หน่วย 8: วัน 1
2 นีไฟ 26–27
คำนำ
นีไฟเห็นล่วงหน้าว่าพระเยซูคริสต์จะเสด็จเยือนพื้นที่ของทวีปอเมริกาและเห็นความพินาศอันจะเกิดแก่ผู้คนของเขาหลังจากนั้น นีไฟเห็นคนที่มีชีวิตอยู่ในวันเวลาสุดท้ายล่วงหน้าเช่นกันและเตือนพวกเขาเรื่องความจองหอง การมั่วสุมลับ และการฉ้อฉลในอำนาจปุ โรหิต เพื่ออธิบายว่าพระเจ้าจะทรงจัดหาวิธีให้เราเอาชนะผลของความชั่วร้ายและการละทิ้งความเชื่อ นี-ไฟจึงพูดถึงคำพยากรณ์ของอิสยาห์เกี่ยวกับการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ในยุคสุดท้าย
2 นีไฟ 26
นีไฟพยากรณ์เกี่ยวกับวันเวลาสุดท้ายและเชื้อเชิญคนทั้งปวงให้มาหาพระคริสต์
ท่านเคยอยู่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหว พายุฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรง หรือมหันตภัยอื่นๆ หรือเห็นในภาพถ่ายหรือวีดิทัศน์หรือไม่ นีไฟเห็นว่าในยุคสุดท้ายผู้อยู่อาศัยของแผ่นดินโลก “จะถูกเยือนด้วยฟ้าคำรนคำราม, และสายฟ้าฟาด, และแผ่นดินไหว, และการทำลายล้างทุกอย่าง” (2 นีไฟ 26:6) ท่านนึกถึงอะไรเมื่อท่านอ่านเกี่ยวกับ “ความกริ้วของพระเจ้า” (2 นี-ไฟ 26:6) หรือ “การพิพากษาของพระผู้เป็นเจ้า” (2 นี-ไฟ 25:3) การพิพากษาของพระผู้เป็นเจ้ามุ่งหมายจะเป็นพรแก่บุตรธิดาของพระองค์—เพื่อนำคนชั่วร้ายมาสู่การกลับใจและคุ้มครองคนชอบธรรม ใน 2 นีไฟ 26:1–11 นีไฟพยากรณ์ถึงความพินาศที่จะเกิดขึ้นก่อนการเสด็จเยือนพื้นที่ทวีปอเมริกาของพระเยซูคริสต์และความพินาศในท้ายที่สุดของผู้คนเนื่องด้วยความชั่วร้ายของพวกเขา อ่าน 2 นีไฟ 26:8–9 และมองหาพรที่นี-ไฟกล่าวว่าจะมาถึงผู้สืบตระกูลที่ชอบธรรมของเขา จากนั้นให้อ่าน 2 นีไฟ 26:12–13 และมองหาสิ่งที่สัญญาไว้กับเราเมื่อเราใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์
-
พระเยซูคริสต์ทรงแสดงองค์ให้ประจักษ์ต่อคนที่ใช้ศรัทธาในพระองค์และอดทนในความชอบธรรม บันทึกคำตอบของคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน
-
พระเยซูคริสต์ทรงแสดงองค์ให้ประจักษ์ต่อคนที่ใช้ศรัทธาในพระองค์อย่างไร (ดู 2 นีไฟ 26:13)
-
ท่านเคยเห็นหรือประสบปรากฏการณ์บางอย่างเหล่านี้ของพระเยซูคริสต์อย่างไร
-
ใน 2 นีไฟ 26:14–19 นีไฟพยากรณ์ว่าในยุคสุดท้าย หลังจากผู้คนของเขาและพงศ์พันธุ์ของพี่น้องเขาอ่อนแอเพราะความไม่เชื่อ พระคัมภีร์มอรมอนจะออกมา ใน 2 นีไฟ 26:20–22 เขาบรรยายว่าคนมากมายในยุคสุดท้ายจะเต็มไปด้วยความจองหอง ปฏิเสธปาฏิหาริย์ของพระผู้เป็นเจ้า พึ่งพาสติปัญญาและความรู้ของตน ท่านเคยเห็นตัวอย่างคำพยากรณ์ของนีไฟเกิดสัมฤทธิ-ผลในด้านใดบ้าง
นีไฟเตือนเราว่ามารใช้ความจองหอง ความละโมบ และงานลับทำลายเรา ในพระคัมภีร์ของเราใกล้ 2 นี-ไฟ 26:22 ให้ทำเครื่องหมายว่าซาตานพยายามมัดเราอย่างไร ใยป่านคือด้ายลินินเส้นบางๆ ที่ขาดง่าย อย่างไรก็ดี เมื่อนำด้ายหลายเส้นมาฟั่นเป็นเกลียวมันจะกลายเป็นเชือกเหนียว อ่าน 2 นีไฟ 26:32 และสังเกตตัวอย่าง “งานในความมืด” ที่พระเจ้าทรงบัญชาเราให้หลีกเลี่ยง ไตร่ตรองว่าด้ายเส้นเดียวจะสามารถเป็น “เชือกอันแข็งแรง” ใน 2 นีไฟ 26:32 ได้อย่างไร
-
สมมติว่าท่านกำลังสอนเพื่อนให้รู้วิธีหลีกเลี่ยงกับดักของมาร (ซาตาน) ให้ใช้ 2 นีไฟ 26:20–22, 32 เขียนข้อความหนึ่งย่อหน้าลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านเพื่ออธิบายขั้นตอนที่มารพยายามมัดเรา สังเกตเป็นพิเศษใน 2 นี-ไฟ 26:22 ว่าปฏิปักษ์ใช้ใยป่านอย่างไรจนมัดเหยื่อของเขาด้วยเชือกที่แข็งแรงขึ้น และยกตัวอย่าง
นีไฟเห็นความพินาศอันเกิดจากปฏิปักษ์และเตือนเรื่องกับดักและอิทธิพลของซาตานในวันเวลาสุดท้าย ตรงข้ามกับงานแห่งความมืดของซาตาน นีไฟสอนว่าความรักของพระผู้เป็นเจ้าเผื่อแผ่มาถึงคนทั้งปวงและจุดประสงค์ของพระองค์คือช่วยคนมากเท่าที่จะมาหาพระองค์ให้รอด อ่าน 2 นีไฟ 26:23–24 และใช้ปากกาเน้นข้อความที่คำและวลีซึ่งบอกว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานกับลูกๆ ของพระองค์อย่างไร ตามที่กล่าวไว้ ใน 2 นีไฟ 26:24 อะไรคือจุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าในทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำ ท่านอาจต้องการเน้นข้อความตรงวลีที่สอนหลักคำสอนนี้: ทุกอย่างที่พระเจ้าทรงทำเป็นไปเพื่อประโยชน์ของโลก
-
ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน: การเข้าใจว่าทุกอย่างที่พระเจ้าทรงทำเพื่อประโยชน์ของโลกช่วยท่านเพิ่มพูนศรัทธาในพระบิดาบนสวรรค์และทำให้ท่านมีสันติสุขตลอดจนความมั่นใจในชีวิตนี้อย่างไร
อ่าน 2 นีไฟ 26:25–28, 33 คร่าวๆ และทำเครื่องหมายทุกครั้งที่คำว่า ทั้งปวง ผู้ใด และ ไม่มี ใคร ปรากฏ จากนั้นให้กลับไปอ่านทวนข้อเหล่านี้โดยเอาใจใส่คำเหล่านี้เป็นพิเศษและนีไฟสอนอย่างไรว่า พระเจ้าทรงรักคนทั้งปวงและเชื้อเชิญคนทั้งปวงให้มาหาพระองค์และรับส่วนความรอดของพระองค์ ไตร่ตรองว่าหลักธรรมนี้ส่งผลอย่างไรต่อวิธีที่ท่านมองพระบัญญัติ มาตรฐาน และคนอื่นๆ
-
อ่าน 2 นีไฟ 26:29–31 ให้เขียนลักษณะสองสามอย่างของการฉ้อฉลในอำนาจปุโรหิตดังระบุไว้ใน ข้อ 29 ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน แล้วตอบคำถามต่อไปนี้
-
ท่านคิดว่าเหตุใดการฉ้อฉลในอำนาจปุโรหิตจึงส่งผลเสียต่อศาสนจักร
-
ตามที่กล่าวไว้ใน 2 นีไฟ 26:30 เราจะป้องกันการฉ้อฉลในอำนาจปุโรหิตอย่างไร
-
2 นีไฟ 27:1–23
นีไฟพยากรณ์ถึงการมาปรากฏของพระคัมภีร์มอรมอน
-
ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน: ท่านรู้ได้อย่างไร (หรือเหตุใดท่านจึงเชื่อ) ว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า
พระเจ้าทรงเปิดเผยรายละเอียดต่อศาสดาพยากรณ์อิส-ยาห์เกี่ยวกับการมาปรากฏของพระคัมภีร์มอรมอน ซึ่งนีไฟบันทึกไว้ใน 2 นีไฟ 27 หลังจากอิสยาห์พยากรณ์ว่าในวันเวลาสุดท้ายคนมากมายจะเต็มไปด้วยความชั่วช้าสามานย์และปฏิเสธศาสดาพยากรณ์แล้ว เขาสอนว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปิดเผยหนังสือที่มีงานเขียนสมัยโบราณด้วย (ดู 2 นีไฟ 27:1–7) อ่าน 2 นีไฟ 27:12–14 และมองหาสิ่งที่ข้อนี้สอนว่าพระเจ้าจะทรงทำอะไรเพื่อสถาปนาความจริงของหนังสือที่จะออกมาในวันเวลาสุดท้าย
วิธีหนึ่งที่พระเจ้าทรงสถาปนาความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนคือยอมให้คนอื่นเป็นพยานถึงแผ่นจารึกทองคำ ออลิเวอร์ คาวเดอรี, เดวิด วิตเมอร์, และมาร์ติน แฮร์ริสได้รับคัดเลือกให้เป็นพยานสามคนและกล่าวถึงใน 2 นีไฟ 27:12 (ดู “ประจักษ์พยานของพยานสามคน” อยู่ข้างหน้าพระคัมภีร์มอรมอน)
“ไม่กี่คน” ที่กล่าวไว้ ใน 2 นีไฟ 27:13 รวมถึงพยานแปดคนเช่นกัน (ดู “ประจักษ์พยานของพยานแปดคน” ต้นเล่มพระคัมภีร์มอรมอน) ท่านอาจทำเครื่องหมายที่ข้อความว่า “พยานหลายต่อหลายปากเท่าที่พระองค์ทรงเห็นว่าดี” ใน 2 นีไฟ 27:14 เมื่อท่านได้รับและแบ่งปันประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน ท่านกลายเป็นพยานถึงความจริงของหนังสือนี้เช่นกัน ท่านอาจต้องการเขียนชื่อของท่านไว้ข้างๆ 2 นีไฟ 27:14 ในฐานะพยานเพิ่มเติมอีกคนหนึ่งถึงความจริงของพระคัมภีร์มอรมอน
เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวคำพยานของท่านถึงพระคัมภีร์มอรมอนดังนี้
“ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าไม่มีใครเกิดศรัทธาเต็มเปี่ยมในงานยุคสุดท้ายนี้—และด้วยเหตุนั้นจึงพบสันติสุขและความสบายใจเต็มขนาดในสมัยของเรา—จนกว่าเขาจะน้อมรับความศักดิ์สิทธิ์ของพระคัมภีร์มอร-มอนและพระเจ้าพระเยซูคริสต์ผู้ซึ่งพระคัมภีร์เล่มนี้เป็นพยานถึง …
“ข้าพเจ้าขอให้ประจักษ์พยานที่ข้าพเจ้ากล่าววันนี้ภายใต้คำปฏิญาณและตำแหน่งของข้าพเจ้าเองเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนและทั้งหมดที่พระคัมภีร์เล่มนี้หมายถึง ถูกบันทึกไว้ โดยผู้คนบนแผ่นดินโลกและเทพในสวรรค์ … ข้าพเจ้าต้องการให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อข้าพเจ้ายืนต่อหน้าบัลลังก์พิพากษาของพระผู้เป็นเจ้าว่าข้าพเจ้าประกาศต่อโลกด้วยภาษาตรงไปตรงมาที่สุดเท่าที่ข้าพเจ้าจะรวบรวมได้ว่าพระคัมภีร์มอรมอนจริง พระคัมภีร์ดังกล่าวออกมาตามวิธีที่โจเซฟกล่าวไว้ และประทานไว้เพื่อนำความสุขและความหวังมาให้คนซื่อสัตย์ในความลำบากของยุคสุดท้าย” (ดู “ความปลอดภัยให้จิตวิญญาณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2009, หน้า 110–)
ใคร่ครวญสิ่งที่ท่านทำได้เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นของท่านถึงความจริงของพระคัมภีร์มอรมอน
-
ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ให้จดสิ่งที่ท่านจะทำปีนี้เพื่อเพิ่มพลังพยานของท่านถึงความจริงของพระคัมภีร์มอรมอน
เพื่อทำกิจกรรมต่อไปนี้ให้ครบถ้วน ท่านจะต้องอ้างถึงโจเซฟ สมิธ—ประวัติ ซึ่งอยู่ในพระคัมภีร์ไข่มุกอันล้ำค่า อ่าน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:63–65 และระบุชื่อคนในเรื่อง จากนั้นให้อ่านข้อที่กำหนดจาก 2 นีไฟ 27 ในแผนภูมิด้านล่างและจับคู่ชื่อกับข้อพระคัมภีร์แต่ละชุด
|
|
คำว่า อักขระ ใน โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:63–65 หมายถึงอักขระอียิปต์ปฏิรูปที่โจเซฟ สมิธคัดลอกและแปลจากแผ่นจารึกทองคำแล้วมาร์ติน แฮร์ริสมอบให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ แอนธัน ชาร์ลส์ แอนธันเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยโคลัมเบียและมีชื่อเสียงในความรู้ด้านภาษาโบราณ หลังจากบอกและรับรองว่าการแปลอักขระของโจเซฟ สมิธถูกต้อง ศาตราจารย์แอนธันฉีกเอกสารรับรองการแปลเมื่อรับทราบวิธีได้แผ่นจารึกมาอย่างน่าอัศจรรย์ เขาเสนอตัวแปลบันทึก เมื่อมาร์ติน แฮร์ริสอธิบายว่าแผ่นจารึกบางแผ่นถูกผนึกไว้ ศาสตราจารย์แอนธันกล่าวว่าเขาไม่สามารถอ่านหนังสือที่ผนึกไว้ได้ ตามที่กล่าวไว้ ใน 2 นีไฟ 27:16 เราเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับแรงจูงใจที่ทำให้ชาร์ลส์ แอนธันต้องการแปลแผ่นจารึก
อ่าน 2 นีไฟ 27:20–23 และทำเครื่องหมายวลีที่กล่าวซ้ำในข้อ 20 และ 21
-
เขียนในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่าสิ่งที่ท่านศึกษาจนถึงวันนี้ใน 2 นีไฟ 27:1–23 ยืนยันอย่างไรว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงสามารถทำงานของพระองค์ได้ (หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมาปรากฏของพระคัมภีร์มอร-มอน ให้ดู คพ. 20:8–12)
ท่านอาจต้องการเขียนความจริงต่อไปนี้ไว้ ในพระคัมภีร์ของท่าน: การมาปรากฏของพระคัมภีร์มอรมอนเป็นวิธีหนึ่งที่พระผู้เป็นเจ้าจะทรงบรรลุผลสำเร็จในการทำงานของพระองค์ในยุคสุดท้าย
-
ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน: สัมฤทธิผลแห่งคำพยากรณ์สมัยโบราณเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนเสริมสร้างประจักษ์พยานของท่านในหนังสือนี้และบทบาทของหนังสือดังกล่าวในการฟื้นฟูศาสนจักรของพระเจ้าอย่างไร
2 นีไฟ 27:24–35
นีไฟพยากรณ์ถึงผลกระทบในทางบวกของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์
พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกชายหนุ่มนามโจเซฟ สมิธให้เป็นศาสดาพยากรณ์แห่งการฟื้นฟูและนำงานอัศจรรย์ของพระองค์ออกมาในวันเวลาสุดท้าย “งานอัศจรรย์” ดังกล่าวไว้ ในพระคัมภีร์คือการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ซึ่งรวมถึงการมาปรากฏของพระคัมภีร์มอรมอน อ่าน 2 นีไฟ 27:25–26 ทำเครื่องหมายวลี “งานอัศจรรย์และการอันน่าพิศวง” และระบุสภาพบางอย่างที่จะดำรงอยู่เมื่อพระเจ้าทรงเริ่มงานอัศจรรย์นี้ ไตร่ตรองว่าพระคัมภีร์มอรมอนและการฟื้นฟูได้ช่วยท่านหลีกเลี่ยงสภาพเหล่านั้นอย่างไร
อ่าน 2 นีไฟ 27:29–30, 34–35 และทำเครื่องหมายพรที่เกิดขึ้นเนื่องด้วยการมาปรากฏของพระคัมภีร์มอรมอนและการฟื้นฟูพระกิตติคุณ พระคัมภีร์มอรมอนและพระกิตติคุณที่ ได้รับการฟื้นฟูจะทำให้คนที่ศึกษาและยอมรับเกิดปีติและความเข้าใจ
-
บันทึกคำตอบสำหรับคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน: การฟื้นฟูพระกิตติคุณซึ่งรวมถึงการมาปรากฏของพระคัมภีร์มอรมอน เป็น “งานอัศจรรย์” ในชีวิตท่านอย่างไร
-
เขียนต่อท้ายงานมอบหมายของวันนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่า
ฉันได้ศึกษา 2 นีไฟ 26–27 และศึกษาเสร็จวันที่ (วันเดือนปี)
คำถาม ความคิด และข้อคิดเพิ่มเติมที่ฉันอยากแบ่งปันกับครู: