บทที่ 12 งานเผยแผ่ของแซมิวเอล สมิธ มิถุนายน 1830 แซมิวเอล สมิธเป็นน้องชายของโจเซฟ สมิธ พระเยซูทรงต้องการให้แซมิวเอลไปเป็นผู้สอนศาสนา แซมิวเอล สมิธเป็นผู้สอนศาสนาคนแรกของศาสนจักร แซมิวเอลไปสอนพระกิตติคุณให้ผู้คนและบอกพวกเขาเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน ในวันแรกเขาเดินทาง 25 ไมล์ แต่ผู้คนปฏิบัติต่อเขาไม่ดีและไม่ต้องการรับฟังเขา คืนหนึ่ง แซมิวเอลหยุดพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ท่านถามเจ้าของโรงแรมว่าต้องการจะซื้อพระคัมภีร์มอรมอนหรือไม่ เจ้าของโรงแรมถามว่าแซมิวเอลได้พระคัมภีร์มาจากไหน แซมิวเอลกล่าวว่าพี่ชายของเขาแปลพระคัมภีร์จากแผ่นจารึกทองคำ เจ้าของโรงแรมโกรธ เขากล่าวว่าแซมิวเอลโกหก เขาไล่แซมิวเอลออกจากโรงแรม แซมิวเอล สมิธท้อแท้ คืนนั้นแซมิวเอลต้องนอนใต้ต้นแอปเปิ้ล เช้าวันรุ่งขึ้นแซมิวเอลไปหาจอห์น กรีน เขาเป็นผู้นำของศาสนจักรอีกแห่งหนึ่ง นายกรีนไม่สนใจพระคัมภีร์มอรมอน แต่เขายินดีจะถามผู้คนในศาสนจักรของเขาว่าต้องการจะซื้อพระคัมภีร์หรือไม่ เมื่อแซมิวเอลกลับไปหลังจากผ่านไปสามสัปดาห์ พระคัมภีร์ยังคงขายไม่ได้แม้แต่เพียงเล่มเดียว อย่างไรก็ตาม ภรรยาของนายกรีนกล่าวว่าเธออ่านพระคัมภีร์แล้ว งานเผยแผ่ของแซมิวเอลเป็นเรื่องยากลำบาก เมื่อเขากลับบ้าน เขาไม่คิดว่าตนเองประสบความสำเร็จ ในเวลานั้นแซมิวเอลไม่ทราบว่าท้ายที่สุดแล้วการทำงานของเขาจะพาผู้คนมากมายมาเข้าร่วมกับศาสนจักร รวมถึงนายกรีนและนางกรีนด้วย แซมิวเอลขายพระคัมภีร์มอรมอนให้ชายคนหนึ่งชื่อฟินีอัส ยังก์ ฟินีอัสอ่านพระคัมภีร์และให้พระคัมภีร์แก่น้องชายของเขา น้องชายคนนั้นชื่อบริคัม ยังก์ บริคัม ยังก์อ่านพระคัมภีร์มอรมอน ท่านเชื่อว่าเป็นความจริง ฟินีอัสและบริคัม ยังก์บอกเพื่อนบางคนเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน พวกเขาอ่านและเชื่อว่าพระคัมภีร์เป็นความจริง ต่อมาฟินีอัสและบริคัม ยังก์รวมทั้งเพื่อนๆ เข้าร่วมศาสนจักร สองสามปีต่อมาบริคัม ยังก์ได้รับเรียกเป็นอัครสาวก หลายปีต่อจากนั้นท่านเป็นประธานของศาสนจักร บริคัม ยังก์และคนอื่นๆ ที่เปลี่ยนใจเลื่อมใสผ่านความพยายามของแซมิวเอล สมิธกลายมาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในศาสนจักร