บทที่ 12
ความจำเป็นของการเกิดใหม่ทางวิญญาณ
คำนำ
จากพระคัมภีร์มอรมอนเราเรียนรู้ว่า “มนุษย์ปุถุชนเป็นศัตรูต่อพระผู้เป็นเจ้า” (โมไซยาห์ 3:19) ในบทนี้นักเรียนได้รับการสอนว่าโดยผ่านการกลับใจและการใช้ศรัธาในพระเยซูคริสต์ เราสามารถเอาชนะความเป็นมนุษย์ปุถุชน “เกิดใหม่” และประสบกับการเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำในใจ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจำเป็นต่อการเข้าอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า
ความรู้พื้นฐานที่ควรอ่าน
-
เดวิด เอ. เบดนาร์, “การชดใช้และการเดินทางของความเป็นมรรตัย,” เลียโฮนา, เม.ย. 2012, 40–47
-
ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน, “การเกิดใหม่,” เลียโฮนา, พ.ค. 2008, 91–95
ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน
โมไซยาห์ 3:19; 16:2–5; แอลมา 41:10–11
การทิ้งความเป็นมนุษย์ปุถุชน
บน กระดานให้เขียนข้อความต่อไปนี้ของประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน (1899–1994) อ้างอิงจาก “To ‘the Rising Generation,’” New Era, June 1986, 5
-
เหตุใดจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีความสุขเมื่อเลือกผิด
ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง แอลมา 41:10–11 ขณะชั้นเรียนมองหาผลของความชั่วร้าย (เน้นความจริงต่อไปนี้: ความชั่วร้ายไม่เคยเป็นความสุขเลย)
-
มีการหลอกลวงอะไรบ้างที่ซาตานใช้ทำให้เราเชื่อมั่นว่าการฝ่าฝืนพระบัญญัตินำไปสู่ความสุข
-
ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 11 การอยู่ใน “สภาพแห่งธรรมชาติ” หมายถึงอะไร (การอยู่ “ในสภาพทางเนื้อหนัง” “ในดีแห่งความขมขื่นและพันธนาการแห่งความชั่วช้าสามานย์” และ “ไม่มีพระผู้เป็นเจ้า”)
-
แอลมา 41:10–11 ช่วยอธิบายอย่างไรว่าเหตุใดการทำบาปจึงไม่อาจนำไปสู่ความสุข (บาปตรงข้ามกับธรรมชาติของพระผู้เป็นเจ้า และ “ธรรมชาติของพระผู้เป็นเจ้า” คือ “ธรรมชาติของความสุข”)
เตือนนักเรียนว่าเราทุกคนสืบทอดผลการตกของอาดัม ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง โมไซยาห์ 16:2–5 ขณะชั้นเรียนระบุคำและวลีที่พูดถึงสภาพที่หลงไปของมนุษย์
-
อบินาไดใช้คำและวลีใดพูดถึงสภาพที่หลงไปของมนุษย์
-
อะไรคือความหมายของคำว่า “ดื้อรั้น” ใน ข้อ 5 (หมายเหตุ: การระบุคำสำคัญเป็นทักษะการศึกษาพระคัมภีร์ที่ท่านอาจจะเลือกเน้นตรงนี้)
-
อะไรทำให้เราได้รับการไถ่จากสภาพที่หลงไปและเต็มไปด้วยบาป
ขอให้นักเรียนอ่าน โมไซยาห์ 3:19 ในใจและดูว่าเราจะเอาชนะสภาพที่หลงไปของเราได้อย่างไร
-
“ยอมต่อการชักจูงของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์” หมายความว่าอย่างไร
-
เราต้องทำอะไรเพื่อ “ทิ้งความเป็นมนุษย์ปุถุชน” (นักเรียนควรระบุหลักธรรมต่อไปนี้: เมื่อเราทำตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และใช้เดชานุภาพของการชดใช้ เราสามารถทิ้งความเป็นมนุษย์ปุถุชนได้)
เชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาหลักฐานที่พวกเขาเคยเห็นว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงสามารถเปลี่ยนเราให้เป็นคนดีกว่าที่เราจะเป็นได้ด้วยตัวเราเอง ขอให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันความเข้าใจของพวกเขา
เชื้อเชิญให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ในใจ
-
ท่านจะทำอะไรบ้างเพื่อ “[ยอม] ต่อการชักจูงของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์” ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
-
ท่านจำเป็นต้องพัฒนาคุณลักษณะใดของเด็กตามที่กล่าวไว้ใน โมไซยาห์ 3:19 มากที่สุด
โมไซยาห์ 5:1–5, 7–8; 27:24–26
การเกิดใหม่
ขอให้นักเรียนเขียนชื่อคนในพระคัมภีร์มอรมอนที่พบกับการเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยของตนเพราะการชดใช้ของพระเยซูคริสต์
เตือนนักเรียนว่าครั้งหนึ่งแอลมาผู้บุตรและพวกบุตรของโมไซยาห์อยู่ในบรรดาคนไม่เชื่อในเซราเฮ็มลาผู้ข่มเหงสมาชิกศาสนจักร (ดู โมไซยาห์ 27:8) หลังจากการเยือนของเทพ แอลมาหมดสิ้นเรี่ยวแรงและไม่สามารถพูดได้ สามวันต่อมา แอลมามีเรี่ยวแรงเหมือนเดิมและท่านเป็นพยานถึงการเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นภายในท่าน (ดู โมไซยาห์ 27:11–24)
ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง โมไซยาห์ 27:24–26 ขณะชั้นเรียนหาดูว่าแอลมาอธิบายการเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์ครั้งนี้ว่าอย่างไร
-
คำและวลีใดในข้อเหล่านี้ช่วยนิยามความหมายของการเกิดใหม่
-
ข้อ 26 ช่วยอธิบายอย่างไรว่าเหตุใดจึงต้องเกิดใหม่ (นักเรียนพึงเข้าใจความจริงนี้: โดยการเป็นคนใหม่ในพระคริสต์เท่านั้นที่เราจะได้อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าเป็นมรดก)
เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราเกิดใหม่ทางวิญญาณ ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง โมไซยาห์ 5:1–5, 8 ขอให้ชั้นเรียนมองหาคำหรือวลีที่บ่งบอกว่าผู้คนของกษัตริย์เบ็นจามินพบกับการเกิดใหม่ทางวิญญาณ
-
ท่านพบหลักฐานอะไรที่ยืนยันว่าผู้คนของกษัตริย์เบ็นจามินประสบการเปลี่ยนแปลงทางวิญญาณแล้ว (คำตอบควรได้แก่ พวกเขาไม่มีใจจะทำความชั่วอีก พวกเขาปรารถนาจะทำความดีโดยตลอด ความคิดของพวกเขากระจ่าง พวกเขาเปี่ยมด้วยปีติและเต็มใจทำพันธสัญญากับพระเจ้า)
-
ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 2 และ 4 เราต้องทำอะไรจึงจะได้รับ “การเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำในใจ” (นักเรียนควรระบุหลักธรรมนี้: เมื่อเราใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์และได้รับพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เราจะประสบการเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำในใจ)
ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงขณะชั้นเรียนดูว่าเอ็ลเดอร์เบดนาร์อธิบายการเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำในใจว่าอย่างไร
“โปรดสังเกตว่าการเปลี่ยนใจเลื่อมใสที่อธิบายไว้ใน [โมไซยาห์ 5] ลึกล้ำ ไม่เล็กน้อยเลย—การเกิดใหม่ทางวิญญาณและการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของสิ่งที่เรารู้สึกและปรารถนา สิ่งที่เราคิดและทำ และสิ่งที่เราเป็น โดยแท้แล้ว เนื้อแท้ของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันเป็นพื้นฐานถาวรในธรรมชาติวิสัยของเราซึ่งเกิดขึ้นได้จากการที่เราวางใจใน ‘ความดีงาม, และพระเมตตา, และพระคุณของพระเมสสิยาห์ผู้บริสุทธิ์’ (2 นีไฟ 2:8)” (“ท่านทั้งหลายต้องบังเกิดใหม่,” เลียโฮนา, พ.ค. 2007, 25)
-
อะไรเด่นชัดสำหรับท่านในคำอธิบายของเอ็ลเดอร์เบดนาร์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำในใจ
เชื้อเชิญให้นักเรียนสนทนาสิ่งที่เราต้องทำเพื่อจะยังคงพบกับการเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำในใจ
ขอให้นักเรียนอ่าน โมไซยาห์ 5:7 ในใจโดยดูว่าความสัมพันธ์ของเรากับพระเยซูคริสต์เปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อเราเกิดใหม่
-
เรากลายเป็นบุตรธิดาของพระเยซูคริสต์ในด้านใด
เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงความสำคัญของการเป็น “ลูกๆ ของพระคริสต์” และเชิญพวกเขาแบ่งปันว่าสิ่งนี้ควรเป็นแรงจูงใจให้เราอย่างไรขณะที่เราพยายามเกิดใหม่
แอลมา 5:14, 26–27; อีเธอร์ 12:27
การเกิดใหม่ทางวิญญาณเรียกร้องเวลาและความพยายาม
เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองขณะชั้นเรียนฟังว่าเอ็ลเดอร์คริสทอฟเฟอร์สันพูดถึงขั้นตอนการได้รับการเปลี่ยนแปลงในใจว่าอย่างไร
“ท่านอาจถามว่า ทำไมการเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำนี้จึงไม่เกิดกับฉันเร็วกว่านี้ ท่านควรจำไว้ว่าแบบอย่างอันน่าทึ่งของผู้คนของกษัตริย์เบ็นจามิน แอลมา และคนอื่นๆ บางคนในพระคัมภีร์เป็นเช่นนั้น—น่าทึ่งแต่ไม่เป็นแบบฉบับ สำหรับเราส่วนใหญ่ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทีละน้อยและใช้เวลา การเกิดใหม่อีกครั้ง ไม่เหมือนการเกิดทางกาย เป็นกระบวนการมากกว่าเหตุการณ์ และการได้เข้าไปอยู่ในกระบวนการนั้นคือจุดประสงค์สำคัญของความเป็นมรรตัย
“ในเวลาเดียวกัน ขอให้เราอย่าหาข้อแก้ตัวต่อการกระทำที่เราไม่ตั้งใจ ขอเราอย่าพอใจที่จะเก็บความประสงค์บางอย่างที่จะทำความชั่วร้าย ขอให้เรารับส่วนศีลระลึกอย่างมีค่าควรทุกสัปดาห์และให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงถอนรากถอนโคนซากที่หลงเหลือของความไม่บริสุทธิ์ภายในตัวเราต่อไป ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าขณะที่ท่านดำเนินต่อไปในเส้นทางของการเกิดใหม่ทางวิญญาณ พระคุณแห่งการชดใช้ของพระเยซูคริสต์จะขจัดบาปของท่านรวมทั้งสิ่งแปดเปื้อนอันเกิดจากบาปเหล่านั้นในตัวท่าน การล่อลวงจะไม่น่าสนใจ และโดยผ่านพระคริสต์ท่านจะบริสุทธิ์ ดังพระองค์และพระบิดาของเราทรงบริสุทธิ์” (“การเกิดใหม่,” เลียโฮนา, พ.ค. 2008, 95)
-
ตามที่เอ็ลเดอร์คริสทอฟเฟอร์สันกล่าว เหตุใดการเกิดใหม่จึงเป็นกระบวนการมากกว่าเหตุการณ์
-
กระบวนการเกิดใหม่ทางวิญญาณช่วยให้เราบริสุทธิ์เหมือนพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์อย่างไร (ช่วยให้นักเรียนระบุถึงความจริงนี้: โดยผ่านพระคุณของพระเยซูคริสต์ เราจะได้รับการให้อภัยและได้รับความช่วยเหลือเพื่อดำเนินต่อไปบนเส้นทางของการเกิดใหม่ทางวิญญาณ)
เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจความหมายของ พระคุณ ท่านอาจจะแบ่งปันข้อความนี้จากคู่มือพระคัมภีร์
“…โดยผ่านพระคุณของพระเจ้า ผ่านศรัทธาในการชดใช้ของพระเยซูคริสต์และการกลับใจจากบาป แต่ละคนได้รับพลังและความช่วยเหลือเพื่อทำงานดีที่พวกเขาจะไม่สามารถทำได้หากปล่อยให้ทำตามวิธีของพวกเขาเอง พระคุณดังกล่าวคือพระเดชานุภาพอันกอปรด้วยพระปรีชาสามารถซึ่งยอมให้ชายหญิงได้รับชีวิตนิรันดร์และความสูงส่งหลังจากพวกเขาได้พยายามสุดความสามารถแล้ว” (คู่มือพระคัมภีร์, “พระคุณ”)
เชิญนักเรียนอ่าน แอลมา 5:14, 26–27 ในใจและดูว่าแอลมาสอนอะไรคนที่ได้เริ่มกระบวนการเกิดใหม่ทางวิญญาณและประสบการเปลี่ยนแปลงในใจแล้ว เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพวกเขาจะตอบคำถามของแอลมาอย่างไร
-
ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 27 เราต้องทำอะไรหลังจากเราได้รับการเปลี่ยนแปลงในใจ (เราต้องดำเนินต่อไปโดยปราศจากข้อตำหนิต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า นอบน้อมถ่อมตน และแสวงหาการให้อภัยบาปของเรา)
-
ท่านคิดว่าเหตุใดแอลมาจึงสอนว่าความนอบน้อมถ่อมตนเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในใจ
บอกนักเรียนว่าพระเจ้าทรงสอนอีเธอร์ว่าเหตุใดพลังของความนอบน้อมถ่อมตนจึงสำคัญขณะที่เราพยายามให้มีการเปลี่ยนแปลงในใจ เตือนนักเรียนว่าหลักธรรมพระคัมภีร์มักจะใช้คำว่า หาก และ เมื่อนั้น เชื้อเชิญให้พวกเขาทบทวน อีเธอร์ 12:27 ในใจโดยมองหาหลักธรรม “หาก-เมื่อนั้น” สนทนาหลักธรรมต่อไปนี้ตามที่นักเรียนระบุ: หากเรามาหาพระเยซูคริสต์ เมื่อนั้นพระองค์จะทรงแสดงให้เราเห็นความอ่อนแอของเรา หากเรานอบน้อมถ่อมตนและใช้ศรัทธาในพระเจ้า เมื่อนั้นพระองค์จะทรงทำให้สิ่งที่อ่อนแอกลับเข้มแข็งสำหรับเรา
-
ท่านคิดว่าเหตุใดจึงสำคัญที่เราต้องรู้ความอ่อนแอของเรา
-
ท่านคิดว่าวลี “พระคุณของเราเพียงพอสำหรับคนทั้งปวงที่นอบน้อมถ่อมตนต่อหน้าเรา” หมายความว่าอย่างไร
ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์บรูซ ซี. ฮาเฟนแห่งสาวกเจ็ดสิบ และขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง
“ถ้าท่านมีปัญหาในชีวิต อย่าคิดไปเองว่ามีบางอย่างผิดปกติ การต่อสู้กับปัญหาเหล่านั้นคือหัวใจของจุดประสงค์แห่งชีวิต เมื่อเราเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงแสดงให้เห็นความอ่อนแอของเรา และโดยผ่านความอ่อนแอ เราจะฉลาดขึ้น เข้มแข็งขึ้น ถ้าท่านเห็นความอ่อนแอของตนเองมากขึ้น นั่นอาจจะหมายความว่าท่านกำลังเข้าใกล้พระองค์มากขึ้น มิใช่ห่างออกไป” (“การชดใช้: ทั้งหมดเพื่อทั้งหมด,” เลียโฮนา, พ.ค. 2004, 119)
-
เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อหลีกเลี่ยงความท้อแท้เมื่อเรารู้ความอ่อนแอของเรา
แบ่งปันประจักษ์พยานของท่านว่าพระคุณของพระเยซูคริสต์จะช่วยให้เราเอาชนะความอ่อนแอเมื่อเราพยายามเกิดใหม่ทางวิญญาณ
สิ่งที่นักเรียนควรอ่าน
-
โมไซยาห์ 3:19; 5:1–5, 7–8; 16:2–5; 27:24–26; แอลมา 5:14, 26–27; 41:10–11; อีเธอร์ 12:27
-
เดวิด เอ. เบดนาร์, “การชดใช้และการเดินทางของความเป็นมรรตัย,” เลียโฮนา, เม.ย. 2012, 40–47