หน่วย 30: วัน 1

อีเธอร์ 4–5

คำนำ

พระเจ้าทรงบัญชาโมโรไนให้เขียนและจากนั้นให้ผนึกบันทึกของเขาเกี่ยวกับนิมิตของพี่ชายเจเร็ด โมโรไนอธิบายว่างานเขียนเหล่านี้จะได้รับการเปิดเผยเมื่อมนุษย์มีศรัทธามากเท่าพี่ชายของเจเร็ด นอกจากนี้โม-โรไนยังได้พยากรณ์ว่าพยานสามคนจะแสดงประจักษ์พยานถึงความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนในยุคสุดท้าย

อีเธอร์ 4:1–7

โมโรไนบันทึกและผนึกเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับนิมิตของพี่ชายของเจเร็ด

นึกถึงของชิ้นหนึ่งซึ่งมีค่าต่อท่านหรือครอบครัวเป็นพิเศษที่ท่านอาจต้องการเก็บให้พ้นมือเด็กเล็ก เด็กต้องเรียนรู้หรือทำอะไรก่อน ท่านจึงจะวางใจเขาเรื่องของชิ้นนั้น

ทำนองเดียวกัน พระเจ้าทรงมีความจริงอันล้ำค่าที่ทรงต้องการแบ่งปันกับเรา แต่พระองค์ทรงรอจนกว่าเราจะพร้อมรับ ขณะที่ท่านศึกษา อีเธอร์ 4 ให้มองหาสิ่งที่ โม-โรไนสอนซึ่งสามารถช่วยท่านเตรียมรับความจริงและการนำทางจากพระเจ้ามากขึ้น

ดังที่ท่านอ่านใน อีเธอร์ 3 พระเจ้าทรงแสดงให้พี่ชายของเจเร็ดเห็นนิมิตเกี่ยวกับผู้อยู่อาศัยทั้งหมดของแผ่นดินโลก—อดีต ปัจจุบัน และอนาคต—ตลอดจนทุกเรื่องเกี่ยวกับแผ่นดินโลก พี่ชายของเจเร็ดได้รับบัญชาในเวลานั้นให้เขียนสิ่งที่เขาเห็นและผนึกงานเขียนของเขา อ่าน อีเธอร์ 4:4–5 มองหาคำบรรยายของโมโร-ไนเกี่ยวกับสิ่งที่พี่ชายของเจเร็ดเห็น โมโรไนเขียนสิ่งที่พี่ชายของเจเร็ดเห็นและพระเจ้าทรงบัญชาให้ผนึกนิมิตนั้นเพื่อจะออกมาในเวลาอันเหมาะสมของพระเจ้า นิมิตที่ข้อเหล่านี้กล่าวถึงรวมอยู่ ในส่วนที่เรียกกันทั่วไปว่าส่วนที่ผนึกไว้ของพระคัมภีร์มอรมอน

โมโรไนพยากรณ์ถึงสภาพที่ต้องดำรงอยู่ก่อนจะทำให้รู้การเปิดเผยที่ประทานแก่พี่ชายของเจเร็ด ท่านอาจต้องการทำเครื่องหมายสภาพเหล่านี้ใน อีเธอร์ 4:6–7

1. เพื่อช่วยท่านไตร่ตรองว่าการ “ใช้ศรัทธาใน [พระเจ้า], แม้ดังที่พี่ชายของเจเร็ดทำ” หมายความว่าอย่างไร (อีเธอร์ 4:7) ให้ทบทวนอีเธอร์ 1–3 จดวิธีที่พี่ชายของเจเร็ดแสดงศรัทธาและความวางใจในพระเจ้าลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน เลือกและอธิบายตัวอย่างหนึ่งในนั้นที่ท่านประทับใจมากที่สุดด้วยและอธิบายว่าเพราะเหตุใด

ท่านจะวางใจเด็กเรื่องของมีค่าภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดเท่านั้น เช่นเดียวกับพระเจ้าทรงแบ่งปันความจริงเพิ่มเติมกับบุตรธิดาของพระองค์ก็ต่อเมื่อเราแสดงความพร้อมทางวิญญาณ เชื่อในความจริงอันล้ำค่าที่พระองค์ทรงเปิดเผยแล้ว และใช้ศรัทธาในพระองค์

อีเธอร์ 4:8–19

โมโรไนสอนสิ่งที่เราต้องทำเพื่อได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติม

มองดูม่านหน้าต่างในห้องที่ท่านอยู่ ตรึกตรองว่าม่านหน้าต่างจำกัดสิ่งที่ท่านมองเห็นอย่างไร

โมโรไนใช้สัญลักษณ์ของม่าน ซึ่งเหมือนกับม่านหน้าต่าง เพื่อสอนหลักธรรมที่กำหนดว่าเราแต่ละคนจะรับการเปิดเผยได้อย่างไร อ่าน อีเธอร์ 4:15 และหาวลีที่มีคำว่าม่าน สังเกตว่าโมโรไนเปรียบเทียบความไม่เชื่อกับม่าน ความไม่เชื่อเหมือนม่านในด้านใด

อาจจะเป็นประโยชน์ถ้าเข้าใจคำว่า ฉีก ใน อีเธอร์ 4:15 หมายถึงแยกออกจากกันเป็นแนวยาว จินตนาการว่าจะเป็นเช่นไรถ้าท่านฉีกม่านระหว่างท่านกับความรู้เรื่องพระเจ้า

โมโรไนบรรยายสิ่งที่ช่วย “ฉีกม่านความไม่เชื่อ” และยอมให้เราได้รับการเปิดเผยมากขึ้น เขาเริ่มโดยเตือนเรื่องเจตคติที่ขัดขวางไม่ให้เราได้รับการเปิดเผยมากขึ้น อ่าน อีเธอร์ 4:8 ทำเครื่องหมายสิ่งที่จะเป็นเหตุให้พระเจ้าทรงยับยั้งการเปิดเผยและ “ ไม่แสดงสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า”

2. ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน

   1. ท่านคิดว่า “ต่อต้านพระวจนะของพระเจ้า” หมายความว่าอย่างไร (อีเธอร์ 4:8)

   2. เยาวชนทุกวันนี้ อาจจะ “ต่อต้านพระวจนะของพระเจ้า” ด้วยวิธีใดบ้าง

โมโรไนรวมพระดำรัสของพระเจ้าไว้ด้วยเพื่ออธิบายวิธีได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติมจากพระองค์ ค้นคว้า อีเธอร์ 4:11, 13–15 ทำเครื่องหมายวลีที่สอนว่าเราต้องทำอะไรเพื่อเชื้อเชิญการเปิดเผยจากพระเจ้าและพระองค์จะทรงตอบสนองอย่างไรถ้าเราทำสิ่งเหล่านี้

ท่านเรียนรู้หลักธรรมอะไรบ้างจากข้อเหล่านี้เกี่ยวกับการเปิดเผยและวิธีเชื้อเชิญการเปิดเผยเข้ามาในชีวิตท่าน ท่านอาจต้องการเขียนหลักธรรมหนึ่งที่ท่านเรียนรู้จากข้อเหล่านี้ในพระคัมภีร์ของท่านใกล้กับ อีเธอร์ 4:11

หลักธรรมสำคัญประการหนึ่งที่เราเรียนรู้ ได้จากคำแนะนำของพระเจ้าคือ เมื่อเราใช้ศรัทธาอย่างมากในพระวจนะของพระเจ้า พระองค์จะประทานพรเราด้วยการเปิดเผยเพิ่มมากขึ้นในเวลาและในวิธีของพระองค์

3. ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านให้อธิบายว่าเหตุใดท่านจึงคิดว่าท่านจำเป็นต้องแสดงศรัทธาในพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าที่ท่านได้รับอยู่แล้วก่อนพระเจ้าจะทรงเปิดเผยต่อท่านมากขึ้น จากนั้นให้ประเมินตนเองตามลำดับ 1 ถึง 10 (10 คือ “มีประสิทธิภาพมาก”) เกี่ยวกับความรู้สึกว่าท่านกำลังใช้ศรัทธาในพระเจ้าดีเพียงใดโดยแสวงหาและทำตามพระวจนะของพระองค์ในแต่ละด้านต่อไปนี้

   1. การสวดอ้อนวอนประจำวัน

   2. การทำตามการกระตุ้นเตือนที่ท่านได้รับผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์

   3. การสนับสนุนและทำตามผู้นำในสาขา วอร์ด ท้องถิ่น หรือสเตค

   4. การศึกษาพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าในศาสนจักรหรือเซมินารี

   5. การศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัว

   6. การทำตามถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์และดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติ

4. ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ให้บรรยายว่าการเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้าในด้านใดด้านหนึ่งตามที่ระบุไว้ข้างต้นทำให้ท่านสามารถได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้าเพิ่มมากขึ้นอย่างไร

ไตร่ตรองว่าท่านจะรวมหลักธรรมของการใช้ศรัทธาในพระวจนะของพระเจ้าไว้ ในความพยายามเชื้อเชิญการเปิดเผยเพิ่มเติมและการนำทางจากพระเจ้าได้อย่างไร

อีเธอร์ 5

โมโรไนประกาศว่าพยานสามคนจะเห็นและแสดงประจักษ์พยานเกี่ยวกับแผ่นจารึก

อ่าน อีเธอร์ 5:1–3 โมโรไนเขียนอะไรในข้อเหล่านี้ที่หมายถึงศาสดาพยากรณ์ โจเซฟ สมิธ—บุคคลที่วันหนึ่ง จะแปลบันทึกบนแผ่นจารึก จินตนาการว่าจะเป็นเช่นไรถ้าโจเซฟ สมิธพบข้อเหล่านี้ขณะกำลังแปลพระคัมภีร์มอรมอน

อ่านคำกล่าวต่อไปนี้จากประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์แห่งฝ่ายประธานสูงสุด และมองหาวลีที่ท่านประทับใจเกี่ยวกับประจักษ์พยานของพยานสามคน “พยานสามคนไม่เคยปฏิเสธประจักษ์พยานของตนในพระคัมภีร์มอรมอน พวกเขาปฏิเสธไม่ ได้เพราะรู้ว่าจริง พวกเขาเสียสละและเผชิญกับความยากลำบากเกินกว่าผู้คนส่วนใหญ่เคยรู้ ขณะที่ใกล้จะสิ้นใจ ออลิเวอร์ คาวเดอรี ให้ประจักษ์พยานเดียวกันเกี่ยวกับที่มาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระคัมภีร์มอรมอน … การที่พวกเขายังคงรับรองในสิ่งที่ ได้เห็นและได้ยินในประสบการณ์อันน่าพิศวงนั้น แม้ ในช่วงเวลาอันยาวนานของการออกห่างจากศาสนจักรและจากโจเซฟ ทำให้ประจักษ์พยานของพวกเขาทรงพลังยิ่งขึ้น” (“ประจักษ์พยานอันยืนนานในพันธกิจของศาสดาโจเซฟ สมิธ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2003, 107)

ตามที่กล่าวไว้ ใน อีเธอร์ 5:2–3 ศาสดาพยากรณ์ โจเซฟ สมิธได้รับสิทธิพิเศษให้ทำอะไรกับแผ่นจารึก

5. เฉกเช่นชายสามคนผู้ได้รับสิทธิพิเศษให้เป็นพยานถึงความจริงของแผ่นจารึกทองคำ ท่านเองก็สามารถเป็นพยานถึงความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนได้ ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านให้บันทึกสองสามวิธีที่ท่านสามารถเป็นพยานของพระคัมภีร์มอรมอนได้เช่นกัน นอกจากนี้ ให้เขียนว่าการที่ท่านเป็นพยานถึงพระคัมภีร์มอรมอนสามารถมีอิทธิพลต่อผู้อื่นได้อย่างไร

หาโอกาสแบ่งปันพยานของท่านถึงพระคัมภีร์มอรมอนกับคนบางคนในสัปดาห์นี้ร่วมกับการสวดอ้อนวอน

6. เขียนต่อท้ายงานมอบหมายของวันนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่า

   ฉันได้ศึกษา อีเธอร์ 4–5 และศึกษาเสร็จวันที่ (วันเดือนปี)

   คำถาม ความคิด และข้อคิดเพิ่มเติมที่ฉันอยากแบ่งปันกับครู: