2020
พระวิญญาณทรงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
กุมภาพันธ์ 2020


พรของการพึ่งพาตนเอง

พระวิญญาณทรงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

เพราะหลักสูตรการพึ่งพาตนเองและการนำทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ มอลลี โคร์แมนจึงกล้าเริ่มธุรกิจของเธอเอง

ภาพ
woman working in her bakery

คนจบปริญญาด้านนันทนาการบำบัดและมีประสบการณ์ด้านสุขภาพจิตมา 10 ปีลงเอยด้วยการเปิดร้านขนมหวานขายบราวนี่ บลอนดี้ และไอศกรีมหลากสีสวยงามได้อย่างไร

สำหรับมอลลี โคร์แมน คำตอบของเธอเรียบง่าย ในปี 2017 เธอเรียนหลักสูตรการพึ่งพาตนเองเกี่ยวกับวิธีเริ่มและขยายธุรกิจ หลักสูตรนั้นทำให้เธอกล้าสานฝัน

“ดิฉันเรียนทำขนมในวอชิงตัน ดี.ซี. และเรียนทำอาหารในยูทาห์” เธอกล่าว “เมื่อสเตคบอกว่าพวกเขาจะจัดชั้นเรียนการพึ่งพาตนเอง ดิฉันคิดว่า ‘ฉันควรหาข้อมูลเรื่องนี้ ฉันอยากมีธุรกิจของตนเองมาตลอด ฉันเคยเรียนธุรกิจอื่นมาแล้ว คงไม่เสียหายถ้าจะเรียนอีก’”

หลักสูตรต่างจากโรงเรียนธุรกิจหรือโรงเรียนสอนทำขนมที่มอลลีเคยเรียน เธอกล่าวว่าสิ่งที่ทำให้หลักสูตรนี้ไม่เหมือนหลักสูตรอื่นคือการมีพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ด้วยและความเป็นมิตรในหมู่สมาชิกที่เรียนหลักสูตรนี้

“การสนทนาเรื่องธุรกิจเป็นประโยชน์และดี” เธอกล่าว “แต่การสนทนาเรื่องธุรกิจที่เชื่อมโยงกับฝ่ายวิญญาณมีประสิทธิผลมากที่สุดต่อดิฉัน”

พรสวรรค์และความสับสน

“ดิฉันเกิดความสับสนในใจ” มอลลีกล่าว “ดิฉันสงสัยว่าการใช้เงินออม เวลา และพลังงานทั้งหมดของดิฉันไปกับการเริ่มทำธุรกิจสักอย่างจะเป็นการใช้ทรัพยากรของดิฉันให้เกิดประโยชน์สูงสุดจริงหรือในเมื่อตอนนั้นดิฉันกำลังทำงานด้านการป้องกันการฆ่าตัวตาย”

ในช่วงชั้นเรียนแรก มอลลีกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ สนทนาเรื่องความปรารถนาของพระเจ้าที่จะให้วิสุทธิชนของพระองค์ประสบความสำเร็จและเลือกวิธีดำเนินชีวิตที่ทำให้พวกเขาเกิดปีติ เธอถามคนทั้งกลุ่มว่า “คุณจะทำให้การใช้พรสวรรค์ของคุณไปกับเรื่องสำคัญสอดคล้องกับการใช้พรสวรรค์ไปกับสิ่งที่คุณแค่อยากทำได้อย่างไร”

เมื่อกลุ่มสนทนาคำถามของเธอ มอลลีคิดได้ว่าเธอคงไม่เพียงขายบราวนี่เท่านั้น ถ้าธุรกิจของเธอประสบความสำเร็จ เธอจะจ้างคนมาทำงาน เธอจะมีเงินบริจาคให้อุดมการณ์ที่น่ายกย่อง และเมื่อชั่วโมงทำงานของเธอลดลง เธอจะกลับไปอาสาทำงานสังคม

“ดิฉันใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเข้าใจการสนทนานั้นจริงๆ ดิฉันไม่ยอมรับแนวคิดนั้นจนกระทั่งดิฉันอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยคนมีความคิดเหมือนกัน” เธอกล่าว “เราทุกคนอยู่คนละขั้นในกระบวนการทางธุรกิจและอยู่คนละช่วงชีวิต แต่พระวิญญาณสถิตที่นั่น และทรงนำการสนทนาของเรา—ทุกครั้ง ดิฉันตระหนักว่าถ้าดิฉันต้องการมีธุรกิจของตนเองจริงๆ พระบิดาบนสวรรค์จะทรงสนับสนุนดิฉันแน่นอน”

บราวนี่และพร

เมื่อเรียนหลักสูตร 12 สัปดาห์มาได้ครึ่งทาง มอลลีเริ่มอบบราวนี่และแบ่งให้สมาชิก 10 คนในกลุ่มพึ่งพาตนเองของเธอ

“พวกเขาชอบมาก และบางคนให้คำติชมที่ดีมากๆ” เธอกล่าว “ดิฉันเริ่มทำรสชาติ น้ำตาลเคลือบ และส่วนผสมหลายๆ แบบ เมื่อจบชั้นเรียน ดิฉันคิดออกแล้วว่าดิฉันอยากทำอะไร”

มอลลีบอกว่าสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องพบปะกับกลุ่มของเธอทุกสัปดาห์ รับผิดชอบต่อคำมั่นสัญญาที่มีให้กันในแต่ละสัปดาห์ เรียนรู้ว่าจะขอความช่วยเหลืออย่างไรและจากใคร และพากันไปหาแหล่งช่วยที่ต้องการ

“ในช่วงเวลาทั้งหมดที่เราอยู่ด้วยกัน ดิฉันรู้สึกได้รับพรและได้รับการสนับสนุนจากคนในกลุ่ม” เธอกล่าว “ชั้นเรียนช่วยให้ดิฉันรู้ทุกอย่างที่ต้องทำความเข้าใจ”

หลังจากเปิดร้านบราวนี่ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2018 มอลลีพบทันทีว่าการดำเนินธุรกิจใช้เวลามากกว่าที่คิด แต่หลักธรรมข้อหนึ่งที่เธอจำได้จากชั้นเรียนพึ่งพาตนเองยังคงเป็นพรแก่เธอ

“เราสนทนากันว่าเราจะมีข้อเรียกร้องมากเป็นพิเศษที่ต้องใช้เวลา แต่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นถ้าเรามีเวลาให้พระวิญญาณ” เธอกล่าว “ดิฉันพบว่านั่นเป็นความจริง ถ้าจู่ๆ ดิฉันรู้สึกหนักใจและเครียด ดิฉันจะฟังพระคัมภีร์หรือคำพูดจากการประชุมใหญ่สามัญขณะทำงานคนเดียวตอนเช้า นั่นทำให้ดิฉันรู้สึกสงบและสบายใจ”

ความรู้สึกสงบเช่นนั้นควบคู่กับลูกค้าที่ตื่นเต้น มีความสุข และพอใจทำให้มอลลีไม่ท้อ—แม้หลังจากทำงานมาทั้งวัน

“ดิฉันจะเริ่มธุรกิจนี้ไม่ได้แน่หากปราศจากความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์” เธอกล่าว “และถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากอีกหลายๆ คน ธุรกิจนี้คงจะเกิดขึ้นไม่ได้ นี่เป็นโอกาสที่ดีมากๆ ดิฉันอยากทำธุรกิจนี้มานานแล้ว”

และเพราะชั้นเรียนการพึ่งพาตนเอง “ดิฉันจึงได้รับพรให้มีโอกาสลอง”

ภาพถ่ายอุปกรณ์อบขนมจาก Getty Images

พิมพ์