เรื่องราวในพระคัมภีร์
บทที่ 3: เทพโมโรไนและแผ่นจารึกทองคำ: 1823–1827


บทที่ 3

เทพโมโรไนและแผ่นจารึกทองคำ

1823–1827

โจเซฟวัย 17 ปีสวดอ้อนวอน

สามปีผ่านไปหลังจากโจเซฟเห็นนิมิตแรก ท่านอายุสิบเจ็ดปี โจเซฟสงสัยว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้ท่านทำอะไร คืนหนึ่งโจเซฟสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านมีศรัทธาว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงบอกท่านถึงสิ่งที่ท่านควรทำ

เทพโมโรไนปรากฏต่อโจเซฟ

โจเซฟเห็นแสงสว่างในห้องของท่าน เทพองค์หนึ่งยืนอยู่ในแสง ใบหน้าของเทพสว่างเจิดจ้ามาก ท่านสวมเสื้อคลุมสีขาวสวยงาม

เทพโมโรไน

เทพกล่าวว่าชื่อของท่านคือโมโรไน พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งท่านมาพูดกับโจเซฟ โมโรไนกล่าวว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงมีงานให้โจเซฟทำ

พระคริสต์ทรงปรากฏต่อชาวนีไฟ

เทพโมโรไนบอกโจเซฟเกี่ยวกับหนังสือเล่มหนึ่ง หนังสือเล่มนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้คนในอเมริกาในสมัยก่อน พระเยซูคริสต์เสด็จมาหาผู้คนเหล่านี้และทรงสอนพระกิตติคุณของพระองค์ให้พวกเขา

แผ่นจารึกทองคำ

โมโรไนกล่าวว่าหนังสือเล่มนั้นเขียนบนแผ่นทองคำที่เรียกว่าแผ่นจารึก หนังสือเขียนในภาษาที่เราไม่รู้จักในปัจจุบัน พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการให้โจเซฟแปลหนังสือเป็นภาษาอังกฤษ

เนินเขาคาโมราห์

เทพโมโรไนกล่าวว่าแผ่นจารึกทองคำฝังไว้ในภูเขาใกล้บ้านของโจเซฟ โมโรไนกล่าวว่ามีหินสองก้อนซ่อนอยู่กับแผ่นจารึก หินสองก้อนนั้นเรียกว่าอูริมและทูมมิม หินสองก้อนจะช่วยโจเซฟแปลหนังสือ ขณะที่โมโรไนกำลังพูด โจเซฟเห็นนิมิตที่แสดงให้เห็นว่าแผ่นจารึกถูกฝังไว้ที่ใด

ศาสดาพยากรณ์เอลียาห์

โมโรไนบอกโจเซฟเกี่ยวกับเอลียาห์ ผู้เป็นศาสดาพยากรณ์ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีชีวิตอยู่นานมาแล้ว เรื่องราวของเอลียาห์อยู่ในพันธสัญญาเดิม

ครอบครัวที่หน้าพระวิหาร

โมโรไนกล่าวว่าเอลียาห์จะมาฟื้นฟูอำนาจฐานะปุโรหิตพิเศษบนแผ่นดินโลก อำนาจนี้จะช่วยให้ครอบครัวที่ชอบธรรมได้รับการผนึกเข้าด้วยกันในพระวิหารเพื่อพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันตลอดกาล

โมโรไนปรากฏต่อโจเซฟ

เทพโมโรไนจากไปและกลับมาอีกสองครั้งในคืนนั้น แต่ละครั้งท่านพูดกับโจเซฟหลายเรื่อง และจากไปในเวลาเช้า โจเซฟตื่นขึ้นและไปทำงานในฟาร์มกับบิดาของท่าน

โมโรไนกับโจเซฟ

โจเซฟอ่อนเพลียมากถึงกับทำงานไม่ได้ ดังนั้นบิดาจึงบอกให้ท่านกลับบ้าน ขณะเดินกลับบ้าน โจเซฟล้มลงที่พื้น จากนั้นโมโรไนมาหาท่านอีกครั้งและกล่าวซ้ำถึงเรื่องที่บอกไปเมื่อคืน เมื่อโมโรไนจากไป โจเซฟบอกบิดาถึงสิ่งที่โมโรไนสอน บิดาของโจเซฟเชื่อท่าน เขารู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงส่งโมโรไนมาหา และท่านบอกให้โจเซฟเชื่อฟังโมโรไน

โจเซฟค้นพบแผ่นจารึกทองคำ

โจเซฟไปยังเนินเขาที่แผ่นจารึกทองคำฝังอยู่ ท่านพบแผ่นจารึกอยู่ในหีบศิลาที่อยู่ใต้ศิลาใหญ่ก้อนหนึ่ง อูริมและทูมมิมอยู่ในหีบนั้นด้วย

โมโรไนห้ามโจเซฟยกแผ่นจารึกออกมา

ขณะโจเซฟอยู่ที่เนินเขา เทพโมโรไนมาหาท่าน โมโรไนยังไม่อนุญาตให้โจเซฟนำแผ่นจารึกทองคำออกมา ท่านบอกให้โจเซฟมาที่เนินเขาในวันเดียวกันนี้ทุกปีเป็นเวลาสี่ปี

โมโรไนยืนอยู่ต่อหน้าโจเซฟ

โจเซฟเชื่อฟังโมโรไนและกลับไปที่เนินเขาคาโมราห์ทุกปี โมโรไนสอนโจเซฟเกี่ยวกับอาณาจักรของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก

โจเซฟเดิน

ครอบครัวของโจเซฟยากจนและต้องการเงิน โจเซฟต้องการช่วยเหลือครอบครัว ท่านจึงไปทำงานที่รัฐเพนน์ซิลเวเนีย ท่านพักอยู่กับชายคนหนึ่งชื่อนายเฮล

โจเซฟแต่งงานกับเอมมา

นายเฮลมีลูกสาวชื่อเอมมา โจเซฟกับเอมมารักกันและในไม่ช้าพวกเขาก็แต่งงานกัน จากนั้นทั้งสองไปอยู่กับครอบครัวของโจเซฟในนิวยอร์ก โจเซฟช่วยบิดาทำงานในฟาร์ม

โมโรไนมอบแผ่นจารึกให้โจเซฟ

หลายเดือนหลังจากโจเซฟกับเอมมาแต่งงานกัน โจเซฟกลับไปที่เนินเขาคาโมราห์อีกครั้ง เป็นเวลาสี่ปีแล้วหลังจากที่โจเซฟเห็นแผ่นจารึกทองคำครั้งแรก และครั้งนี้โมโรไนอนุญาตให้ท่านนำกลับไปได้ โมโรไนบอกให้โจเซฟรักษาแผ่นจารึกไว้ให้ดี

โจเซฟซ่อนแผ่นจารึก

หลายคนรู้ว่าโจเซฟได้รับแผ่นจารึกทองคำ พวกเขาพยายามขโมยแผ่นจารึกไปจากท่าน แต่ท่านซ่อนไว้ในที่ซึ่งคนชั่วร้ายไม่มีทางหาเจอ พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยโจเซฟเก็บรักษาแผ่นจารึกทองคำไว้อย่างปลอดภัย

ฝูงชนบนถนน

ผู้คนในละแวกนั้นทำให้โจเซฟต้องพบกับความยากลำบาก พวกเขาใส่ร้ายท่านและครอบครัวของท่าน

โจเซฟและเอมมาพบกับมาร์ติน แฮร์ริส

ปัญหานั้นรุนแรงมากจนทำให้โจเซฟและเอมมาตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่ที่เพนน์ซิลเวเนีย โจเซฟหวังว่าท่านจะเริ่มแปลแผ่นจารึกได้อย่างสงบ ชายคนหนึ่งชื่อมาร์ติน แฮร์ริสอาศัยอยู่ใกล้กับโจเซฟ เขาใจดีต่อโจเซฟกับเอมมาและให้เงินช่วยเหลือพวกท่านในการย้ายบ้าน