บทที่ 27 ศาสดาพยากรณ์ดำเนินงานต่อไปแม้มีการข่มเหง มีนาคม 1832 โจเซฟ สมิธกับซิดนีย์ ริกดันยังคงดำเนินการแก้ไขพระคัมภีร์ไบเบิลต่อไปภายใต้การดลใจ พระเยซูทรงเปิดเผยสิ่งที่ควรแก้ไขแก่โจเซฟ และซิดนีย์ ริกดันจดบันทึกสิ่งเหล่านั้น (ดู บทที่ 16) โจเซฟ สมิธไม่เข้าใจบางส่วนของพระคัมภีร์ไบเบิล ท่านสวดอ้อนวอนทูลขอความเข้าใจ และพระเจ้าทรงตอบ การเปิดเผยหลายอย่างในหลักคำสอนและพันธสัญญาเป็นคำตอบของคำถามหลายข้อที่ศาสดาพยากรณ์ทูลถามพระเจ้าขณะแปลพระคัมภีร์ไบเบิล (ดู ตัวอย่างหลักคำสอนและพันธสัญญา 76, คพ. 77, คพ. 113) พระเยซูพอพระทัยกับงานของโจเซฟ โจเซฟเป็นศาสดาพยากรณ์ที่ยิ่งใหญ่ ในช่วงเวลานี้โจเซฟและเอมมามีลูกฝาแฝดที่มีชีวิตอยู่เพียงสองสามชั่วโมง เพื่อนของโจเซฟและเอมมามีลูกฝาแฝดเช่นกัน มารดาของเด็กฝาแฝดคู่นี้เสียชีวิต บิดาของพวกเขาอนุญาตให้โจเซฟและเอมมารับอุปการะเด็กทั้งสอง คืนหนึ่งกลุ่มคนร้ายที่โกรธแค้นเข้าไปในบ้านของโจเซฟ พวกเขาพังประตูเข้าไปข้างใน โจเซฟอุ้มลูกคนหนึ่งอยู่ ลูกคนนั้นกำลังป่วยมาก พวกเขาจับตัวโจเซฟและลากท่านออกไปข้างนอกในคืนอันหนาวเย็นของฤดูหนาว ทารกน้อยถูกทิ้งไว้ตามลำพัง ต่อมาอีกห้าวันเด็กสิ้นชีวิต พวกเขาบีบคอโจเซฟและพยายามกรอกยาพิษใส่ปากท่าน พวกเขาทำให้ฟันของท่านหักหนึ่งซี่ และยาพิษทำให้ผิวหนังของท่านไหม้ คนพวกนั้นฉีกเสื้อผ้าของโจเซฟแล้วเอาน้ำมันดินละเลงบนตัวท่าน พวกเขาโปรยขนนกลงบนน้ำมันดินและทุบตีท่าน จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็จากไป พวกเขาคิดว่าโจเซฟจะต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน โจเซฟพยายามยืนขึ้น แต่ท่านไม่สามารถทำได้ ท่านนอนพักอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นจึงคลานกลับไปที่บ้าน เพื่อนๆ ของโจเซฟช่วยกันล้างน้ำมันดินออกจากร่างกายของท่าน ยากมากที่จะล้างออกหมด ผิวหนังของท่านพองและเป็นแผล วันต่อมาคือวันอาทิตย์ แม้จะเจ็บปวดอย่างมาก แต่โจเซฟไปโบสถ์และเป็นผู้พูด มีบางคนในกลุ่มคนร้ายมาการประชุมด้วย พวกเขาประหลาดใจที่เห็นโจเซฟ ศาสดาพยากรณ์ไม่ยอมให้พวกเขาหยุดยั้งท่านไม่ให้ทำงานของพระเจ้า