เซมินารีและสถาบัน
บทที่ 8: ความรอดผ่านมาทางพระเยซูคริสต์


บทที่ 8

ความรอดผ่านมาทางพระเยซูคริสต์

คำนำ

การที่เราพยายามติดตามพระเยซูคริสต์และรักษาบัญญัติของพระองค์ถือว่าจำเป็นแต่ยังไม่มากพอจะทำให้เรามีคุณสมบัติคู่ควรรับความรอด ความรอดของเราเกิดขึ้นได้ผ่านความดีงาม พระเมตตา และพระคุณของพระเยซูคริสต์เท่านั้น หลักคำสอนของพระคริสต์ช่วยให้เราเข้าใจว่าโดยผ่านพระคุณของพระองค์ เราสามารถเรียนรู้พระกิตติคุณ รับศาสนพิธี และมุ่งหน้าไปบนเส้นทางที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์

ความรู้พื้นฐานที่ควรอ่าน

  • ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “ของประทานแห่งพระคุณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 107–110

  • แอล. ทอม เพอร์รีย์, “พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2008, 53–56

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

2 นีไฟ 2:6–9; 25:23; โมไซยาห์ 4:6–8

ความรอดเกิดขึ้นได้เพราะพระเยซูคริสต์

ให้ดูและอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์แอล. ทอม เพอรืรีย์ (1922-2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

เอ็ลเดอร์แอล. ทอม เพอร์รีย์

“คนจำนวนมากสงสัยว่า ‘เรามาจากไหน เราอยู่ที่นี่ทำไม เราจะไปที่ไหน’ พระบิดานิรันดร์ของเรามิได้ทรงส่งเรามาแผ่นดินโลกโดยไร้จุดหมายและไร้ความหมาย พระองค์ทรงเตรียมแผนให้เราดำเนินตาม พระองค์ทรงเป็นผู้ลิขิตแผนนั้น แผนออกแบบไว้เพื่อความก้าวหน้า ความรอด และความสูงส่งในที่สุดของมนุษย์” (“แผนแห่งความรอด,” เลียโฮนา, พ.ย. 2006, 87–88)

  • เมื่อผู้คนค้นพบว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงปล่อยให้พวกเขาระหกระเหินผ่านชีวิตมรรตัยเพียงลำพังแต่ทรงจัดเตรียมแผนเพื่อความรอดของพวกเขา ท่านคิดว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน 2 นีไฟ 2:6–9 โดยดูว่าศาสดาพยากรณ์ลีไฮกล่าวว่าอะไรทำให้ความรอดเกิดขึ้นได้

  • ตามที่ลีไฮกล่าว อะไรทำให้ความรอดเกิดขึ้นได้ในแผนของพระผู้เป็นเจ้า (นักเรียนควรระบุว่า: เราจะได้รับการช่วยให้รอดผ่านความดีงาม พระเมตตา และพระคุณของพระเยซูคริสต์เท่านั้น ท่านอาจแบ่งปันนิยามต่อไปนี้เกี่ยวกับความหมายของการช่วยให้รอดหรือได้รับความรอด “ความรอด ในความหมายที่แท้จริงและสมบูรณ์มีความหมายเหมือนกับ ความสูงส่ง หรือ ชีวิตนิรันดร์ และประกอบด้วยการได้รับมรดกในระดับสูงสุดของสวรรค์สามระดับภายในอาณาจักรซีเลสเชียล นี่เป็นความรอดที่พระคัมภีร์พูดถึงซึ่งมีข้อยกเว้นไม่กี่ข้อ” [Bruce R. McConkie, Mormon Doctrine, 2nd ed. (1966), 670])

  • ความดีงาม พระเมตตา และ พระคุณ ของพระเยซูคริสต์หมายถึงอะไร ( ความดีงาม ของพระเยซูคริสต์คือพระกรณียกิจอันชอบธรรมของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชดใช้ของพระองค์ พระเมตตา หมายถึงความสงสารและความอดกลั้นที่ทรงมีต่อเราทั้งๆ ที่เราทำบาป พระคุณ หมายถึงความช่วยเหลือที่ทรงมอบให้เราในรูปของความเมตตา ความรัก ความกรุณา และเดชานุภาพอันกอปรด้วยพระปรีชาสามารถซึ่งยอมให้เราได้รับชีวิตนิรันดร์และความสูงส่งหลังจากเราพยายามสุดความสามารถแล้ว ดู Bible Dictionary, Grace ด้วย)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักคำสอนเรื่องนี้ลึกซึ้งขึ้น ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ และขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ

“เราไม่อาจเปิดทางเข้าสู่สวรรค์ ข้อเรียกร้องของความยุติธรรมขวางกั้นอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่มีอำนาจจะเอาชนะได้ด้วยตนเอง

“แต่ยังไม่สิ้นหวัง

“พระคุณของพระผู้เป็นเจ้าคือความหวังที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืนของเรา

“โดยผ่านการพลีพระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์ แผนแห่งความเมตตาทำให้พอแก่ข้อเรียกร้องของความยุติธรรม [ดู แอลมา 42:15]” (“ของประทานแห่งพระคุณ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 108)

  • เหตุใดความชอบธรรมของคนๆ หนึ่งจึงไม่พอจะสนอง “ข้อเรียกร้องของความยุติธรรม” และได้รับชีวิตนิรันดร์ (ถึงแม้ในที่สุดเราอาจดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติได้อย่างสมบูรณ์ แต่ไม่มีใครมีชีวิตดีพร้อมยกเว้นพระผู้ช่วยให้รอด [ดู โรม 3:23] แม้เราจะหยุดทำบาป แต่เราไม่สามารถลบความเสียหายหรือความรู้สึกผิดจากการกระทำในอดีตของเราได้ นี่คือสาเหตุที่การชดใช้และพระคุณจำเป็น)

เตือนนักเรียนว่าถึงแม้เราจะได้รับการช่วยให้รอดผ่านความดีงาม พระเมตตา และพระคุณของพระเยซูคริสต์เท่านั้น แต่ศาสดาพยากรณ์ในพระคัมภีร์มอรมอนสอนสิ่งที่เราต้องทำเพื่อเข้าถึงเดชานุภาพแห่งการไถ่ของพระผู้ช่วยให้รอดด้วย

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง โมไซยาห์ 4:6–8 และขอให้ชั้นเรียนมองหาสิ่งที่กษัตริย์เบ็นจามินสอนว่าเราต้องทำจึงจะได้รับความรอดผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์

  • ตามที่กษัตริย์เบ็นจามินกล่าว เราต้องทำอะไรจึงจะได้รับความรอดผ่านการชดใช้ (เข้าถึงความรู้เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าและการชดใช้ มอบความไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้า รักษาพระบัญญัติอย่างขยันหมั่นเพียร และดำเนินต่อไปด้วยความเชื่อจนถึงที่สุดของชีวิตเรา)

ขอให้นักเรียนอ่าน 2 นีไฟ 25:23

  • นีไฟสอนหลักคำสอนใดเกี่ยวกับความรอดของเรา (นักเรียนควรค้นพบหลักคำสอนต่อไปนี้: เพราะการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ เราจึงรอดได้โดยพระคุณหลังจากเราทำสุดความสามารถแล้ว ช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าโดยผ่านพระเยซูคริสต์เท่านั้นที่เราจะบริสุทธิ์และเป็นเหมือนพระบิดาในสวรรค์ได้)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักคำสอนนี้ดีขึ้น เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงข้อความต่อไปนี้ของประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน (1899–1994)

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน

“‘หลังจากเราทำทุกสิ่ง’ อย่างสุดความสามารถของเรา รวมถึงการดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติ

“‘หลังจากเราทำทุกสิ่งจนสุดความสามารถแล้ว’ รวมถึงการรักเพื่อนมนุษย์และสวดอ้อนวอนให้คนที่ถือว่าเราเป็นปฏิปักษ์ของพวกเขา หมายถึงการให้เสื้อผ้าคนเปลือยเปล่า ให้อาหารคนหิวโหย เยี่ยมเยียนคนเจ็บป่วย และให้ความ ‘ช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ [ของเรา]’ (โมไซยาห์ 4:16)—โดยจำไว้ว่าสิ่งที่เราทำให้แก่ลูกที่ต่ำต้อยที่สุดของพระผู้เป็นเจ้า เท่ากับเราทำให้พระองค์

“‘หลังจากเราทำทุกสิ่งจนสุดความสามารถแล้ว’ หมายถึงการดำเนินชีวิตให้สะอาด บริสุทธิ์ และดีงาม ซื่อสัตย์อย่างครบถ้วนในการติดต่อและการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่เราต้องการให้พวกเขาปฏิบัติต่อเรา” (Redemption through Christ after All We Can Do, Liahona, Dec. 1988, 5)

  • ท่านเคยประสบพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอดที่ช่วยท่านนอกเหนือจากความสามารถของท่านในด้านใดขณะท่านพยายามมาหาพระองค์สุดความสามารถ

ใช้ข้อความต่อไปนี้ และของประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันช่วยนักเรียนไตร่ตรองคำถามนี้ก่อนตอบ

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน

“ศาสนจักรเราเห็นพ้องกับนีไฟผู้กล่าวว่า ‘โดยพระคุณนั่นเองที่เราได้รับการช่วยให้รอด, หลังจากเราทำทุกสิ่งจนสุดความสามารถแล้ว’ (2 นีไฟ 25:23) …

“โดยพระคุณ พระผู้ช่วยให้รอดทรงพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ทั้งนี้เพื่อให้มวลมนุษย์ได้รับความเป็นอมตะ

“โดยพระคุณของพระองค์ และโดยศรัทธาของเราในการชดใช้และการกลับใจจากบาป เราได้รับความเข้มแข็งเพื่อทำงานจำเป็นที่เราจะทำด้วยพลังความสามารถของเราเองไม่ได้

“โดยพระคุณของพระองค์เราได้รับการประสาทพรและความเข้มแข็งทางวิญญาณซึ่งสุดท้ายแล้วจะนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร์ถ้าเราอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่

“โดยพระคุณเราจะเป็นผู้มีบุคลิกลักษณะเหมือนพระองค์มากขึ้น” (Redemption through Christ after All We Can Do, 4–5)

  • ท่านคิดว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อแสดงความสำนึกคุณต่อสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงทำให้เกิดขึ้น

เป็นพยานว่าโดยผ่านพระคุณที่เป็นไปได้ผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์เท่านั้นเราจึงสามารถเอาชนะผลจากการตกของอาดัมและเอวา ได้รับการปลดบาป เอาชนะความไม่ดีพร้อม และเจริญก้าวหน้าสู่ความดีพร้อม กระตุ้นให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพวกเขากำลังทำทุกสิ่งสุดความสามารถหรือไม่เพื่อให้ได้รับพรแห่งพระคุณของพระเจ้า

2 นีไฟ 31:2, 10–21; 3 นีไฟ 11:31–40; 3 นีไฟ 27:13–22

หลักคำสอนของพระคริสต์

เขียนข้ออ้างอิงต่อไปนี้ไว้บน กระดาน

2 นีไฟ 31:2, 10–21

3 นีไฟ 11:31-40

3 นีไฟ 27:13-22

มอบหมายให้ชั้นเรียนส่วนหนึ่งศึกษา 2 นีไฟ 31:2, 10–21ชั้นเรียนส่วนที่สองศึกษา 3 นีไฟ 11:31–40และส่วนที่สามศึกษา 3 นีไฟ 27:13–22 ก่อนนักเรียนเริ่ม ชี้ให้เห็นว่าข้อเหล่านี้มีคำว่า “หลักคำสอนของพระคริสต์” “หลักคำสอนของเรา” หรือ “กิตติคุณของเรา” อธิบายว่าหลักคำสอนหรือพระกิตติคุณของพระคริสต์ประกอบด้วยสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงทำมาแล้วและทรงทำต่อไปเพื่อดึงเรามาหาพระบิดา ทั้งยังประกอบด้วยสิ่งที่เราต้องทำเพื่อให้ได้รับพรจากการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ เชิญแต่ละกลุ่มระบุและทำเครื่องหมายสิ่งที่ข้อเหล่านี้สอนเกี่ยวกับหลักคำสอนของพระคริสต์—สิ่งที่พระคริสต์ทรงทำมาแล้วและสิ่งที่เราต้องทำ

หลังจากนักเรียนมีเวลาศึกษาข้อที่ตนได้รับมอบหมายแล้ว ขอให้พวกเขาเขียนสิ่งที่พบไว้บนกระดานข้างๆ ข้ออ้างอิงแต่ละข้อ จากนั้นให้ถามว่า

  • พระเยซูคริสต์ทรงทำอะไรเพื่อดึงเรามาหาพระบิดา

  • เราต้องทำสิ่งใดบ้างจึงจะได้รับพรจากการชดใช้ของพระคริสต์ (เราต้องมีศรัทธา กลับใจ รับบัพติศมา รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ อดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ รับและเชื่อฟังการเปิดเผยส่วนตัว)

  • ท่านจะสรุปความสำคัญของการดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนหรือพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ว่าอย่างไร (นักเรียนควรค้นพบหลักธรรมทำนองนี้: เมื่อเราดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระคริสต์ เราจะได้รับพรของการชดใช้และได้รับชีวิตนิรันดร์)

ท่านอาจจะถามคำถามต่อไปนี้ตามความต้องการของนักเรียนเพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อพระคัมภีร์ที่พวกเขาอ่าน

  • วลีใดใน 2 นีไฟ 31:20 มีความหมายพิเศษต่อท่าน และช่วยให้ท่านได้รับพรของการชดใช้อย่างไร

  • ตามที่สอนไว้ใน 2 นีไฟ 31:13–14, 17บัพติศมา “ด้วยไฟ” หมายถึงอะไร (คนๆ นั้นได้รับการปลดบาปและการชำระให้สะอาดที่ผ่านมาทางพระวิญญาณบริสุทธิ์)

  • ตามที่กล่าวไว้ใน 3 นีไฟ 11:39–40เหตุใดจึงสำคัญที่แต่ละคนต้องยอมรับหลักคำสอนของพระคริสต์ (ท่านอาจต้องการเชื้อเชิญให้นักเรียนทำการอ้างโยงข้อนี้กับ ฮีลามัน 5:12)

  • ตามที่กล่าวไว้ใน 3 นีไฟ 27:14–16 เกิดอะไรขึ้นกับเราเมื่อเราดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนหรือพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

สรุปโดยให้ดูข้อความต่อไปนี้จาก สั่งสอนกิตติคุณของเรา: แนวทางการรับใช้งานเผยแผ่ศาสนา เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านและมองหาด้านต่างๆ ที่การดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระคริสต์สามารถเป็นพรแก่พวกเขาตลอดชีวิต

“บุคคลและครอบครัวเริ่มปฏิบัติตามพระคริสต์เมื่อเขาใช้ศรัทธาในพระองค์และกลับใจจากบาปของเขา เขารับการปลดบาปโดยทางบัพติศมาและโดยการรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์จากผู้มีสิทฺธิอำนาจจากพระผู้เป็นเจ้าให้ประกอบศาสนพิธีเหล่านี้ จากนั้นเขาจะอดทนจนถึงที่สุดหรือพูดอีกนัยหนึ่งเขาใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ กลับใจ และต่อพันธสัญญาที่ได้ทำไว้อย่างต่อเนื่องตลอดไปในชีวิตของเขา ไม่ใช่ว่าในชีวิตเขาจะได้รับประสบการณ์จากขั้นตอนเหล่านี้เพียงครั้งเดียว แต่เมื่อทำซ้ำไปตลอดชีวิต ขั้นตอนเหล่านี้จะกลับเป็นรูปแบบของการดำเนินชีวิตซึ่งมีรางวัลเพิ่มขึ้นเสมอ อันที่จริง นี่คือวิธีดำเนินชีวิตเพียงวิธีเดียวที่จะนำสันติสุขแห่งมโนธรรมมาให้และทำให้ลูกๆ ของพระบิดาบนสวรรค์สามารถกลับไปอยู่ในที่ประทับของพระองค์ได้” (สั่งสอนกิตติคุณของเรา [2004], 8)

  • การดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระคริสต์ “เป็นรูปแบบของการดำเนินชีวิตซึ่งมีรางวัลเพิ่มขึ้นเสมอ” สำหรับท่านอย่างไร

กระตุ้นให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพวกเขาดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระคริสต์ดีเพียงใด ขอให้พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ได้รับพรจากการดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระคริสต์

สิ่งที่นักเรียนควรอ่าน