โมไซยาห์ 3

คำนำ

ขณะยังคงกล่าวปราศรัยกับผู้คน กษัตริย์เบ็นจามินบอกพวกเขาว่าเทพองค์หนึ่งได้กล่าวแก่เขาเกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนกิจของพระเยซูคริสต์ กษัตริย์เบ็นจามินเป็นพยานว่าโดยผ่านศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการกลับใจ คนที่ทำบาปสามารถรับความรอดได้ เขาสอนด้วยว่าโดยผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์แต่ละบุคคลสามารถเอาชนะความเป็นมนุษย์ปุถุชนได้ โดยยอมต่อการชักจูงของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์

โมไซยาห์ 3:1–10

กษัตริย์เบ็นจามินกล่าวถ้อยคำของเทพเกี่ยวกับการชดใช้

ขณะที่ท่านศึกษา โมไซยาห์ 3 ให้มองหาแหล่งของ “ข่าวอันน่ายินดีแห่งความปรีดียิ่ง” ( โมไซยาห์ 3:3)

อ่าน โมไซยาห์ 3:1–5 และมองหาสิ่งที่เทพบอกกษัตริย์เบ็นจามิน เทพประกาศว่าผู้คนของกษัตริย์เบ็นจามินมีเหตุให้ชื่นชมยินดีและเปี่ยมด้วยปีติ

อะไรในข่าวสารของเทพที่สามารถทำให้ชาวนีไฟเปี่ยมด้วยปีติ

อ่าน โมไซยาห์ 3:5–10 และทำเครื่องหมายคำหรือวลีเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดและการปฏิบัติศาสนกิจของพระองค์ที่ช่วยให้ท่านเห็นคุณค่าของการปฏิบัติศาสน-กิจดังกล่าวมากขึ้นขณะพระผู้ช่วยให้รอดทรงเป็นมรรตัย

เลือกวลีสองวลีที่ท่านทำเครื่องหมายไว้ และเขียนคำอธิบายลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านเกี่ยวกับสิ่งที่วลีเหล่านั้นสอนท่านเพื่อช่วยให้ท่านเข้าใจและเห็นคุณค่าการปฏิบัติศาสนกิจของพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น

มีหลักคำสอนและหลักธรรมมากมายสอนไว้ ในโมไซยาห์ 3:5–10 สิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่งคือ พระเยซูคริสต์ทรงทนทุกข์เพื่อเราจะได้รับการช่วยให้รอดจากบาป ท่านอาจจะเขียนหลักคำสอนนี้ไว้ ในพระคัมภีร์ใกล้กับ โมไซยาห์ 3:7–9

หลังจากอ่าน โมไซยาห์ 3:7–9 ให้อ่าน ลูกา 22:44 และ หลักคำสอนและพันธสัญญา 19:16–18 โมไซยาห์ 3ให้ข้อคิดเพิ่มเติมอะไรบ้าง โมไซยาห์ 3 ช่วยให้เราเห็นคุณค่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพระผู้ช่วยให้รอดอย่างไร

อ่านคำกล่าวต่อไปนี้จากเอ็ลเดอร์เจมส์ อี. ทาลเมจแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเกี่ยวกับความทุกขเวทนาของพระผู้ช่วยให้รอดในสวนเกทเสมนี

“คนที่มีความคิดจำกัดไม่อาจหยั่งถึงความเจ็บปวดรวดร้าวของพระคริสต์ ในสวนได้ ทั้งในเรื่องของความสาหัสและสาเหตุ … พระองค์ทรงดิ้นรนและครวญครางภายใต้ภาระซึ่งไม่มีสัตภาวะใดผู้เคยอยู่บนแผ่นดินโลกเข้าใจได้ ไม่ ใช่ความเจ็บปวดทางกาย ทั้งไม่ใช่ความปวดร้าวทางใจแต่อย่างเดียวที่เป็นเหตุให้พระองค์ทรงทนทุกขเวทนาจนพระโลหิตออกจากทุกขุมขน แต่ความเจ็บปวดรวดร้าวทางวิญญาณของจิตวิญญาณด้วย ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นทรงสามารถประสบได้ … ในโมงแห่งความปวดร้าว พระคริสต์ทรงประสบและทรงเอาชนะความน่าพรั่นพรึงทั้งหลายที่ซาตาน ‘ผู้ครองโลก’ [ยอห์น 14:30] ก่อให้เกิดขึ้น …

“ ในวิธีการบางอย่าง จริงแท้แน่นอนและจริงอย่างยิ่งจนมนุษย์ ไม่อาจเข้าใจได้ พระผู้ช่วยให้รอดทรงรับเอาภาระแห่งบาปของมนุษยชาติตั้งแต่อาดัมจนถึงจุดจบของโลก” (Jesus the Christ, 3rd ed. [1916], 613)

ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ให้เขียนเล่าประสบการณ์ที่ช่วยให้ท่านทราบว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด การจดจำประสบการณ์นี้เพิ่มปีติให้แก่ชีวิตท่านอย่างไร

การจดจำประสบการณ์

เมื่อท่านใคร่ครวญประสบการณ์ทางวิญญาณที่เคยมี พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพยานต่อท่านอีกครั้งถึงความจริงที่ท่านเรียนรู้ การเขียนประสบการณ์เหล่านี้ไว้ในบันทึกส่วนตัวของท่านแสดงให้พระเจ้าทรงเห็นว่าท่านปรารถนาจะจดจำพระหัตถ์ของพระองค์ในชีวิตท่านและช่วยให้ท่านจดจำประสบการณ์เหล่านั้น

โมไซยาห์ 3:11–27

กษัตริย์เบ็นจามินบอกวิธีเอาชนะความเป็นมนุษย์ปุถุชน

ขณะที่กษัตริย์เบ็นจามินยังคงสอนผู้คนเขาสอนคนเหล่านั้นว่าการชดใช้เป็นพรแก่บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร เขาสอนด้วยว่าเราจะสามารถเอาชนะความเป็นมนุษย์ปุถุชนและกลับเป็นวิ-สุทธิชนผ่านการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดอย่างไร

เพื่อเข้าใจมากขึ้นว่าการชดใช้เป็นพรแก่ลูกๆ ของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร ให้อ่านข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้และเขียนบรรยายลักษณะของกลุ่มคนที่ข้อนั้นเป็นพยานว่าจะได้รับพรผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์

สำคัญที่ต้องรู้ว่าแม้พระเยซูคริสต์ทรงชดใช้บาปของคนที่ ไม่รู้จักพระกิตติคุณ—คนที่สิ้นชีวิตในความเขลา—แต่พวกเขายังต้องกลับใจและใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ ในโลกวิญญาณจึงจะได้รับการช่วยให้รอด (ดู คพ. 131:6; 138:31–34) พระเจ้าทรงเปิดเผยเช่นกันว่าเด็กเกิดมาไร้เดียงสาในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้าและซาตานไม่มีอำนาจล่อลวงพวกเขา เด็กเล็กได้รับการช่วยให้รอดผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ โดยไม่ต้องกลับใจหรือรับบัพติศมาจนกว่าพวกเขาจะเริ่มรับผิดชอบได้เมื่ออายุแปดขวบ (ดู โมโรไน 8:8–15; คพ. 29:46–47; 137:10)

เราต้องปฏิบัติตามความรู้ที่เรามี ในพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ อ่าน โมไซยาห์ 3:12–13 ขีดเส้นใต้คำและวลีที่สอนว่า เราจะได้รับการช่วยให้รอดจากบาปเมื่อเราใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์และกลับใจ

นึกถึงภาพถ้วยที่เต็มไปด้วย “ความสุข” จดจำถ้อยคำของเทพที่ประกาศว่าปีติเกิดจากการเข้าใจพระพันธ-กิจและการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด (ดู โมไซยาห์ 3:4–5) เพื่อเข้าใจด้านตรงข้ามของภาพนี้ให้อ่าน โมไซ-ยาห์ 3:24–27 ขีดเส้นใต้สิ่งที่ผู้เลือกไม่กลับใจจะดื่มในวันพิพากษา

จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เลือกไม่ ใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์และไม่กลับใจ

หลังจากสอนผู้คนเรื่องการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดกับความจำเป็นของการกลับใจและมีศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอดแล้ว กษัตริย์เบ็นจามินได้สอนวิธีทิ้งส่วนที่เป็นบาป ในอุปนิสัยของพวกเขาและกลับเป็นวิสุทธิชนผ่านการชดใช้

อ่าน โมไซยาห์ 3:19 และระบุคำหรือวลีที่ท่านไม่เข้าใจ อาจเป็นประโยชน์ถ้าเขียนนิยามของคำสามคำไว้ ในพระคัมภีร์ของท่านใกล้ข้อนี้ “มนุษย์ปุถุชน” คือคนที่เลือกให้กิเลสตัณหา ความปรารถนา และความอยากของเนื้อหนังมีอิทธิพลต่อพวกเขาแทนการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ “ยอม” หมายถึงยอมตามบางคนหรือบางสิ่ง “การชักจูง” คือการเชื้อเชิญที่ โน้มน้าวใจหรือน่าพอใจ โมไซยาห์ 3:19เป็นข้อผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ ท่านอาจต้องการทำเครื่องหมายข้อนี้ให้ชัดเจนเพื่อจะหาเจอได้ ในภายหลัง

เขียนหัวข้อ “ทิ้งความเป็นมนุษย์ปุถุชน” ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ใต้หัวข้อนี้ให้เขียนรายการสิ่งที่ โมไซยาห์ 3:19 สอนว่าเราต้องทำเพื่อเอาชนะ “ความเป็นมนุษย์ปุถุชน” วงกลมการกระทำหนึ่งที่ท่านรู้สึกว่าสำคัญที่สุดที่ท่านน่าจะทำเวลานี้ วางแผนประยุกต์ใช้การกระทำดังกล่าว

หลักธรรมข้อหนึ่งที่ โมไซยาห์ 3:19สอนคือถ้าเรายอมต่อการชักจูงของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เราย่อมสามารถเอาชนะความเป็นมนุษย์ปุถุชนผ่านการชดใช้ของพระคริสต์

ในคำพูดของท่านเอง การยอม “ต่อการชักจูงของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์” หมายความว่าอย่างไร

อ่านคำกล่าวต่อไปนี้จากเอ็ลเดอร์นีล เอ. แม็กซ์เวลล์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเกี่ยวกับการทิ้งความเป็นมนุษย์ปุถุชน “ความชอบธรรม การนมัสการ การสวดอ้อนวอน และการศึกษาพระคัมภีร์ เป็นส่วนตัว สำคัญอย่างยิ่งต่อการ ‘ทิ้งความเป็นมนุษย์ปุถุชน’ (โมไซยาห์ 3:19)” (“The Tugs and Pulls of the World,” Ensign, Nov. 2000, 36)

ตอบคำถามต่อไปนี้ลงสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน: ท่านกำลังพยายามยอมต่อการชักจูงของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตท่านในด้านใดบ้าง
ท่านสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อยอม “ต่อการชักจูงของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์” ในชีวิตท่านอย่างสมบูรณ์มากขึ้น เขียนเป้าหมายหนึ่งข้อในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านเพื่อช่วยท่านปรับปรุงด้านนี้ในสัปดาห์นี้ ท่านอาจจะพัฒนาคุณลักษณะอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เราเป็นเหมือนเด็ก ดังระบุไว้ในโม-ไซยาห์ 3:19—ตัวอย่างเช่น เป็นคนว่าง่ายมากขึ้น อ่อนโยน ถ่อมตน อดทน เปี่ยมด้วยความรัก หรือเต็มใจยอมในสิ่งทั้งปวงที่พระเจ้าทรงเห็น “ควรจะอุบัติแก่” ท่าน
เขียนอุปสรรคบางอย่างในชีวิตท่านที่ขัดขวางท่านไม่ให้ยอมต่อการชักจูงของพระวิญญาณลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน

ผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์—โมไซยาห์ 3:19

เพื่อช่วยให้ท่านจดจำหรือท่องจำโมไซยาห์ 3:19 ท่านอาจต้องการอ่านข้อนี้สามรอบ การอ่านซ้ำจะช่วยให้ท่านคุ้นเคยกับเนื้อหาของข้อนั้น หลังจากอ่านแล้วจงพยายามเขียนข้อดังกล่าว หรือเขียนแนวคิดในข้อให้มากเท่าที่ท่านจะทำได้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านโดยไม่ดูพระคัมภีร์ พยายามท่องออกเสียงหลายๆ ครั้ง เช่น ขณะกำลังเดิน ออกกำลังกาย หรือจัดที่นอน การทำเช่นนี้หลายๆ วันติดต่อกันจะช่วยให้ท่านท่องจำและจำหลักธรรมสำคัญๆ ในข้อนี้ได้
เขียนต่อท้ายงานมอบหมายของวันนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่า

ฉันได้ศึกษา โมไซยาห์ 3 และศึกษาเสร็จวันที่ (วันเดือนปี)

คำถาม ความคิด และข้อคิดเพิ่มเติมที่ฉันอยากแบ่งปันกับครู: