่างขยันหมั่นเพียรและพระคุณของเราจะอยู่กับเจ้า, เพื่อเจ้าจะได้รับการแนะนำอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น … ในเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า, อันเป็นการสมควรที่เจ้าจะเข้าใจ” (คพ. 88:78)
ความรู้ทางวิญญาณมีความสำคัญเป็นอันดับแรก
การเรียนรู้เชิงลึกในการศึกษาทุกแขนงโดยเนื้อแท้แล้วเป็นประสบการณ์ทางวิญญาณ ยึดกับรากฐานของศรัทธาในพระเยซูคริสต์ การกลับใจ และการเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ทั้งนี้เพื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงสอนท่านได้ การเรียนรู้เชิงลึกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุ้มค่าความพยายาม หากท่านปรารถนาจะเรียนรู้อย่างลึกซึ้งจริงๆ หากใจและความนึกคิดของท่านเปิดรับการเรียนรู้ และหากท่านทำตามความปรารถนานั้น พระเจ้าจะทรงอวยพรท่าน เมื่อท่านทำส่วนของท่าน—สวดอ้อนวอนด้วยศรัทธา เตรียม ศึกษา มีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน และทำสุดความสามารถ—พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงสอนท่าน ทรงขยายความสามารถให้ท่านทำตามที่ท่านเรียนรู้ และช่วยให้ท่านเป็นดังที่พระเจ้าทรงต้องการให้ท่านเป็น “ความรอดเอง” ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธ (1838–1918) สอน “ซึ่งอยู่ภายใต้การชดใช้ของพระคริสต์เป็นกระบวนการของการศึกษา … ความรู้เป็นหนทางของความเจริญก้าวหน้านิรันดร์”5
กระบวนการนี้ประยุกต์ใช้ได้กับสภาวะแวดล้อมทุกอย่างที่ท่านอยู่และกับความรู้ทุกประเภท อย่างไรก็ดี ความรู้สำคัญที่สุดที่ท่านต้องได้มาคือความรู้ในเรื่องของพระผู้เป็นเจ้า ด้วยเหตุนี้ความรู้ทางวิญญาณจึงต้องมาเป็นอันดับหนึ่งในใจท่านและในลำดับความสำคัญของท่าน ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธเน้นความสำคัญลำดับแรกของความรู้ทางวิญญาณดังนี้ “มนุษย์ไม่รอดเร็วกว่าที่เขาตักตวงความรู้ เพราะถ้าเขาไม่ตักตวงความรู้ เขาจะถูกอำนาจชั่วบางอย่างในโลกอื่นนำไปสู่การเป็นเชลย เมื่อวิญญาณชั่วจะมีความรู้มากกว่า และด้วยเหตุนี้จึงมีอำนาจมากกว่าคนจำนวนมากบนแผ่นดินโลก ฉะนั้นจึงต้องมีการเปิดเผยช่วยเรา และให้ความรู้แก่เราในเรื่องของพระผู้เป็นเจ้า”6
จริงอยู่ที่พระกิตติคุณครอบคลุมความจริงทั้งมวล7 แต่ความรู้และความสามารถในการเข้าใจความจริงที่ชัดเจนและเรียบง่ายของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ต้องเป็นรากฐานของการเรียนรู้เชิงลึกทั้งหมด การให้ความรู้ทางวิญญาณมาเป็นอันดับแรกในความนึกคิดและในใจท่านจะทำให้ท่านพึ่งพาพระเจ้าและพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในการเรียนรู้ ท่านจะมองเห็นทุกอย่างที่ท่านศึกษาเพื่อให้ได้ความรู้ในพระกิตติคุณของพระองค์ และท่านจะเรียนรู้อย่างลึกซึ้งต่อเนื่องไปตลอดชีวิตท่าน
การเรียนรู้เชิงลึกชั่วชีวิต
การเรียนรู้เชิงลึกทั้งความรู้ทางโลกและทางวิญญาณเป็นพระบัญชาของพระเจ้า ลองนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากท่านหยุดเรียนรู้ จะเป็นอย่างไรหากข้าพเจ้าหยุดเรียนรู้เมื่อข้าพเจ้าเรียนจบวิทยาลัยกลางทศวรรษ 1970 ข้าพเจ้าคงจะไม่มีข้อคิดใหม่ๆ หรือการเปิดเผยจากศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ พระคัมภีร์ หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ ข้าพเจ้าคงไม่รู้เรื่องพัฒนาการต่อเนื่องของเทคโนโลยี การดูแลสุขภาพ ความเป็นไปของโลก กฎเกณฑ์การปกครอง หรือการศึกษา คงจะไม่มีการเติบโตส่วนตัวหรือการพัฒนาทางวิญญาณผ่านการกลับใจและการเรียนรู้จากประสบการณ์
สมัยข้าพเจ้าเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยบริคัม ยังก์–ไอดาโฮ มีคนถามซิสเตอร์คลาร์กบ่อยๆ ว่า “คุณพบอธิการบดีคลาร์กได้อย่างไร” คำตอบของเธอมักจะเริ่มด้วยคำพูดว่า “เขาไม่ได้เป็นอธิการบดีคลาร์กตอนที่ดิฉันพบเขาค่ะ” ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ข้าพเจ้าคงจะหัวโบราณกว่านี้ ข้าพเจ้าคงจะยังเป็นคนอายุ 25 ปีที่ซิสเตอร์คลาร์กรู้จักสมัยข้าพเจ้าเรียนจบมหาวิทยาลัย—ไม่มีอนาคตที่ดีสำหรับซิสเตอร์คลาร์กหรือสำหรับครอบครัวเรา!
ถ้าท่านหยุดเรียนรู้ ท่านไม่สามารถมีความรู้มากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีประโยชน์มากขึ้น ซื่อสัตย์มากขึ้น หรือเป็นเหมือนพระบิดาในสวรรค์ของเรามากขึ้น
ประสบการณ์ของท่านกับการเรียนรู้ในวัยเยาว์และวัยหนุ่มสาวของท่านวางรากฐานสำหรับการเรียนรู้ชั่วชีวิต ถ้าท่านพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้เชิงลึกในวิธีของพระเจ้า—ผ่านพระวิญญาณและด้วยการศึกษาอย่างขยันหมั่นเพียรและกระตือรือร้น—สิ่งนั้นจะเป็นพรใหญ่หลวงต่อท่าน
ประเด็นสำคัญในการเก็บเกี่ยวพรนั้นคือให้ใจและความนึกคิดของท่านเปิดรับการเรียนรู้อยู่เสมอ สามสิ่งที่ท่านทำได้เพื่อให้พร้อมเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาคือ
-
ทูลขอพระเจ้าให้ประทานพรท่านด้วยความปรารถนาจะเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง
ถ้าท่านมีความปรารถนาจะเรียนรู้อย่างลึกซึ้งอยู่แล้ว นั่นดีมาก ถ้าไม่มี จงทูลขอของประทานดังกล่าว พระเจ้าจะทรงฝึกปรือความปรารถนาของท่านทั้งนี้เพื่อท่านจะต้องการเรียนรู้ว่าพระองค์ทรงต้องการให้ท่านเรียนรู้อะไรและอย่างไรตลอดชีวิตท่าน ในแผนของพระเจ้า พระองค์ทรงต้องการให้ท่านเรียนรู้ อย่างไร—โดยพระวิญญาณ ด้วยการศึกษาอย่างขยันหมั่นเพียร—สำคัญเท่าๆ กับพระองค์ทรงต้องการให้ท่านเรียนรู้ อะไร
-
ทำให้การกลับใจเป็นส่วนสำคัญของชีวิตท่าน
การกลับใจเป็นกระบวนการอันสูงส่ง เป็นวิธีที่เราเปลี่ยน เติบโต และดีขึ้นผ่านพลังการไถ่และการเสริมสร้างความเข้มแข็งอันเนื่องจากการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ ถ้าการกลับใจสำคัญต่อชีวิตท่าน ท่านจะคุกเข่าเสมอ โดยถ่อมตนต่อพระพักตร์พระเจ้า แสวงหาความช่วยเหลือจากพระองค์ให้รู้วิธีใช้เวลาของท่านและวิธีรับใช้พระองค์
-
นมัสการในพระวิหารให้บ่อยที่สุด
พระวิหารเป็นพระนิเวศน์แห่งการเปิดเผยและการเรียนรู้ของพระเจ้า ถ้าท่านไปที่นั่นบ่อยๆ ถ้าท่านนำคำถามและความปรารถนาจะเรียนรู้ไปกับท่าน พระเจ้าจะทรงสอนท่านด้วยพระองค์เอง
เอาชนะการต่อต้านให้เรียนรู้เชิงลึก
การเรียนรู้เชิงลึกเวลานี้จะเตรียมท่านให้พร้อมเรียนรู้ชั่วชีวิต อย่างไรก็ดี ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านประสบอุปสรรคและแม้ประสบการต่อต้านอย่างโจ่งแจ้งไม่ให้เรียนรู้สิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการให้ท่านได้รับ ความกลัว ความท้อใจ ความเกียจคร้าน ปัญหาเรื่องการอ่าน ขาดการสนับสนุนหรือโอกาส วัฒนธรรมหรือประเพณีครอบครัว ความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย การล่อลวงของโลก ความคิดผิดๆ เกี่ยวกับการศึกษา และอีกหลายอย่างอาจขัดขวางท่าน8
ข้าพเจ้ารู้ว่าบางท่านเผชิญอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ และรู้สึกเหมือนเป็นอุปสรรคขัดขวางการเรียนรู้ที่ไม่อาจเอาชนะได้
ข้าพเจ้ากล่าวคำพยานต่อท่านว่าไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด ไม่ว่าสภาวการณ์ของท่านจะเป็นเช่นไร พระเจ้าพระเยซูคริสต์ทรงยืนสู้กับการต่อต้านทั้งหมดนี้พร้อมท่านด้วยความรักอันเป็นการไถ่และเดชานุภาพอันทรงมหิทธิฤทธิ์ของพระองค์ โดยผ่านการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ พระองค์ทรงประสบและทรงเอาชนะทุกอย่างที่อาจขัดขวางความก้าวหน้าสู่ชีวิตนิรันดร์ของท่าน ในพระพลานุภาพและด้วยเดชานุภาพของพระองค์ ท่านสามารถเอาชนะทุกอย่างที่กีดขวางระหว่างท่านกับการเรียนรู้ซึ่งพระเจ้าทรงต้องการให้ท่านได้รับ
นี่คือสัญญาที่พระองค์ทรงทำกับท่าน และสัญญาของพระองค์แน่นอน “จงเข้ามาอยู่ใกล้เราและเราจะเข้ามาอยู่ใกล้เจ้า; จงแสวงหาเราอย่างขยันหมั่นเพียรและเจ้าจะได้พบเรา; ขอ, และเจ้าจะได้รับ; เคาะ, และจะเปิดมันให้เจ้า” (คพ. 88:63; ดู มัทธิว 7:7)
สรุป
นี่เป็นช่วงเวลาอันสำคัญยิ่งจริงๆ ในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าทรงกำลังเร่งงานของพระองค์ และเราเห็นปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่าขณะพระเจ้าทรงดำเนินการในเดชานุภาพของพระองค์เพื่อเปิดโอกาสอันดียิ่งให้ท่านได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้ง
พระเจ้าทรงงานในชีวิตท่านเพื่อประทานพรและเตรียมท่าน ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้ท่านทำด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์เพื่อใช้ทุกโอกาสเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง เติบโตในความรู้และความเข้าใจ บรรลุจุดประสงค์อันชอบธรรมของพระองค์ และเป็นดังที่ท่านเกิดมาเป็น