ดิจิทัลเท่านั้น: คนหนุ่มสาว
วิธีที่ดิฉันพบศรัทธาเมื่อรู้สึกเหมือนสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง
การสูญเสียมือและคนที่ดิฉันรักเป็นความท้าทายที่ยากยิ่งนัก แต่พระบิดาบนสวรรค์ทรงช่วยให้ดิฉันเปลี่ยนเป็นคนดีขึ้น
คืนหนึ่งดิฉันคุกเข่าที่เตียงทูลถามพระบิดาบนสวรรค์ว่าพระองค์จะทรงช่วยให้ดิฉันมีศรัทธามากขึ้นหรือไม่ พลางนึกถึงพระคัมภีร์ข้อหนึ่งในพันธสัญญาใหม่ที่สานุศิษย์คนหนึ่งทูลขอให้พระเยซูคริสต์ทรง “โปรดให้ [ศรัทธา] ของพวกข้าพระองค์เพิ่มมากยิ่งขึ้น” (ดู ลูกา 17:5) ดิฉันไม่คิดว่าหลังจากสวดอ้อนวอนครั้งนี้ได้ไม่นานดิฉันจะเผชิญการทดลองที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ดิฉันสำนึกคุณอย่างยิ่งที่ดิฉันพยายามเพิ่มพูนศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอดอยู่แล้วขณะเกิดการทดลองเหล่านั้น เพราะดิฉันไม่ทราบจะผ่านพ้นได้อย่างไรหากปราศจากความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์
ไม่กี่วันหลังจากสวดอ้อนวอน ดิฉันประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนเกือบเสียมือซ้ายและต้องตัดนิ้วมือข้างนั้นออกทั้งหมด ชีวิตดิฉันไม่เหมือนเดิมอีกเลย แม้จะรู้สึกถึงความรักของพระบิดาบนสวรรค์ ของครอบครัวและเพื่อนๆ ผ่านขั้นตอนการผ่าตัดและการบำบัดที่ยาวนาน แต่ก็ยากเหลือเกิน
วันหนึ่งหลังจากแพทย์บอกว่าดิฉันจะต้องทำกายภาพนานหลายเดือน ดิฉันร้องไห้กลับบ้านและทูลถามพระบิดาบนสวรรค์ว่า “ดิฉันต้องอดทนอย่างนี้นานเท่าใด?” ประหนึ่งสุรเสียงที่ชัดเจนและอ่อนโยนบอกดิฉันทันทีว่า “เจ้าจะก้าวหน้าไม่ได้หากปราศจากการทดลอง เจ้ายังต้องได้รับมากขึ้นอีก”
ดิฉันแทบไม่เชื่อว่าดิฉันได้รับคำตอบการสวดอ้อนวอนทันที ดิฉันตั้งใจในขณะนั้นว่าจะเดินหน้าต่อไปด้วยศรัทธา ดิฉันตัดสินใจส่งใบสมัครเป็นผู้สอนศาสนารับใช้พระผู้เป็นเจ้าใหม่อีกครั้งแม้มีความท้าทาย ไม่กี่เดือนต่อมาดิฉันได้รับจดหมายเรียกให้ไปรับใช้ในคณะเผยแผ่กัวเตมาลา กัวเตมาลาซิตีเซาท์ แต่กว่าจะถึงจุดนั้นไม่ง่ายเลย ดิฉันต้องใช้ความกล้าหาญมากเพื่อยอมรับสภาพของตน ลืมตนเอง และเชื้อเชิญให้ผู้อื่นติดตามพระคริสต์
การจดจำว่าฉันสามารถทำเรื่องยากๆ ได้
งานเผยแผ่ของดิฉันวิเศษมาก ดิฉันเห็นคุณค่าของหลักธรรมพระกิตติคุณมากขึ้น มีความมั่นใจว่าดิฉันสามารถแบ่งปันประจักษ์พยานได้ และนำความหวังมาให้คนมากมายผู้ไม่รู้ว่าจะหาความหวังนั้นจากที่ใด ดิฉันรู้สึกว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงเปลี่ยนใจดิฉัน ดิฉันไม่เคยประสบความรู้สึกเหมือนรักคนแปลกหน้าโดยไม่มีเงื่อนไขและเต็มใจสละทุกอย่างที่มีให้กับพวกเขาโดยไม่ลังเลจนถึงตอนนี้—เดินเข้าออกทุกวันไม่ว่าฝนตกหรือแดดออก ทั้งเมื่อยเท้าและเจ็บเท้า
เมื่อจบงานเผยแผ่ ประสบการณ์ทั้งหมดนั้นช่วยให้ดิฉันอยู่อย่างมีความหวังในโลกที่วุ่นวายฉาบฉวยเมื่อกลับบ้าน ดิฉันกลับบ้านขณะที่ครอบครัวและประเทศของดิฉันลำบากมาก มีปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมืองหลายเรื่อง หลายครอบครัวอพยพไปประเทศอื่นเพราะขาดโอกาสด้านอาชีพและการศึกษา ดิฉันแทบไม่เชื่อว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปมากในช่วงเวลาสั้นขนาดนั้น แม้แต่ในครอบครัวของดิฉันเอง คนที่ดิฉันรักและเพื่อนบางคนเสียชีวิตด้วย ดิฉันรู้สึกกลุ้มใจมากกับความยุ่งยากรอบด้าน
วันหนึ่งขณะรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง ดิฉันหยิบสมุดบันทึกการศึกษาออกมาและเริ่มเขียนความรู้สึกในใจ ดิฉันนึกถึงประสบการณ์มากมายที่เคยมีขณะรับใช้ผู้อื่นในงานเผยแผ่ ดิฉันจำเป็นต้องนึกถึงประสบการณ์พิเศษเหล่านั้นเพื่อให้ตนเองทุ่มเทมากขึ้นในงานของพระองค์ รับใช้ และยังคงพัฒนาของประทานที่พระองค์ทรงมอบให้ วันนั้นคำพูดพิเศษมากที่ภรรยาประธานคณะเผยแผ่ของดิฉันเคยย้ำกับเราเสมอมีผลต่อดิฉัน “คุณสามารถทำเรื่องยากๆ ได้” ดิฉันพยายามนึกถึงคำพูดนั้นตลอดมา แม้ในขณะฝึกใช้มือเทียมและพยายามใช้ชีวิตตามปกติ
เปลี่ยนเป็นคนดีขึ้น
ตลอดความยากลำบากที่ดิฉันประสบมา ประจักษ์พยานของดิฉันเติบโต—โดยเฉพาะศรัทธาของดิฉันในปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นถ้าเราตัดสินใจทำบางอย่างด้วยความมุ่งมั่น ความเสมอต้นเสมอปลาย และศรัทธา คนที่เชื่อในพระบิดาบนสวรรค์จะมีความหวังเสมอในสภาวการณ์ทุกอย่าง
ดิฉันรู้ว่าการทดลองในชีวิตบนแผ่นดินโลกจะดำเนินต่อไป แต่ดิฉันไม่ควรกลัวเพราะการทดลองจะนำดิฉันให้เข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์มากขึ้น พระองค์จะทรงช่วยให้เรารู้ได้ว่าจะก้าวหน้าอย่างไร อุบัติเหตุและความท้าทายยากๆ ทั้งหลายที่ดิฉันประสบมาเตือนให้ดิฉันหันไปขอความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์ และพระองค์ทรงช่วยให้ดิฉันเปลี่ยนเป็นคนดีขึ้น ดิฉันดีใจที่ดิฉันสวดอ้อนวอนขอศรัทธามากขึ้น และรู้ว่าการทดลองต่างๆ ทำให้ดิฉันสามารถรับใช้พระบิดาบนสวรรค์และเข้าใกล้พระองค์ได้มากยิ่งขึ้น แม้ชีวิตเปลี่ยนไปเพราะการทดลอง แต่ดิฉันมีความสุขจริงๆ และขอบพระทัยที่มาไกลขนาดนี้ด้วยความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์ ดิฉันแทบจะรอวันที่ดิฉันจะฟื้นคืนชีวิตไม่ไหว—วันที่ดิฉันจะได้เห็นพระองค์อีกครั้งและทูลพระองค์ว่า “ขอบพระทัย! ขอบพระทัยที่ทรงทำให้ดิฉันอ่อนน้อมถ่อมตน ขอบพระทัยที่ทรงหล่อหลอมดิฉัน ขอบพระทัยที่ทรง “ทำให้ศรัทธาของดิฉันเพิ่มขึ้น!”