รากฐานของฉัน: การพึ่งพาตนเองเป็นหลักธรรมแห่งความรอด

ใช้เวลาไม่เกิน: 20 นาที

ไตร่ตรอง:

ยอห์น 10:10

ยอห์น 10:10

“เรา​มา​เพื่อ​พวก‍เขา​จะ​ได้​ชีวิต​และ​จะ​ได้​อย่าง​ครบ‍บริ‌บูรณ์”

สนทนา:

ชีวิตที่ครบบริบูรณ์คืออะไร?

ชมวีดิทัศน์:

“He Polished My Toe” [ท่านขัดนิ้วเท้าของผม] มีอยู่ที่ srs.lds.org/videos (ไม่มีวีดิทัศน์? ดูบทพูดท้ายหมวดนี้)

สนทนา:

ท่านเชื่อหรือไม่ว่าปัญหาของท่านมีทางออก? เราจะมีคุณสมบัติคู่ควรให้เดชานุภาพของพระเจ้าช่วยเหลือเราได้อย่างไร?

อ่าน:

ข้อความอ้างอิงจาก คู่มือเล่ม 2 และคำพูดของเอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์

คู่มือเล่ม 2: การบริหารงานศาสนจักร

“การพึ่งพาตนเองคือความสามารถ คำมั่นสัญญา และความพยายามในการจัดหาสิ่งจำเป็นต่อชีวิตสำหรับตนเองและครอบครัวทั้งทางโลกและทางวิญญาณ เมื่อสมาชิกพึ่งพาตนเองได้ สมาชิกสามารถรับใช้และดูแลผู้อื่นได้เช่นกัน”

[2010], 6.1.1

เอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์

“ไม่ว่าเราจะพึ่งพาผู้อื่นด้วยสาเหตุใดก็ตาม ทั้งเรื่องการตัดสินใจหรือแหล่งช่วยต่างๆ ซึ่งเราสามารถจัดหาให้ตนเองได้ เราย่อมทำให้ตนเองอ่อนแอทางวิญญาณและขัดขวางการเติบโตของตนเองตามที่แผนพระกิตติคุณมุ่งหมายให้เราเติบโต”

“การกลับใจและการเปลี่ยนแปลง,” เลียโฮนา, พ.ย. 2003, 48

การพึ่งพาตนเองไม่ได้หมายความว่าเราสามารถทำหรือได้สิ่งที่เราปักใจว่าจะได้ แต่การพึ่งพาตนเองคือการเชื่อว่าโดยผ่านพระคุณหรือเดชานุภาพอันกอปรด้วยพระปรีชาสามารถของพระเยซูคริสต์และความพยายามของเราเอง เราสามารถได้สิ่งจำเป็นทางวิญญาณและทางโลกของชีวิตทั้งหมดที่เราต้องการสำหรับตัวเราและครอบครัวเรา การพึ่งพาตนเองเป็นหลักฐานยืนยันความไว้วางใจหรือศรัทธาของเราในเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าว่าพระองค์ทรงสามารถเคลื่อนภูเขาในชีวิตเราและประทานความเข้มแข็งให้เราเอาชนะการทดลองและความทุกข์ยากทั้งหลาย

สนทนา:

พระคุณของพระคริสต์ช่วยให้ท่านได้รับสิ่งจำเป็นของชีวิตทั้งทางวิญญาณและทางโลกอย่างไร?

กิจกรรม (5 นาที)

ขั้นตอนที่ 1: เลือกคู่และอ่านหลักธรรมแต่ละข้อด้านล่าง

หลักธรรมคำสอนเรื่องการพึ่งพาตนเอง
1. การพึ่งพาตนเองเป็นพระบัญญัติ	“ศาสนจักรและสมาชิกได้รับบัญชาจากพระเจ้าให้พึ่งพาตนเองและไม่พึ่งใคร” (คำสอนของประธานศาสนาจักร: สเป็นเซอร์ดับเบิลยู. คิมบัลล์ [2006], 125)
2. พระผู้เป็นเจ้าทรงสามารถและจะทรงจัดเตรียมหนทางให้บุตรธิดาที่ชอบธรรมของพระองค์พึ่งพาตนเองได้	“และเป็นจุดประสงค์ของเราที่จะจัดหาให้วิสุทธิชนของเรา, เพราะสิ่งทั้งปวงเป็นของเรา” (ค&พ. 104:15)
3. ฝ่ายโลกและฝ่ายวิญญาณเป็นเรื่องเดียวกัน สำหรับพระผู้เป็นเจ้า	“ดังนั้น, ตามจริงแล้ว เรากล่าวแก่เจ้าว่าสำหรับเราทุกสิ่งเป็นฝ่ายวิญญาณ” (ค&พ. 29:34)

ขั้นตอนที่ 2: สนทนากับคู่ของท่านว่าเหตุใดการเชื่อความจริงเหล่านี้จึงจะช่วยให้ท่านพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น

สนทนา:

อ่านคำพูดของประธานแมเรียน จี. รอมนีย์ ท่านรู้ได้อย่างไรว่าท่านกำลังพึ่งพาตนเองมากขึ้น?

ประธานมาเรียน จี. รอมนีย์

“หากไม่พึ่งพาตนเอง เราย่อมไม่สามารถใช้ความปรารถนาที่อยู่ในตัวเรารับใช้ผู้อื่น เราจะให้ได้อย่างไรถ้าไม่มีอะไรจะให้? อาหารสำหรับคนหิวโหยจะมาจากชั้นวางของที่ว่างเปล่าไม่ได้ เงินช่วยเหลือคนขัดสนจะมาจากกระเป๋าที่ว่างเปล่าไม่ได้ กำลังใจและความเข้าใจจะมาจากคนที่ทุกข์ทรมานทางอารมณ์ไม่ได้ การสอนจะมาจากคนไม่มีการศึกษาไม่ได้ และสำคัญที่สุดคือการชี้นำทางวิญญาณจะมาจากคนอ่อนแอทางวิญญาณไม่ได้”

“The Celestial Nature of Self-Reliance,” Ensign, Nov. 1982, 93

ให้คำมั่นสัญญา:

ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำสิ่งต่อไปนี้ระหว่างสัปดาห์:

• อ่านจดหมายจากฝ่ายประธานสูงสุดในตอนต้นของคู่มือนี้และระบุพรที่สัญญาไว้ ท่านต้องทำอะไรจึงจะได้รับพรเหล่านั้น? เขียนความคิดของท่านด้านล่าง

• บอกครอบครัวหรือเพื่อนๆ ของท่านว่าวันนี้ท่านเรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการพึ่งพาตนเอง

ท่านขัดนิ้วเท้าของผม

ถ้าท่านไม่สามารถดูวีดิทัศน์ได้ ให้เลือกสมาชิกกลุ่มคนหนึ่งอ่านบทพูดต่อไปนี้

ท่านขัดนิ้วเท้าของผม

เอ็ลเดอร์เอนริเก อาร์. ฟาลาเบยา:

เมื่อผมเริ่มโต เรามีเงินไม่มาก ผมจำวันหนึ่งได้เมื่อผมเดินไปหาคุณพ่อและบอกว่า “พ่อครับ ผมจำเป็นต้องมีรองเท้าคู่ใหม่ คู่นี้เก่ามากแล้ว” ท่านหยุดมองรองเท้าของผม และเห็นว่ารองเท้าเก่าจริงๆ ท่านพูดว่า “พ่อคิดว่าเราจัดการเรื่องนี้ได้” ท่านนำยาขัดรองเท้าสีดำมาขัดรองเท้าให้ผมจนเงาวับและดูดี ท่านบอกว่า “พ่อจัดการให้แล้วลูก” ผมตอบ “ยังครับ ยังเห็นนิ้วเท้าโผล่ออกมานอกรองเท้าอยู่เลย” ท่านบอกว่า “เราก็จัดการได้เหมือนกัน!” ท่านนำยาขัดรองเท้ามาเพิ่มอีกนิดและขัดนิ้วเท้าของผม!

วันนั้นผมเรียนรู้ว่าทุกปัญหามีทางออก ผมเชื่อว่าหลักธรรมแห่งการพึ่งพาตนเองและโครงการนี้เป็นวิธีหนึ่งในการเร่งงานของพระเจ้า เป็นส่วนหนึ่งของแผนแห่งความรอด

เราทุกคนสามารถเป็นได้ดีกว่าที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ คุณต้องไม่เฉยเมย หลายครั้งเราชะล่าใจ และนี่ทำลายความก้าวหน้าของเรา ทุกวันเป็นวันที่ผมสามารถก้าวหน้าได้ถ้าผมตัดสินใจทำต่างจากเดิมเพื่อปรับปรุงสิ่งที่ผมทำได้ไม่ดีนักในอดีต ถ้าคุณทำเช่นนั้นด้วยศรัทธา โดยมีศรัทธาและความหวังในพระคริสต์ว่าพระองค์จะทรงช่วยเหลือคุณ คุณจะพบหนทางก้าวหน้าในเรื่องทางโลกและทางวิญญาณ นี่เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์และคุณเป็นบุตรหรือธิดาของพระองค์