บทที่ 13
โจเซฟและเอมมา
กรกฎาคม 1830
โจเซฟและเอมมาอดทนต่อความยากลำบากมากมาย พวกท่านมีบุตรชาย แต่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นทารก พวกท่านโศกเศร้ามาก
โจเซฟเป็นห่วงครอบครัวของท่าน พวกท่านยากจนแต่โจเซฟต้องการดูแลครอบครัว ท่านต้องปลูกธัญพืชเพื่อให้ครอบครัวท่านมีอาหารรับประทาน
โจเซฟห่วงใยศาสนจักรเช่นกัน คนชั่วร้ายบางคนยังคงก่อความเดือดร้อนให้วิสุทธิชน ผู้นำบางคนของศาสนจักรต้องหลบซ่อนตัวให้พ้นจากคนเหล่านั้น
บางครั้งโจเซฟต้องออกจากบ้านเพื่อไปช่วยวิสุทธิชน โจเซฟเสียใจที่ต้องจากครอบครัว เอมมาเป็นห่วงโจเซฟเมื่อท่านจากไป
โจเซฟสวดอ้อนวอนเพื่อจะรู้ว่าท่านควรทำอะไร พระเยซูทรงบอกท่านว่าอย่ากลัวคนที่พยายามจะทำร้ายท่าน พระเยซูตรัสว่าโจเซฟควรอดทนต่อความทุกข์ยาก พระองค์ตรัสว่าจะทรงช่วยโจเซฟเสมอ
พระเยซูตรัสว่าโจเซฟควรปลูกธัญพืชและจากนั้นควรไปช่วยเหลือวิสุทธิชนในพื้นที่อื่นๆ พระเยซูทรงบอกโจเซฟด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอาหาร เสื้อผ้าหรือเงิน วิสุทธิชนจะให้สิ่งที่จำเป็นแก่โจเซฟ
พระเยซูประทานการเปิดเผยแก่เอมมาผ่านโจเซฟ สมิธ พระเยซูตรัสว่าเอมมา สมิธเป็นสตรีที่พิเศษ พระองค์ทรงเลือกให้เธอทำงานสำคัญ
พระเยซูตรัสว่าเอมมาควรปลอบโยนโจเซฟเมื่อท่านมีความทุกข์ เธอควรช่วยให้ท่านมีความสุขและไม่กังวล
พระเยซูตรัสว่าเอมมาควรสอนวิสุทธิชนและช่วยให้พวกเขาเรียนรู้พระคัมภีร์ พระองค์ตรัสว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงช่วยให้เธอรู้ว่าควรจะสอนอะไร
พระเยซูตรัสว่าเอมมาควรใช้เวลาในการศึกษา เธอควรเรียนรู้และเขียนเรื่องราวต่างๆ
พระเยซูทรงขอให้เอมมาเลือกเพลงให้วิสุทธิชนร้อง เพลงเหล่านั้นจะพิมพ์ลงในหนังสือเพลงสวด
พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยเมื่อคนชอบธรรมร้องเพลง เพลงของพวกเขาเป็นคำสวดอ้อนวอนพระองค์ และคำสวดอ้อนวอนเหล่านี้จะได้รับคำตอบเป็นพร
พระเยซูทรงบอกให้เอมมานอบน้อมถ่อมตนและรักสามีของเธอ พระองค์ทรงบอกให้เธอมีความสุข เพราะโจเซฟจะได้รับพรยิ่งใหญ่หลายประการ
พระเยซูทรงบอกให้เอมมามีความสุขและชื่นชมยินดี พระองค์ทรงบอกให้เธอรักษาพันธสัญญาเช่นกัน หากเธอทำ เธอจะได้รับพรยิ่งใหญ่และจะได้กลับไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์
พระเยซูตรัสว่าสิ่งที่พระองค์ทรงบอกเอมมา สมิธนั้นเป็นพระดำรัสสำหรับทุกคน